รักลวง บทที่ ๒๐ : ใครจะเป็นรายต่อไป ?
รักลวง
บทที่ ๒๐ : ใครจะเป็นรายต่อไป ?
ศศิธรสีเงินยวงหลบเร้นแสงในม่านเมฆที่ก่อตัวเหนือท้องนภาสีนิล เรือนไทยหลังงามตั้งตระหง่านท่ามกลางความมืดดำแห่งรัตติกาล มีเพียงหลอดไฟดวงเล็กส่องแสงวับแวมภายในตัวเรือนเท่านั้นที่ให้ความสว่างอยู่ ณ ขณะนี้
รถยนต์คันเก่งของวีรากานต์จอดสนิทที่โรงจอดรถภายในบ้านซึ่งเขาเป็นเจ้าของ สาวหล่อท่าทางปราดเปรียวลงมาจากรถหลังจากจอดนิ่งสนิทแล้วตามด้วยหลานสาวของเขา ในขณะที่ป๋องแป้งถือกระเป๋าเดินทางตามขึ้นเรือนอย่างเงียบๆ
วีรากานต์เดินไปนั่งพักบริเวณหอนั่งของตัวเรือน หญิงสาวผู้เป็นแขกของบ้านเดินตามเข้ามานั่งข้างๆมีนาด้วยใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จิตใจของเธอในยามนี้เต็มไปด้วยความวิตกกังวล ความสับสน และความหวาดกลัวปนเปกันไปหมด
หนูป๋องแป้งเป็นอะไรไปจ๊ะ หน้าซีดเชียว วีรากานต์ถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อหันมาเจอสีหน้าของสาวเจ้า
เปล่าค่ะ ตอบด้วยน้ำเสียงแผ่ว
สงสัยยายป๋องแป้งจะหิวข้าวมั้งคะน้าเพลง เรายังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงกันเลย นี่ก็ค่ำเต็มทีแล้ว หนูเองก็หิวข้าวมากเลยค่ะตอนนี้ มีนาตอบด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว
ถ้าอย่างนั้นเราไปทานข้าวกันดีกว่า ป่านนี้ป้าอิ่มคงจัดสำรับเสร็จแล้วกระมัง สาวหล่อผู้สูงวัยที่สุด ณ ที่นี้ เดินนำหน้าเข้าไปในห้องอาหารซึ่งบัดนี้อาหารนานาชนิดส่งกลิ่นอันโอชารสถูกจัดวางไว้บนโต๊ะอาหารอย่างเป็นระเบียบ หากแต่ในห้องอาหารและบนเรือนไม่มีป้าอิ่มหรือสาวใช้คนใดอยู่สักคน
"อาหารน่าทานจังเลยค่ะ ทานเลยนะคะ หนูหิวไส้จะขาดแล้วค่ะ มีนาพูดก่อนจะลงมือตักข้าวเข้าปากด้วยความหิวโหย ในขณะที่ป่องแป้งรับประทานอาหารด้วยความรู้สึกแปลกๆ เพียงไม่นานหญิงสาวก็รับรู้ถึงความผิดปรกติภายในปาก หญิงสาวก้มมองช้อนและสำรับอาหารก็ถึงกับพะอืดพะอมเพราะภายในจานข้าวและอาหารบนโต๊ะเต็มไปด้วยหนอนตัวเขื่องและสิ่งมีชีวิตที่น่ารังเกียจอยู่เต็มไปหมด
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
จะกรีดร้องทำไมนังป๋องแป้ง พวกที่ชอบลักขโมยของเขากินอย่างมึงกินอาหารอย่างนี้เหมาะสมแล้ว! ฝีสาวหน้าเละตะโกนใส่หน้าป๋องแป้ง ทำให้หญิงสาวตกใจแทบสิ้นสติก่อนหลับหูหลับตาวิ่งออกไปจากห้องอาหาร
หนูป๋องแป้งตื่นได้แล้วจ๊ะ ถึงบ้านแล้ว น้ำเสียงนุ่มของวีรากานต์ที่ส่งเสียงปลุกเพียงเบาๆ ทำให้ป๋องแป้งลืมตาตื่นขึ้นมา เธอฝันไปอย่างนั้นหรือ แล้วเธอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ค่ะ ป๋องแป้งรับคำด้วยความเขินอาย ท้องฟ้าเหนือเรือนไทยหลังงามสว่างสดใส พระจันทร์สีนวลสุกกระจ่างกำลังทอแสงนวลเย็นมายังตัวเรือน
ส่งกระเป๋ามาสิจ๊ะเดี๋ยวน้าช่วยถือ วีรากานต์ส่งยิ้มสดใสมาให้พร้อมกับยื่นมือมาช่วยถือกระเป๋าเดินทางใบไม่ใหญ่นักซึ่งหญิงสาวถืออยู่ให้
ขอบคุณค่ะ กล่าวขอบคุณในความมีน้ำใจของผู้สูงวัยกว่าก่อนจะเดินเคียงคู่กันขึ้นไปบนเรือน มีนาเดินตามขึ้นเรือนด้วยความสุขใจ เธอยินดียิ่งนักหากน้าสาวของเธอจะเปิดใจให้ใครสักคนได้เข้ามาในชีวิตและยิ่งใครคนนั้นเป็นป๋องแป้งเพื่อนสนิทของเธอ เธอก็ยิ่งมีความสุข
บนเรือนป้าอิ่มกำลังกำกับสาวใช้หน้าตาดีหลายนางให้จัดสำรับกับข้าวอย่างขะมักเขม้น ในขณะที่อินทุภาลอบมองอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นรีรากานต์เดินเคียงคู่กันเข้ามายังหอนั่ง
มัวทำอะไรอยู่ล่ะนังอินทร์ รีบๆหาน้ำหาท่าขนมของว่างให้คุณๆได้ทานรองท้องหน่อยเร็ว ป่านนี้หิวกันแย่แล้ว ป้าอิ่มเดินมาสำทับบุตรสาวของตน
จ๊ะแม่ อินทุภากระฟัดกระเฟียดรินน้ำผสมน้ำยาอุทัยสีแดงใสและน้ำส้มคั้นสีสดใส่แก้วก่อนจะจัดของว่างนำไปเสิร์ฟเจ้านาย
กับข้าวเสร็จหรือจังจ๊ะพี่อินทร์ มีนาหิวจนไส้จะขาดแล้วค่ะ มีนาหันมาถามสาวใช้หน้าสวยเมื่อหล่อนนำของว่างมาวางไว้บนโต๊ะเบื้องหน้า
จวนจะเสร็จแล้วค่ะคุณหนู ทานน้ำทานขนมรองท้องก่อนนะคะ อินทุภายิ้มให้เจ้านายสาวคนเล็กของบ้านก่อนจะหันมามองค้อนให้ป๋องแป้ง
นี่น้ำอะไรเหรอคะน้าเพลง รสชาติแปลกๆ สีก็แด๊งแดง ป๋องแป้งถามเมื่อรสชาติของน้ำที่ดื่มไม่คุ้นลิ้นเอาเสียเลย
น้ำผสมน้ำยาอุทัยเจ้าค่ะคุณป๋องแป้ง พอดีช่วงนี้ดอกมะลิโรยหมดแล้วป้าก็เลยนำน้ำยาอุทัยมาผสมน้ำแทนแต่ผสมหนักมือไปหน่อยสีและรสชาติเลยแรง ถ้าคุณไม่ชอบประเดี๋ยวป้าจะเปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าให้นะคะ ป้าอิ่มตอบคำถามของผู้มาเยือนแทนเจ้านายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะโบกมือไล่บุตรสาวให้ลงไปจากเรือน
ไม่เป็นไรหรอกค่ะป้าอิ่มหนูดื่มได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ ป๋องแป้งปฏิเสธอย่างเอียงอายก่อนจะดื่มน้ำดังกล่าวจนหมดแก้ว น้ำผสมน้ำยาอุทัยสีแดงจัดทำให้ป๋องแป้งวิตกเกรงว่าจะเป็นอย่างที่เธอฝัน
ป้าเข้ามาบอกว่าสำรับเรียบร้อยแล้วค่ะ เชิญคุณๆไปรับประทานอาหารได้แล้วค่ะ ป้าอิ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มก่อนจะเดินไปรอที่ห้องอาหาร
ขอบคุณค่ะป้า ไปทานข้าวกันดีกว่าค่ะน้าเพลง ยายป๋องแป้ง มีนาหิวมากเลยค่ะตอนนี้ มีนาพูดก่อนลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องอาหารก่อนใคร
จ๊ะ ไปกันเถอะหนูป๋องแป้ง วีรากานต์หันมาเรียกอีกครั้งเมื่อเห็นว่าป๋องแป้งยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม
ค่ะ ป๋องแป้งรับคำก่อนเดินตามไปอย่างเงียบๆ
หลังมื้ออาหารป๋องแป้งเดินมารับลมเย็นๆที่นอกชานเหมือนเช่นเคยที่ได้มาพักบนเรือนไทยหลังนี้ วีรากานต์เดินตามด้วยความเป็นห่วงเพราะท่าทางของหญิงสาวไม่สู้ดีนัก ในขณะที่มีนาขอตัวพักผ่อนทันทีที่ทานอาหารเสร็จเพราะเหน็ดเหนื่อยกับการตระเวนหาหอพักมาทั้งวันและเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันไปในตัว
ไม่ต้องคิดมากนะหนูป๋องแป้ง ทุกชีวิตย่อมเป็นไปตามกรรม เราทำดีที่สุดแล้ว เอาไว้พรุ่งนี้เราค่อยหาทางกล่อมนายธนัทอีกครั้งหนึ่งก็แล้วกันนะ
ขอบคุณนะคะน้าเพลง ถ้าไม่มีน้าเพลงและยายมีนา ป่านนี้แป้งคงไม่รู้จะทำอย่างไรดีค่ะ
ไม่เป็นไรจ๊ะ นี่ก็ดึกมากแล้วน้าว่าเราไปพักผ่อนกันเถอะจ๊ะ ไม่ต้องคิดมากนะกว่าโรงเรียนจะเปิดเทอมน้าว่าเราก็คงจะคลี่คลายปัญหาได้เอง
ค่ะ
คืนนี้หนูป๋องแป้งนอนที่นี่ไปก่อนนะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที วีรากานต์พูดก่อนเดินเดินนำป๋องแป้งเข้ามายังหอนอนของตนเอง ก่อนจะจัดแจงเตรียมนำที่นอนสำรองออกมาปู
ไม่ต้องนอนข้างล่างหรอกค่ะน้าเพลง นอนข้างบนด้วยกันนี่แหละค่ะ เตียงนอนก็ออกกว้าง แป้งมาอาศัยแท้ๆไม่อยากให้น้าต้องลำบากค่ะ ป๋องแป้งบอกขณะที่นำเสื้อผ้าออกมาเตรียมอาบน้ำ
มันจะดีเหรอจ๊ะ น้าว่าน้านอนข้างล่างดีกว่า เตียงกว้างก็จริง แต่นอนเบียดๆกันมันจะไม่ดีนะน้าว่า... วีรากานต์ปฏิเสธออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบ เขาไม่กลัวว่าป๋องแป้งจะอึดอัดแต่กลัวใจตัวเองมากกว่า
ดีสิคะนอนด้วยกันนี่แหละค่ะ น้าเพลงบริสุทธิ์ใจกับแป้งไม่ใช่เหรอคะ เดี๋ยวแป้งขอตัวไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เหนียวตัวมากค่ะตอนนี้ ป๋องแป้งกล่าวด้วยน้ำเสียงหวานก่อนจะคว้าเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวที่เตรียมไว้เดินเข้าห้องน้ำไป
วีรากานต์เดินมาจัดที่หลับที่นอนให้เรียบร้อยก่อนนำผ้าห่มอีกผืนออกมาจากตู้วางเอาไว้ที่ปลายเตียง ป๋องแป้งเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยเสื้อยืดตัวยาวกางเกงขาสั้นแค่เข่า ใบหน้าขาวนวลด้วยแป้งเด็กทำให้วีรากานต์เผยอยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู
มองอะไรคะ ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะจะได้พักผ่อนเสียที ป๋องแป้งส่งยิ้มหวานมาให้ทำให้หัวใจสาวหล่อผู้สูงวัยกว่าแทบละลายก่อนมี่เขาจะลุกเดินไปอาบน้ำเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึก
เมื่อเจ้าของบ้านเดินออกมาจากห้องน้ำในอีกร่วมครึ่งชั่วโมง อีกฝ่ายก็นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงหนานุ่มเสียแล้ว วีรากานต์จัดแจงทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อนดับไฟกลางห้อง เหลือเพียงไฟในห้องที่เปิดเอาไว้ให้พอมีแสงสว่างออกมารำไร เขาสาวเท้าไปยังเตียงนอนก่อนขึ้นไปนอนบนเตียงเคียงข้างป๋องแป้ง กลิ่นกรุ่นจากเนื้อกายสาวลอยมาแตะจมูก เขายันตัวขึ้นมองใบหน้าเนียนใสนั้นก่อนประทับริมฝีปากบางที่หน้าผากกลมมนสูดกลิ่นละมุนเต็มนาสิก แล้วกลับไปนอนที่เดิมด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทรา
เมื่อแน่ใจว่าวีรากานต์หลับไปแล้ว ป๋องแป้งจึงลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เธอลอบมองใบหน้าเรียวด้วยความรู้สึกแปลบแปลกในหัวใจ มือบางสัมผัสที่หน้าผากเบาๆ เมื่อครู่เขาจุมพิตเธออย่างนั้นหรือ หญิงสาวคิดก่อนที่ใบหน้าผุดผาดจะค่อยๆแดงระเรื่อขึ้นด้วยความขวยเขิน หล่อนหลับตาลงอีกครั้งด้วยความรู้สึกอุ่นซ่านในหัวใจแรกสาว
...........................................................................................
ท้องฟ้าในยามเช้าฟ้าปลอดโปร่งเกล็ดเมฆบางเบาก่ายเกาะกัน ก้อนเมฆลอยอยู่ในระดับสูง มองดูเป็นริ้วๆ คล้ายขนนกสีขาว ดวงอาทิตย์ลอยตัวขึ้นเหนือขอบฟ้าสีครามดูงดงามราวภาพฝัน วีรากานต์ตื่นอาบน้ำแต่งตัวแต่เช้าตรู่ ในขณะที่ป๋องแป้งขอตัวไปอาบน้ำยังหอนอนที่เธอเคยนอนเมื่อคราก่อน
ยามสายผู้เป็นนายของบ้านทั้งสองคนและสาวน้อยป๋องแป้งก็แต่งกายสุภาพเรียบร้อยมานั่งพักรับอาหารว่างระหว่างรอรับประทานอาหารมื้อเช้า ป๋องแป้งดื่มด่ำกับน้ำเต้าหู้รสละมุนก่อนจะหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวันนั้นขึ้นมาอ่าน
ตายปริศนา ธนัทชัย ครีเอทีฟบริษัทชื่อดัง คอหักหมุนได้รอบ ขับรถตกคลองดับ...
ข้อความพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ชื่อดังฉบับหนึ่งทำให้ป๋องแป้งแทบลมจับ หญิงสาวหันไปมองวีรากานต์กับเพื่อนสนิทอย่างตื่นตกใจ มีนาหันไปประคองเพื่อนสนิทที่บัดนี้ทรงตัวแทบไม่อยู่ ในขณะที่น้าสาวยื่นมือไปรับหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นมาอ่านเสียเอง
ใจเย็นๆนะหนูป๋องแป้ง มีอะไรหรือเปล่า วีรากานต์ถามก่อนละสายตาไปที่หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว ข้อความพาดหัวข่าวที่ปรากฏอยู่ในหน้าแรกทำให้เขามีอาการไม่ต่างจากป๋องแป้งเท่าใดนักแต่ก็แข็งใจเปิดเข้าไปอ่านเนื้อหาภายใน
มีอะไรเหรอคะน้าเพลง มีนาถามเมื่อเห็นสีหน้าของทั้งคู่
ธนัทชัยเสียชีวิตแล้วเมื่อคืนนี้... สาวหล่อตอบด้วยน้ำเสียงแผ่ว เขารู้สึกใจหายกับการตายของผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน
อะไรนะคะ แล้วนี่เราจะทำอย่างไรกันต่อไป...
น้าคงต้องเป็นธุระเรื่องงานศพของธนัทชัย เพราะป้าธาราก็อายุมากแล้ว จัดการเรื่องวัดเรื่องศาลาตั้งศพแล้วค่อยติดต่อไปยังป้าธาราก็แล้วกัน วีรากานต์พูดก่อนเดินนำสองสาวลงมาจากเรือนเพื่อทำธุระดังกล่าว
หลังจากจัดแจงทำธุระเรื่องงานศพของธนัทชัยเรียบร้อย วีรากานต์ก็ขับรถมาจอดยังบ้านสภาพเก่าคร่ำคร่าหลังหนึ่งที่เคยมาเมื่อวันก่อนเพื่อมาแจ้งข่าวการเสียชีวิตของธนัทชัยให้มารดาของเขาได้ทราบ แต่บัดนี้สภาพบ้านดังกล่าวได้ทรุดโทรมลงมากราวกับบ้านร้างที่ไม่มีคนอาศัยอยู่นับสับปี
บ้านหลังเดียวกันแน่เหรอคะน้าเพลง วันก่อนมันไม่ได้โทรมขนาดนี้นี่คะ ป๋องแป้งถามขณะที่กวาดสายตามองไปรอบๆบ้าน
ก็อกๆๆๆๆ เสียงเคาะกระจกฝั่งคนขับดังขึ้น ก่อนที่วีรากานต์จะลดกระจกลง
มาหาใครครับคุณ เสียงของพนักงานรักษาความปลอดภัยวัยชราดังขึ้น
มาหาเจ้าของบ้านครับ ป้าธาราค่ะ ไม่ทราบว่าคุณป้าท่านไม่อยู่เหรอคะ
บ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่นับสิบปีแล้วครับ
อะไรนะคะ บ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่ หมายความว่าอย่างไรคะ ก็เมื่อวันก่อน...
ไม่มีคนอยู่จริงๆครับ คุณธาราเสียชีวิตเมื่อสิบกว่าปีก่อน คุณธนัทชัยลูกชายของแกก็เลยย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่นนานแล้วครับ ส่วนจะเป็นที่ไหนผมก็ไม่ทราบ เดี่ยวผมขอตัวไปสำรวจรอบหมู่บ้านก่อนนะครับ ชายชราพูดก่อนปั่นจักรยานไปอีกทาง
นี่มันอะไรกันคะน้าเพลง แล้วป้าธาราที่เราเห็นเมื่อวันก่อนก็ไม่ใช่คนนะสิคะ มีนาถามด้วยความตระหนก วีรากานต์ถึงกับมือไม้อ่อนเมื่อทราบว่ามารดาของเพื่อนรุ่นได้เสียชีวิตไปนานแล้ว เขานั่งนิ่งราวกับถูกมนต์สะกด
เรากลับกันเถอะค่ะ ป๋องแป้งบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเมื่อสายตาของเธอไปพบเข้ากับเจ้าของบ้านซึ่งยืนน้ำตาไหลพรากอยู่ข้างๆรั้วบ้าน คาดว่าน่าจะนางคงรับรู้ถึงการจากไปของบุตรชายแล้ว
เสียงของป๋องแป้งทำให้วีรากานต์ได้สติขึ้นมาก่อนขับรถออกไปจากหมู่บ้านดังกล่าวด้วยจิตใจที่สั่นเทิ้ม เขามุ่งหน้าไปยังวัดซึ่งจัดงานศพของธนัทชัยอีกครั้งด้วยจิตใจที่สับสนเหลือเกิน...
บรรยากาศงานศพของธนัทชัยเต็มไปด้วยความหดหู่ วีรากานต์นำพวงหรีดไปวางไว้ที่ด้านหน้ารูปของธนัทชัย เขาจุดธูปหนึ่งดอกเพื่อแสดงความเคารพศพปักธูปลงไปในกระถางธูปก่อนเดินไปนั่งที่เก้าอี้แถวหน้าสุดในฐานะเจ้าภาพ
ป๋องแป้งก้าวไปนั่งหน้าโลงศพ ก่อนจะจุดธูปและปักลงไปที่กระถางธูปด้วยมืออันสั่นตา สายตาของเธอจ้องมองโลงศพที่ตกแต่งด้วยดอกไม้และไฟกระพริบ รูปของชายหนุ่มผู้หล่อเหลา คมคาย และมีอนาคตไกลแต่ต้องจบชีวิตก่อนวัยอันควร เธอละสายตาเพื่อมองไปยังแฟนสาวของเขาที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนที่ยามนี้เอาแต่นั่งร้องไห้กับความสูญเสียที่ตั้งรับไม่ทัน วีรากานต์จึงจัดการเป็นธุระทุกอย่างเพราะชายหนุ่มไม่มีญาติที่ไหนอีกแล้วนอกจากแฟนสาวที่บัดนี้ครองสติแทบไม่อยู่ แต่แล้วจู่ๆป๋องแป้งก็มีความรู้สึกเย็นนะเยือกและเสียวสันหลังขึ้นมา หญิงสาวรีบลุกขึ้นเพื่อไปออกจากตรงนี้
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ป๋องแป้งกรีดร้องขึ้นมาด้วยความตระหนก เมื่อมองขึ้นไปยังโลงศพซึ่งตั้งเยื้องออกไปทางด้านหลังของรูปภาพ มีใครคนหนึ่งนั่งอยู่บนโลงศพและกำลังจ้องมองมาที่เธอ ใบหน้าขาวซีดและลำคอที่หักบิดเอียงหันมาที่หล่อน ดวงตาโปนอาบเลือดคู่นั้นจ้องมองป๋องแป้งอย่างไม่กระพริบ เลือดสีแดงสดค่อยๆรินไหลจากดวงตาอาบไปทั่วร่างของธนัทชัยซึ่งนั่งอยู่บนฝาโลง
มึงต้องชดใช้อีป๋องแป้ง ถ้าไม่มีมึงกูคงไม่ต้องตาย เสียงกร้าวดังก้องอยู่ในโสตประสาทของหญิงสาว
ไม่ๆ กรี๊ดดด
หญิงสาวรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้นทันที ท่ามกลางสายตาประหลาดใจของแขกที่มาร่วมงานศพ วีรากานต์และมีนารีบวิ่งตามออกมาด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่สาวหล่อหน้าใสจะคว้าตัวมากอดไว้ได้ทันเพราะหากช้ากว่านี้เธออาจจะตกบันไดลงแล้ว
ป๋องแป้ง เป็นอะไรไม่ต้องกลัวนะ น้าอยู่ตรงนี้แล้วไม่ต้องกลัวๆ มือนุ่มลูบไปที่เรือนผมหยึกสยายเพื่อปลอบโยน
ไม่ต้องกลัวนะแป้ง พวกเราอยู่ตรงนี้ มีนาก้าวเข้ามาลูบหน้าลูบหลังเพื่อนสนิทด้วยความสงสารจับใจ ในขณะที่ป๋องแป้งตัวสั่นเทิ้มจ้องมองไปที่โลงศพ ก่อนที่สติสัมปชัญญะของเธอจะดับวูบไป
เมื่อหญิงสาวฟื้นคืนสติขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวก็พบว่าตนเองกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงนอนในหอนอนของวีรากานต์ ซึ่งบัดนี้แดดยามบ่ายคลายความร้อนระอุลงไปนานแล้ว ดวงอาทิตย์สีแดงจัดคล้ายลูกตำลึงสุกกำลังใกล้ลับหายไปกับทิวไม้สีเขียวซึ่งทอดยาวเหยียดไปตามริมสระน้ำกว้างใหญ่ หมู่นกกาเป็นฝูงๆกำลังกระพือปีกรีบบินกลับรวงรัง
ฟื้นแล้วเหรอจ๊ะ หนูป๋องแป้งเป็นอย่างไรบ้างลุกไหวไหมจ๊ะ วีรากานต์หันมาถามด้วยความห่วงใยจับใจ
ไหวค่ะ ป๋องแป้งบอกก่อนที่จะลุกขึ้นนั่งบนเตียงนุ่ม
ทานข้าวก่อนนะ ทานเสร็จจะได้นอนพัก วีรากานต์กล่าวก่อนที่จะจัดแจงตักข้าวต้มหอมกรุ่นป้อนให้สาวเจ้า ในขณะที่เธอรับประทานข้าวต้มที่เขาป้อนด้วยความเอียงอาย
ขอบคุณค่ะ แต่แป้งทานต่อไม่ไหวแล้ว หญิงสาวยกมือห้ามเมื่อทานข้าวต้นไปได้ค่อนชาม
ทานน้ำหน่อยนะ มีนาซึ่งอยู่อีกฝั่งป้อนน้ำให้เพื่อนดื่มหลังจากอิ่มข้ามแล้ว
ขอบคุณน้าเพลง ขอบใจมีนามากนะที่คอยดูแลแป้งแบบนี้
ไม่เป็นไรจ๊ะ เราสองคนเห็นเธอเปรียบเสมือนคนในครอบครัวใช่ไหมคะน้าเพลง
ใช่จ๊ะ น้าไม่เคยมองว่าหนูเป็นคนอื่นเลยเลย
ขอบคุณนะคะ ป๋องแป้งกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจในน้ำใจของสองสาวเจ้าของบ้าน ก่อนที่ล้มตัวลงนอนอีกครั้งและหลับไปในที่สุด
ตกดึกอากาศเย็นยะเยือก หญิงสาวสะดุ้งตื่นด้วยมาด้วยลำคอที่แห้งผาด สายตาของเธอกวาดไปรอบๆห้องเพื่อมองหาขวดน้ำแต่แล้วสิ่งที่อยู่ปลายเตียงทำให้หญิงสาวตระหนกแม้จะพบเจอหลายครั้งแต่มิอาจทำใจให้ชินได้เลยสักที
คุณไม่ใช่ คุณพลอยนิล... ป๋องแป้งถามออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่ว เมื่อดวงวิญญาณของปนัดดา ปรากฏร่างให้เห็นอีกครา
แล้วกูบอกมึงตอนไหนว่ากูชื่อพลอยนิล วิญญาณสาวพูดด้วยสีหน้าราบเรียบ พร้อมกับทรุดตัวนั่งบนเตียงนอนที่ป๋องแป้งกำลังนอนอยู่
คุณอย่าฆ่าคนอีกเลยนะคะคุณปนัดดา อโหสิกรรมให้พวกเขาเถอะค่ะ อย่างไรเสียคุณธนัทชัยเขาก็ตายไปแล้วคนหนึ่ง...
มึงจะให้กูอโหสิกรรมให้พวกมัน ทั้งๆสิ่งที่มันทำไว้กับกู มันทำให้กูต้องตายอย่างนั้นเหรอ วิญญาณสาวหันมาเฉพาะส่วนศีรษะในขณะที่ลำตัวยังหันอยู่ในทิศทางเดิม ก่อนตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงกร้าว
ฉันขอเถอะนะคะคุณปนัดดา...
ไม่ จนกว่ามันจะมาขอขมาฉัน มิเช่นนั้นพวกมันจะต้องตายตกตามกันไป ไม่เช่นนั้นรายต่อไป คือ มึง
แต่จนป่านนี้ฉันยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ แล้วฉันจะช่วยคุณได้อย่างไร จะตามหาพวกเขาให้มาขอขมาคุณได้อย่างไร ป๋องแป้งพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ความหวาดกลัวเกาะกินหัวใจจนน้ำตาไหลพรากกับการมาของวิญญาณดวงเดิมที่หมายจ้องจะเอาชีวิต
วิญญาณสาวไม่ตอบแต่เอื้อมมือมาสัมผัสมือของป๋องแป้งเบาๆ ก่อนที่สภาพรอบๆกายของหญิงสาวจะเปลี่ยนไปกลายเป็นอาคารเรียนหลังหนึ่ง อาคารเรียนที่เธอกำลังเรียนอยู่
หนูป๋องแป้ง เป็นอะไรไปจ๊ะ ตื่นขึ้นมาทำไม เสียงเรียกของวีรากานต์ทำให้ทุกอย่างกลับมาสู่สภาพเดิม ไม่มีวิญญาณสาว ไม่มีอาคารเรียน ไม่มีอะไรหน้ากลัวภายในหอนอนหอนี้
แป้งหิวน้ำค่ะ ป๋องแป้งกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่ว ในขณะที่วีรากานต์กุลีกุจอรินน้ำที่อยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงใส่แก้วใบใสมาส่งให้
ขอบคุณค่ะ ป๋องแป้งรับน้ำมาดื่มจนหมดก่อนส่งแก้วเปล่าคืนให้ สาวหล่อหน้าใสจึงนำไปวางไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียงตามเดิม
มีอะไรหรือเปล่า บอกน้าได้นะ วีรากานต์ถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังไม่ล้มตัวลงนอน
ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ป๋องแป้งปฏิเสธด้วยน้ำเสียงแผ่วก่อนจะล้มตัวลงนอนเคียงข้างกันด้วยความหวาดระแวงก่อนจะหลับไปอีกครั้งด้วยความเหนื่อยอ่อน
.....................................................................................................................
เอา บทที่ ๒๐ : ใครจะเป็นรายต่อไป ที่เหลือ อีก ๗๐ % มาส่งตามสัญญา ค่า
ขอบคุณทุกๆกำลังใจ ทุกๆการติดดามอ่านผลงานของทอถักอักษรานะคะ ขอบคุณจริงๆค่ะ
หญิงฟาง - ทอถักอักษรา
นัก (อยาก) เขียนตัวกลมๆ
..........................................................................................
ฝากเพจ ทอถักอักษรา Fanclup ด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/TortukauksaraFanclup#
กดไลค์ เเชร์ ความรู้สึกผ่านเพจกันนะคะ
หรือ พูดคุยกัน ได้ที่ เฟสบุ๊ค ทอถักอักษรา รักเกินเผื่อใจ ค่ะ
https://www.facebook.com//profile.php?id=100001056359153
:5: :5: :5: :5: :5:
By : เนยแข็ง   Date : 15 Oct 2014 16:46
|