แค้นเสน่หา...
แค้นเสน่หา จากบทประพันธ์ของวราภา
ความรัก..ทำให้คนเรามีทั้งความสุข และความทุกข์ แต่ความรักนั้น ก็สามารถที่จะแปรเปลี่ยนเป็น ความแค้นได้ทุกเวลาเหมือนกัน หากรักนั้นไม่สมหวัง แต่ในขณะที่รักมากก็แค้นมากได้เช่นกัน เพราะความรักกับความแค้นอยู่ใกล้กันแค่นิดเดียว ชีวิตของพวกเขาและเธอเหล่านี้ก็เหมือนกัน มีทั้งความรักและมีทั้งความแค้น จึงนำมาซึ่งความมาดร้าย แม้ตายกลายเป็นผี ก็ยังผูกพยาบาท อาฆาตแค้นไม่จบไม่สิ้น จึงเป็นที่มาของ แค้นเสน่หา
รังสิโยภาส (ก้อง) เมื่อเสียงของนาฬิกาเรือนใหญ่ ในโถงกลาง ดังแทรกความเงียบของรัตติกาลขึ้นมา ทำให้บุหลันถึงกับสะดุ้งสุดตัว ก่อนที่หญิงสาววัยยี่สิบต้น ๆ ซึ่งมีดวงหน้าอันอ่อนหวาน จะขยับร่างอุ้ยอ้าย เพราะครรภ์แก่จวนใกล้คลอดเข้ามาหาเรา พร้อมกับเอื้อมมือทั้งสองข้างมาจับ ข้อเท้าของเราเอาไว้ ด้วยท่าทีขลาด ๆ เราจึงก้มลงลูบศีรษะของบุหลันด้วยความเอ็นดู (ปิดก้อง) (หัวเราะเบา ๆ ) ตกใจอะไรกันบุหลัน แค่เสียงนาฬิกา
บุหลัน ท่านชายเพคะ
รังสิโยภาส ฉันแค่ไปเยี่ยมหม่อมแม่ ไม่นานก็กลับแล้ว ถ้าหม่อมแม่หายเร็ว ฉันก็คงจะกลับมาทันเวลาที่บุหลันคลอดลูกพอดี รักษาตัวให้ดีแล้วกัน ลูกฉันจะได้แข็งแรง
บุหลัน (ก้อง) เราเขยิบเข้าไปใกล้ท่านชายอีกเล็กน้อย คราวนี้กอดพระบาทของท่านชายเอาไว้แน่น ด้วยความรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างประหลาด
รังสิโยภาส ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะบุหลัน ฉันจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด แต่ถ้าหากบังเอิญลูกฉัน คลอดก่อนฉันกลับมา ถ้าเป็นผู้ชายละก็ ให้เขาชื่อหม่อมราชวงศ์ศักดินา รังสิยา แต่ถ้าหากว่า เป็นหญิง ก็ให้ชื่อคุณหญิงวิมลโพยม
บุหลัน เพคะท่านชาย
รังสิโยภาส จำชื่อที่ฉันบอกได้ไหมบุหลัน แต่ถ้าจำไม่ได้ หรือนึกไม่ออกก็ไม่เป็นไร ฉันสั่ง หญิงแขไขเอาไว้แล้ว เขารับปากฉันไว้ ว่าจะดูแลบุหลันให้ดีที่สุด
บุหลัน (ก้อง) นี่แหละคือสิ่งที่เรากลัว ท่านหญิงแขไขเจิดจรัส พระชายาของท่านชายรังสิโยภาส ซึ่งมีสายพระเนตรอันคมกริบ เวลาท่านมองมาทีไร มักสร้างความหวาดหวั่น และทำให้เรารู้สึกราว กับว่ามีคนเอามีดคม ๆ มากรีดตามเนื้อตัวของเราให้เจ็บปวดทุกครั้ง ยังจะยายเฟืองอีกคนนึง ยายเฟืองซึ่งเป็นพระพี่เลี้ยงคนสนิทของท่านหญิง ที่คอยติดตามดูแลรับใช้ท่านหญิง อย่างใกล้ชิด ราวกับเป็นเงาประจำพระองค์ และยายเฟืองเอง ก็ไม่เคยมีท่าที ที่จะเป็นมิตร กับเราเลยสักนิด นี่ถ้าท่านชายไม่อยู่ เราจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้
รังสิโยภาส เป็นอะไรไปบุหลัน
บุหลัน บุหลันกลัวเพคะท่านชาย
รังสิโยภาส กลัวอะไรกัน
บุหลัน บุหลันกลัวที่จะต้องอยู่คนเดียวเพคะ
รังสิโยภาส บุหลันไม่ต้องกลัวหรอกนะ คนในวังรังสิยาออกเยอะแยะ อีกอย่างหญิงแขไข ก็รับปากฉันแล้ว ว่าจะดูแลบุหลันแทนฉันเป็นอย่างดี จนกว่าฉันจะกลับมา ฉันแค่ไปเยี่ยมหม่อมแม่เองนะบุหลัน ไปไม่นาน เดี๋ยวก็กลับแล้วละ
บุหลัน (ก้อง) เราปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่มันจะหยดลงไปบนหลังพระบาท ของท่านชายรังสิโยภาส ถึงแม้ว่าเราจะมิได้รักท่านมาตั้งแต่แรก หากด้วยพระเมตตาที่ท่านมีให้เสมอมา ก็ทำให้เราจงรักภักดี และผูกพันในความเป็นภรรยาที่มีต่อสามี เราไม่เคยลืม ว่าตัวเอง เป็นแค่เด็กกำพร้า ที่ยายของเรา ซึ่งเป็นหัวหน้าห้องเครื่องของวังรังสิยา ขอประทานพระอนุญาต นำเราผู้เป็นหลานเข้ามารับใช้ในวัง
รังสิโยภาส เห็นบุหลันตอนนี้แล้ว ก็อดที่จะนึกถึงตอนนั้นไม่ได้ ตอนที่ยายของบุหลัน มาขออนุญาตฉัน เพื่อให้เธอเข้ามารับใช้ในวัง ใครจะไปคิดว่าเด็กสาวหน้าตามอมแมมคนนั้น แท้ที่จริงแล้ว จะเป็นหญิงสวย ที่อวบอิ่มมีน้ำมีนวล และกลายมาเป็นเมียของฉัน เป็นหม่อมบุหลัน ที่ฉันแสนจะรัก และที่สำคัญ เธอกำลังจะเป็นแม่ของลูกฉันในเวลานี้
บุหลัน บุหลันกราบขอบพระทัยในความเมตตา ที่ท่านชายมีให้บุหลันตลอดมาเพคะ
รังสิโยภาส ฉันรักเธอนะบุหลัน ดูตัวเองและลูกให้ดี ๆ ฉันไปไม่นานหรอก ฉันเองก็เป็นห่วงบุหลันมาก เพราะเธอก็จวนใกล้คลอดแล้ว ถ้าเป็นไปได้ ฉันจะพยายามขอร้องให้ท่านแม่มารักษาตัว อยู่ที่นี่ จะได้อยู่ใกล้ ๆ ฉัน เพื่อที่ฉันจะได้คอยดูแลทั้งท่าน และเธอได้สะดวก
บุหลัน กราบขอบพระทัยในความเมตตา และห่วงใย ที่มีต่อหม่อมฉันเพคะ
รังสิโยภาส เธอเป็นเมียฉันนะบุหลัน แล้วก็กำลังจะเป็นแม่ของลูกฉันด้วย ฉันก็ต้องรักต้องเป็นห่วงเธอซิ เอาละ..ฉันจะต้องขึ้นไปหาหญิงแขไขแล้ว บุหลันไม่ต้องลงไปส่งฉันที่ท่าน้ำหรอกนะ ถ้าเกิดพลาดพลั้งหกล้มหกลุกไป เดี๋ยวจะยุ่งกันไปใหญ่ เราจะลากันตรงนี้
บุหลัน (ก้อง) เราใจหายวาบเลยทีเดียว กับรับสั่งประโยคสุดท้ายของท่านชาย และนั่นก็ทำให้เรา ต้องกลั้นสะอื้นเอาไว้จนตัวสั่น จำได้แต่ว่า ท่านชายได้ถอดสร้อยพระศอประทานให้ และทรงสวมให้พร้อมกับรับสั่งอวยพร
รังสิโยภาส ถ้าฉันกลับมาไม่ทันตอนลูกเกิด เอาสร้อยเส้นนี้ให้เขา ฉันขอรับขวัญเขาด้วยสร้อยเส้นนี้ ขอให้ลูกของเราอายุมั่นขวัญยืน
บุหลัน ท่านชาย....
แขไข (ก้อง) เฟืองจัดพระที่ และกั้นพระวิสูตรเรียบร้อยแล้ว ก็ออกไปนำอ่างเคลือบลายกุหลาบ เข้ามาเพื่อรองน้ำ เตรียมให้เราสรงพระพักตร์ ในขณะที่เราเองยังนั่งนิ่ง ไม่รับรู้ถึงอากาศอันหนาว และเยือกเย็นของลมหนาวต้นฤดู ที่โชยมาปะทะ เพราะความหนาวเยือกเย็น ที่ห่อหุ้มหัวใจดวงนี้ มาเนิ่นนาน จนแทบอะไรไม่รู้สึก ไม่รู้สมอะไรแล้ว สุขจนไม่สุข ทุกข์จนไม่ทุกข์ เหลือไว้เพียงแต่ความแค้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ใครกันล่ะที่เคยบอกกับเราว่า...
รังสิโยภาส (ก้อง) พี่จะรักหญิงคนเดียวตลอดไป เพราะพี่ไม่ใช่ผู้ชายหลายใจ ที่ชอบมีภรรยาหลายคน เราต่างก็เป็นคนที่ศิวิไลซ์แล้ว จบการศึกษาก็จากต่างประเทศ ซึ่งที่นั่น เขาก็นิยมให้มีผัวเดียวเมียเดียว หญิงจะไม่มีวันต้องซ้ำใจเพราะพี่
แขไข (ก้อง) เราตัดสินใจอภิเษกสมรส ก็เพราะคำหวานเหล่านี้ยังงั้นเหรอ ใช่...มันก็อาจจะมีส่วนอยู่บ้าง แต่ที่จริงแล้ว เราหลงรักชายหนุ่มสูงสมาร์ท ซึ่งมีดวงพักตร์ที่งดงาม พระเนตรที่คมปลาบ เวลาที่มองมา ทำให้หัวใจของเราหวั่นไหวได้ทุกครั้ง และท่านพี่ก็ฉกเอาหัวใจของเราไปตั้งแต่ แรกพบต่างหากล่ะ
เฟือง แต่งองค์เถอะเพคะ ประเดี๋ยวท่านชายก็คงจะเสด็จมาแล้ว
แขไข ใช่สิ....เดี๋ยวคงจะเสด็จมา หลังจากร่ำลาฝ่ายนั้นเรียบร้อยแล้ว ถึงค่อยทรงนึกถึงคน ที่อยู่ตำหนักชั้นบนนี่
เฟือง หลังจากวันนี้ไป จะไม่มีสิ่งใดทำให้ต้องหมองพระทัยได้อีกแล้วเพคะ หม่อมฉันสัญญา
แขไข (ก้อง) คำพูดประโยคนั้น ทำให้เราต้องมองดูหน้าคนพูดนิ่งอยู่นาน แล้วเราก็ได้เห็น ความเคียดแค้นและชิงชัง ระบายอยู่บนสีหน้านั้นอย่างไม่ปิดบัง เฟืองจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ที่เห็นเราเศร้า
รังสิโยภาส น้องหญิง
แขไข (ก้อง) ท่านพี่เสด็จมา เมื่อเราแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว และเฟืองก็รีบหลบออกไปข้างนอกทันที เมื่อลับร่างของเฟือง ท่านจึงทรงสวมกอดเราเอาไว้
รังสิโยภาส พี่ฝากหญิงดูแลทางนี้ด้วย โดยเฉพาะบุหลัน เขาท้องแก่เต็มทีแล้ว อาจจะคลอด ได้ทุกเมื่อ พี่มอบเขาให้หญิงดูแลแทนด้วย หากพี่กลับมาไม่ทัน
แขไข (ก้อง) ความอบอุ่นในอ้อมกอดที่เราโหยหา มันมลายหายไปจนสิ้น เมื่อเราได้ยินที่รับสั่ง มันเป็นรับสั่ง ที่ทำให้หัวใจของเราเจ็บปวดยิ่งนัก ท่านพี่ทรงห่วงแค่นี้เอง ห่วงแต่เมียน้อย แล้วเราล่ะ ทรงเคยห่วงสักนิดมั๊ย ที่เสด็จมาหาเรา ก็เพียงแค่ต้องการฝากฝังเมียน้อยให้เราดูแล ที่กอดเรา ก็แค่กอดไปตามธรรมเนียม ไม่ได้มีความหมาย หรือทรงรู้สึกอะไรเลยสักนิด นี่คงคิดว่าหัวใจของเราตายด้าน จนไม่รู้สึกรู้สาอะไรแล้วละมัง
รังสิโยภาส เท่าที่คนมาส่งข่าว อาการหม่อมแม่ก็ดูจะหนักหนาอยู่ พี่จะพยามเกลี้ยกล่อมให้ท่าน ลงมารักษาตัวทางนี้ เผื่อจะได้เห็นหน้าหลานบ้าง ถ้ามีอะไร พี่ก็จะส่งคนลงมาบอกน้องหญิง ล่วงหน้าก็แล้วกัน
แขไข (ไม่พอใจ) มีอะไรอีกไหมเพคะ
รังสิโยภาส แค่นี้ก็สร้างภาระให้หญิงมากแล้ว ไม่มีอะไรมีแล้วละ ลงไปที่ท่าน้ำด้วยกันเถอะนะ
แขไข (ก้อง) แต่เฟืองเตรียมเครื่องเสวยไว้แล้วนะเพคะ
รังสิโยภาส พี่ไม่กินแล้วละ อยากรีบไปรีบมา
แขไข ก็ได้เพคะ ไม่เสวย ก็ไม่เสวย
รังสิโยภาส (ก้อง) เราลังเลเล็กน้อย ก่อนที่จะเหลียวกลับไปมองที่ห้องของบุหลันอีกครั้ง (ปิดก้อง) (พึมพำ) ให้เขาพักผ่อนเถอะ ลูกจะได้แข็งแรง
แขไข (ก้อง) เราลงมาพร้อมท่านพี่ เมื่อถึงท่าน้ำ ท่านพี่ก็เสด็จลงเรือไป โดยที่ไม่ได้รับสั่งอะไร กับเราอีก จากนั้นเรือที่ประทับก็ค่อย ๆ แล่นออกไปจากท่า แสงตะเกียงที่แขวนอยู่สี่ด้านของ เก๋งเรือแกว่งไปมาอยู่ในความมืด ก่อนจะค่อย ๆ อ่อนแสงลง เหลือเป็นเพียงแสงกะพริบที่ริบหรี่ คล้ายแสงของหิ่งห้อย แล้วในที่สุด ก็หายลับไปกับความมืด (ปิดก้อง) ลาก่อนเพคะท่านพี่
เสียงเรือยนตร์แล่นออกไปแล้วค่อยเบาลงเรื่อย ๆ จนหายไป
เฟือง (ก้อง) บรรดาบ่าวไพร่ที่ตามมาส่งเสด็จ ต่างก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองกันหมดแล้ว เหลือเพียงแต่เราคนเดียวเท่านั้น ที่ยังนั่งคุกเข่าอยู่แทบพระบาทของท่านหญิง ท่านชายเสด็จไปแล้ว ถึงเวลาของอีเฟืองแล้วสินะ (ปิดก้อง) ที่นี่ยุงชุม เสด็จขึ้นไปบนตำหนักเถอะเพคะ
แขไข (ก้อง) คำพูดของเฟืองเหมือนจะเป็นคำสั่งกลาย ๆ แต่เราก็ทำตาม เพราะเฟืองเป็นคนเดียว ที่สามารถทำได้อย่างนั้น เพราะเรายอม ก็เฟืองเป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยง มาตั้งแต่สมัยหม่อมแม่ของเรา เมื่อหม่อมแม่ใกล้จะสิ้น ได้ฝากฝังเราซึ่งเป็นลูกคนเดียวเอาไว้กับเฟือง ซึ่งเฟืองก็ถือปฏิบัติตาม คำสั่งนั้น อย่างเคร่งครัดตลอดมา ไม่ใช่ญาติ ก็เหมือนญาติ (ปิดก้อง) ก็ดีเหมือนกัน ไปกันเถอะจ๊ะเฟือง
ดนตรีวังเวงคั่นเล็กน้อย
เฟือง ถึงห้องบรรทมแล้ว รีบบรรทมซะนะเพคะ เดี๋ยวจะทรงไม่สบายไป หม่อมฉันจะไปทำธุระ ไม่ต้องทรงเรียกหานะเพคะ เสร็จแล้วหม่อมฉันจะรีบกลับมา
แขไข เฟืองจะไปไหน
เฟือง ไปทำงานเพคะ
แขไข เฟือง...นอกจากรับใช้หญิงแล้ว เฟืองต้องไปทำงานอะไรอีก ไหนบอกหญิงมาสิ
เฟือง ทำงาน งานสำคัญเพคะ บรรทมให้สนิทนะเพคะ ทรงได้ยินอะไร ก็ไม่ต้องลุกขึ้นมา หม่อมฉันจะได้ทำงานได้สะดวก และสำเร็จเรียบร้อย ถ้างานนี้สำเร็จ ท่านหญิงจะไม่มีวันต้อง ฝันร้ายอีกต่อไปเพคะ
แขไข (ก้อง) เฟืองพูดด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม โดยเราเองก็ไม่เข้าใจอะไรนัก กับคำพูดของเฟือง จึงได้แต่เพียงแค่พยักหน้า ซึ่งเฟืองก็ถอยออกไป พร้อมกับปิดประตูลง อย่างเรียบร้อย
ดนตรีเร้าใจคั่นแล้วเปลี่ยนเป็นดนตรีเศร้า ๆ....
บุหลัน (ก้อง) เราถอยออกมาจากบานหน้าต่าง ที่ไปยืนส่งเสด็จตรงนั้น ฝากคำทูลลา พร้อมกับความห่วงหาอาลัยไปกับความมืดและสายลม ความเหงาและความว้าเหว่ เข้ามาเกาะกุมอยู่ในหัวใจ จนรู้สึกหนาวเหน็บ ราวกับอยู่ท่ามกลางภูเขาน้ำแข็ง น้ำตาของเราไหลอาบแก้ม รับสั่งของท่านชายรังสิโยภาสยังดังก้องอยู่ในหู
รังสิโยภาส (ก้อง) อย่าลืมนะ ถ้าลูกของเราเป็นชาย ให้เขาชื่อคุณชายศักดินา หรือถ้าเป็นหญิง ก็ให้ชื่อว่าคุณหญิงวิมลโพยม
บุหลัน (ก้อง) สร้อยพระศอพร้อมเหรียญที่ทรงประทานให้สวมอยู่ที่คอ ซึ่งเรากำแนบเอาไว้ เหนือทรวงอก (ปิดก้อง) ไม่ว่าลูกจะเป็นคุณหญิงหรือคุณชาย แม่ก็รักลูกเสมอ
เสียงประตูเปิดอย่างแรง....
บุหลัน (ก้อง) เราถึงกับสะดุ้งเฮือก เมื่อประตูถูกเปิดออกอย่างแรง เราหันขวับกลับไปดูทันที
เฟือง (ดุดัน) ไอ้แคล้ว ไอ้ยอด เข้าไปเอาตัวอีนั่นออกมาเดี๋ยวนี้
บุหลัน (ก้อง) สิ้นเสียงสั่งอันเฉียบขาดนั้น ร่างของชายฉกรรจ์สองคนก็ถลันเข้ามาในห้อง แล้วร่างเจ้าของเสียงที่ร้องสั่ง ก็เดินตามเข้ามา โอ๊ะ.... นั่นมันยายเฟืองนี่ เราตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อชายทั้งสองคน ตรงเข้ามาล็อคแขนของเราเอาไว้แน่น และพยายามลากเราไปที่ประตู แต่เราก็ขืนตัวเอาไว้เต็มแรง (ปิดก้อง) ปล่อยฉันนะ แกจะพาฉันไปไหน ฉันไม่ไป ปล่อยฉัน
เฟือง มึงสองคนลากมันออกไปเร็ว ๆ เข้าสิ ชักช้าอยู่ได้ เดี๋ยวใครก็มาเห็นเข้าหรอก
บุหลัน พวกแกทำแบบนี้ทำไม ยายเฟือง.. ทำไมให้พวกเขาทำกับฉันยังงี้ บอกให้พวกเขาปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ
เฟือง (ดุดัน) หนอย....อีขี้ข้า นี่มึงกล้าบังอาจมาออกคำสั่งกับกูเหรอ นี่แนะ! นี่ ๆ (เสียงตบหน้าหลายครั้ง)
บุหลัน (ร้องด้วยความเจ็บปวด) โอ๊ย... อย่าทำฉัน ฉันเจ็บโอ๊ย ๆๆๆ
เฟือง แค่นี้เจ็บเหรออีบุหลัน นี่มันยังน้อยไป นี่ ๆๆๆ (เสียงตบหลายครั้งติด ๆ กัน)
ดนตรีน่ากลัวดังขึ้นแล้วเฟรดลง....
แล้วเปลี่ยนเป็นดนตรีปิดรายการ....
ผู้ประกาศ..... หม่อมบุหลันรู้สึกสังหรณ์ใจขึ้นมาอย่างประหลาด ในขณะที่ท่านชายรังสิโยภาส จะเสด็จไปเยี่ยมหม่อมแม่ โดยก่อนที่จะเสด็จไป ได้ประทานสร้อยพระศอ เอาไว้ให้กับบุหลัน พร้อมกับกำชับบุหลัน เรื่องตั้งชื่อลูก หากบุหลันคลอดก่อนที่ท่านจะกลับมา ท่านหญิงแขไข เจิดจรัส ชายาของท่านชายทรงไม่พอพระทัย ที่ท่านชายมาหา แต่กลับฝากฝังบุหลันให้หล่อนดูแลแทน เมื่อส่งท่านหญิงที่ห้องบรรทม นางเฟืองรีบขอตัวออกมา ด้วยท่าทีร้อนรน พร้อมกับคำพูดแปลก ๆ โดยบอกท่านหญิงว่านางจะไปทำงาน ซึ่งท่านหญิงก็ไม่เข้าใจอะไรนัก แต่ก็ไม่ได้ทรงทักท้วงแต่อย่างใด เพราะท่านหญิงคิดไม่ถึง ว่านางเฟืองจะไปทำร้ายหม่อมบุหลัน ซึ่งท้องแก่่ ใกล้คลอด ขอเชิญท่านติดตาม แค้นเสน่หา ต่อไป.....
ดนตรีเปิดรายการแล้วเปลี่ยนเป็นดนตรีเร้าใจ.....
เฟือง (เสียงตบหน้าติด ๆ กัน) นี่ ๆๆๆ
บุหลัน โอ๊ย... อย่าทำฉัน โอ๊ย ๆๆๆๆ
ยอด (ก้อง) ฝ่ามือกร้านเกรียมของยายเฟืองฟาดลงไปบนซีกแก้มของหม่อมบุหลันอย่างไม่ปราณีปราศรัย เสียงของหม่อมบุหลันหวีดร้องด้วยความตกใจ และเจ็บปวด เลือดสด ๆ ของคุณบุหลัน ไหลปรี่ออกมาจากปากและช่องจมูก
เฟือง มึงหยุดร้องเดี๋ยวนี้นะ ถ้ามึงขืนร้องอีก กูจะตบมึงให้ตายคามือเลย
บุหลัน (ร้องไห้) ยายเฟือง ทำไมถึงทำกับฉันแบบนี้ ฉันไปทำอะไรให้
เฟือง ทำไมน่ะเหรออีบุหลัน เพราะกูแค้นมึงยังไงล่ะ กูรอวันนี้มานานแล้ว วันที่กูจะได้แก้แค้นมึงแทนท่านหญิง
บุหลัน ฉันไม่เคยทำอะไรท่านหญิง ไม่เคยคิดร้ายกับท่าน ไม่เคยเลย... (ร้องไห้)
ยอด (ก้อง) เราเห็นน้ำตาของหม่อมบุหลันไหลพราก มันไหลลงมาปนกับเลือด ที่ทะลักออกมา ทางปากและจมูก จนเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปทั้งใบหน้า หม่อมบุหลันเธอส่ายหน้าไปมา แต่ก็ไม่กล้าร้องออกมาอีก ได้แต่พูดอธิบายตะกุกตะกัก
บุหลัน ฉันไม่เคยทำอะไรท่านหญิง ไม่เคยคิดร้ายกับท่าน เคารพท่านซะด้วยซ้ำไป
เฟือง ถุย.... มึงนี่น่ะ เคารพท่านหญิงของกู อีบุหลัน
บุหลัน ใช่...ฉันก็เคารพท่าน เคารพอยู่ทุกวันทุกคืนด้วยซ้ำ
เฟือง เคารพด้วยการที่มึงแย่งท่านชายไปครองยังงั้นน่ะเหรอ มึงมันมารยาสาไถมากนักอีบุหลัน ท่านหญิงทรงสู้อุตส่าห์ชุบเลี้ยงมึงมา ให้ข้าวให้น้ำมึง แต่มึงมันก็สัญชาติงูเห่า มึงคิดว่าท่านชาย จะปกป้องมึงไปได้ตลอดละสิ อย่าหวังเลย ทีใครทีมัน คนอย่างกู ถ้าใครคิดร้ายกับท่านหญิง แล้วถ้ากูปล่อยเอาไว้ ก็ไม่ใช่อีเฟืองแล้ว ไอ้แคล้ว ไอ้ยอด พวกมึงมัวยืนเซ่ออยู่ทำไม ลากมันเข้าไปไว้ในเรือนแพนั่น อุดปาก แล้วก็มัดมือมันตีนมันเอาไว้ อย่าให้มันหนีรอดไปได้ รอให้มันออกลูกก่อน แล้วจากนั้น กูจะเฉดหัวมันออกไปจากวังนี้
บุหลัน (ก้อง) เราถึงกับตาเหลือก เพราะรู้ว่ายายเฟืองไม่ได้พูดเล่น พออ้าปากจะร้องขอ ความช่วยเหลือ ก็ถูกเจ้าคนหนึ่งเอาผ้าที่เตรียมมา รัดปิดปากจนแน่น
เฟือง ไอ้ยอด..ไอ้แคล้ว... ลากมันไปไว้ในเรือนแพ
แคล้ว จ๊ะยาย....
บุหลัน (ก้อง) เจ้าคนที่ชื่อแคล้วฉุดกระชากลากถูเราไปอย่างไม่ปราณีปราศรัย ตามคำสั่ง ของยายเฟือง เรารู้สึกเจ็บแปลบที่ท้องน้อย และความเจ็บปวดนั้น ก็แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง อย่างรวดเร็ว ร่างของเราถูกถูลู่ถูกัง ไปตลอดทาง จนแขนขาถลอกปอกเปิก แต่ความเจ็บปวด ที่ได้รับนั้น ก็ยังไม่เท่ากับความเจ็บปวดในหัวใจ ที่มองเห็นจุดจบของชีวิตตัวเอง และลูกในท้อง ที่กำลังรออยู่เบื้องหน้า ได้แต่ภาวนาถึงยายที่ตายจากไปอย่างมีความสุข ที่เห็นอนาคต อันสดใสของหลานสาวที่ต่ำต้อย แต่วิญญาณของยายจะรู้ไหม ว่าเวลานี้หลานสาวของยายคนนี้ กำลังได้รับทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัส (ปิดก้อง) ยายจ๋า... ช่วยบุหลันด้วย
แคล้ว มันเป็นลมไปแล้วยาย
เฟือง แกล้งทำเป็นสำออยน่ะสิ โธ่เอ้ย...โดนแค่นี้ทำเป็นใจเสาะ ลากมันไปข้างใน
ยอด ยาย...นั่นน้ำ.. น้ำอะไรน่ะ เลือดหรือเปล่า
แคล้ว เลือดเหรอวะไอ้ยอด
ยอด ไม่รู้พี่แคล้ว ไม่รู้ว่าเลือดหรือเปล่า
แคล้ว ยาย...ช่วยดูหน่อยสิ ว่าใช่เลือดมันหรือเปล่า
เฟือง ล่งเลือดอะไรที่ไหน น้ำคร่ำมันแตกน่ะสิ มันจะออกลูกแล้ว
ยอด (ก้อง) ยายเฟืองบอกออกมาด้วยความเจนต่อโลก เมื่อหันขวับมาดูร่างของหม่อมบุหลัน ที่นั่งกองคอพับคออ่อนอยู่กับพื้นเรือน ซึ่งคำพูดนั้นของยายเฟือง ก็ทำให้เราโล่งอก เพราะนั่นเท่ากับว่าหม่อมบุหลันยังมีลมหายใจอยู่ เราได้แต่ถอนใจยาว และนั่งจับเจ่าอยู่หน้าเรือนกับพี่แคล้ว เราไม่ได้อยากจะทำแบบนี้เลย แต่ถ้าไม่ทำ เราก็จะอยู่ในวังนี้ต่อไปไม่ได้ เพราะยายเฟือง เป็นใหญ่ที่สุด ทั้งบนตำหนักและชั้นล่าง ส่วนพี่แคล้วเอง ก็ถือว่าเป็นหลานยายเฟือง มันก็เลย ตั้งตัวเป็นลูกพี่ของใครต่อใครไปหมด ผู้ชายในบ้าน ล้วนแล้วแต่เป็นสมุนของพี่แคล้วทั้งนั้น ถ้าหากเราขัดขืนไม่ยอมทำตาม ก็คงจะต้องเจ็บตัวแน่ ๆ (ปิดก้อง) พี่แคล้ว...จะเอายังไง ต่อไปล่ะพี่
แคล้ว (หัวเราะในลำคอ) ก็รอให้อีนั่นมันออกลูกสิวะ ถ้าเด็กเป็นผู้ชาย ก็เก็บไว้ให้ท่านหญิง จากนั้นก็เฉดหัวมันออกไปกับชู้
ยอด แต่คุณบุหลันไม่ได้มีชู้นี่พี่แคล้ว
แคล้ว ไอ้โง่... มีหรือไม่มี มึงก็ต้องบอกไปแบบนั้น หรือว่ามึงไม่อยากมีที่ซุกหัวนอนวะไอ้ยอด
ยอด แล้วถ้าเด็กเป็นผู้หญิงล่ะ
แคล้ว มึงก็ต้องพามันไปทั้งแม่ทั้งลูกนั่นแหละ
ยอด พาไปไหนเหรอพี่แคล้ว
แคล้ว วะ...ไอ้โง่นี่ กวนตีนจริงโว้ย มึงจะพาไปตกนรกหมกไหม้ที่ไหน มึงก็พาไปซิ ไปให้ไกล ร้อยโยชน์พันโยชน์ได้ยิ่งดี แต่ข้าว่าทางที่ดีนะ มึงเอามันไปทิ้งลงกลางแม่น้ำนั่นแหละดีที่สุดเลย มันจะได้จมหายไปเลยยังไงละวะ
ยอด (ก้อง) สุ่มเสียงที่พี่แคล้วพูดฟังดูเหมือนว่ากำลังพูดเรื่องธรรมดา ๆ แต่เราฟังแล้วเสียว ไปทั้งสันหลัง ตั้งแต่เกิดมาเราเคยฆ่าใครซะที่ไหนกัน ขนาดหมาแมว เรายังไม่กล้าฆ่า นี่คนทั้งคน แล้วเราจะทำได้เหรอเนี่ย
เสียงเด็กแรกเกิดร้อง....
ดนตรีคั่นเล็กน้อย....
แคล้ว (ก้อง) เสียงอุแว้ ที่ดังออกมาจากข้างใน ทำให้เราขว้างบุหรี่ใบจากในมือทิ้งทันที แล้วหันไปหาไอ้ยอด ซึ่งมันถึงกับสะดุ้งสุดตัวเลยทีเดียว เมื่อมีเสียงร้องของเด็กดังขึ้น
ยอด พี่แคล้ว...
แคล้ว ผู้หญิงหรือผู้ชายวะ
ยอด (ก้อง) เสียงถามออกมาแบบลอย ๆ ของพี่แคล้ว ทำให้ใจเราถึงกับใจเต้นแรง และรู้สึกหายใจ ไม่ทั่วท้อง เมื่อเห็นยายเฟือง เปิดประตูผางออกมา ในมือทั้งสองข้างประคองห่อผ้าเอาไว้ พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่ผ่องใส
เฟือง ผู้ชายว่ะ
แคล้ว (ตบมือด้วยความดีใจ) ไชโย้...ท่านหญิงได้ลูกแล้วโว้ย
ยอด ลูกคุณบุหลันต่างหากล่ะพี่แคล้ว
แคล้ว อุวะ..ไอ้นี่ เดี๋ยวกูถีบให้ มึงนี่พูดไม่รู้ฟัง มึงจำใส่กะโหลกเอาไว้เลยนะ นี่น่ะ..ลูกท่านหญิง ไม่ใช่ลูกนังบุหลัน แล้วเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นคืนนี้ มึงปิดปากให้เงียบเลยนะ ไม่งั้นละก็กูได้เอาเลือดมึงมาล้างตีนกูแน่
เฟือง ได้ยินที่ไอ้แคล้วมันพูดแล้วใช่มั๊ยไอ้ยอด คนที่ทำตามกูเท่านั้น ถึงจะอยู่ได้ รีบเอานังนั่น ไปลงเรือได้แล้ว
แคล้ว ไปไหนดีล่ะยาย เอาไปให้แม่พระคงคาเลี้ยงดีไหม (หัวเราะยียวน)
เฟือง (หัวเราะชอบใจ) เอ็งนี่มันรู้ใจข้านักไอ้แคล้ว เอาละ...ข้าจะเอาเด็กไปถวายให้กับ ท่านหญิงก่อน ส่วนเอ็งสองคนช่วยกันเก็บกวาดเช็ดล้างทางนี้ให้เรียบร้อย อย่าให้เหลือ ร่องรอยเชียวนะ รวมทั้งนังนั่นด้วย จัดการอย่าให้เหลือซาก
ดนตรีตื่นเต้นคั่นเล็กน้อย....
ยอด พี่แคล้วถูเรือนไปเหอะ นังนี่น่ะ...ฉันจัดการเองได้ รับรองจะเอาใส่เรือพายไปทิ้งให้ไกล ถึงรอยต่อระหว่างแม่น้ำที่ติดกับทะเลโน่น ก่อนที่พระอาทิตย์ขึ้น ศพจะได้ไม่ลอยขึ้นอืด กลับมาแถวนี้
แคล้ว เอ็งนี่มันก็พูดรู้เรื่องเหมือนกันนี่หว่า ไป...รีบจัดการได้แล้ว
ยอด (ก้อง) เราไม่นำพาต่อคำพูดของพี่แคล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าทำไมเราถึงได้พูดออกไปแบบนั้น เรารีบประคองร่างที่นอนสลบไสลปวกเปียกของคุณบุหลันไปวางกลางท้องลำเรือ แล้วก็รีบพายออกไปทันที แค่ทิ้งคุณบุหลันลงน้ำแค่นี้ มันก็ไม่เรื่องยากนี่หว่า เราต้องทำได้สิวะ
เสียงเด็กแรกเกิดร้องดังขึ้น
ยอด (ร้องด้วยความตกใจ) เฮ้ย!
ดนตรีเร้าใจดังขึ้นแล้วเฟรดลง
เสียงเด็กแรกเกิดร้องดังคลอไปเรื่อย ๆ
ยอด นี่มันอะไรกันวะ เด็ก เด็กที่ไหนร้องอีก
บุหลัน ลูก...ลูกแม่
ยอด เฮ้ย...นี่คุณบุหลันคลอดลูกออกมาอีกคนเหรอวะเนี่ย ทำยังไงดีวะ จะให้ฆ่าทั้งแม่ทั้งลูก เลยเหรอ ทำไม่ได้โว้ย กลับไปก็ไม่ได้ พวกมันเอาตายแน่ ทำอะไรไม่ถูกแล้วกู เอาผ้าห่อเด็ก เอาไว้ก่อนดีกว่า แล้วทีนี้จะทำยังไงดีวะ (ตกใจ) อ้าว...เฮ้ย ! ทำไมน้ำถึงได้ซึมเข้ามาในเรือเยอะแบบนี้วะ ซวยละซิไอ้ยอด นี่เรือรั่วนี่หว่า ขืนปล่อยไว้แบบนี้เรือล่มแน่ ต้องรีบพายเรือเข้าหาฝั่ง ให้เร็วที่สุดแล้ว
เสียงพายเรือดังคลอไปเรื่อย ๆ
ยอด นี่คงจะต้องเป็นฝีมือไอ้แคล้วแน่ ๆ ไอ้แคล้ว...ไอ้ชาติชั่ว นี่มันคงกะจะฆ่าเราให้ตายไปพร้อมกับคุณบุหลันแน่ ๆ ไอ้ยอดหนอไอ้ยอด คิดจะเอาเขามาฆ่าทิ้ง ตัวเองก็เลยต้องโดนเขาฆ่า ปิดปากไปด้วย เวรกรรมมันตามทันเร็วแท้ ๆ สาธุ...คุณพระคุณเจ้า ช่วยลูกด้วยเถอะ ลูกจะไม่ฆ่าใครทั้งนั้น ขอให้ลูกพายเรือให้ถึงฝังก่อนที่เรือจะจมด้วยเถอะ เจ้าประคู้ณ.... ขออย่าให้เด็กที่เพิ่งจะเกิดมาลืมตาดูโลก ต้องตายเพราะจมน้ำเลย นั่นไง.... ศาลาท่าน้ำ มองเห็นอยู่ ข้างหน้านั่น ห่างสักวาเห็นจะได้ (ร้องด้วยความตกใจ) ตายโหง...เรือจมแล้ว เอาวะ..ตายเป็นตาย อุ้มเด็กไว้มือหนึ่ง อีกมือหนึ่งก็ประคองคุณบุหลันเอาไว้ แล้วใช้ตีนสองข้างนี่ตีน้ำ พยายามพยุงตัวเข้าหาฝั่งก่อน ถ้ารอดก็รอดด้วยกัน แต่ถ้าโชคร้าย ก็ตายกันหมดนี่แหละวะ
เสียงน้ำแตกตูมตาม
ดนตรีเร้าใจคั่นแล้วเปลี่ยนเป็นดนตรีวังเวง
แขไข (ก้อง) เรานอนไม่หลับ เพราะหูได้ยินเหมือนเสียงคนร้อง จนกระทั่งเห็นเฟืองเปิดประตูห้องเข้ามาอย่างระแวดระวัง นี่คงกลัวว่าเราจะตื่น เพราะคิดว่าเราคงจะหลับไปแล้ว (ปิดก้อง) เฟือง....เฟืองไปไหนมา
เฟือง ท่านหญิงยังไม่บรรทมอีกหรือเพคะ
แขไข หญิงนอนไม่หลับ ได้ยินเหมือนเสียงคนร้อง มีใครเป็นอะไรหรือเปล่า แล้วนั่นหอบอะไรมา
เฟือง (ก้อง) ท่านหญิงถามพร้อมกับปัดพระวิสูตรออกมาทันที เรายังไม่ทันได้ทูลตอบ คุณชายที่เราอุ้มอยู่แนบอกก็แผดเสียงร้องจ้า จนทำให้ท่านหญิงถึงกับสะดุ้ง เพราะตกพระทัย
เสียงเด็กร้องดังขึ้นแล้วคลอไปเรื่อย ๆ
แขไข เสียงเด็กที่ไหนน่ะเฟือง อย่าบอกนะว่าในห่อผ้านั่น เฟือง... นี่มันอะไรกัน บอกหญิงมา เดี๋ยวนี้นะ
เฟือง นังบุหลันมันคลอดแล้วเพคะ เป็นเด็กผู้ชายเพคะ มันให้หม่อมฉันนำมาถวายให้ท่านหญิง
แขไข เป็นไปได้ยังไง ไม่เห็นมีวี่แววเลยนา
เฟือง ทำไมจะเป็นไปไม่ได้เพคะ มันท้องแก่อุ้ยอ้ายขนาดนั้น ถ้าเป็นผลไม้ ก็เรียกได้ว่าสุกงอม เต็มที่แล้ว
แขไข ไหนเฟืองลองเล่ามาสิ ว่าเรื่องมันเป็นยังไงกัน
เฟือง พอหม่อมฉันส่งท่านหญิงแล้ว หม่อมฉันก็ลงไปข้างล่าง นังบุหลันมันขอร้องเองเลยนะเพคะ ว่ามันอยากไปอยู่ที่เรือนแพ เพราะไม่อยากคลอดบนตำหนัก มันว่ากลัวว่าท่านหญิงจะตกพระทัย หม่อมฉันก็เลยตามใจมัน ก็เลยให้ไอ้แคล้วกับไอ้ยอดมาช่วยกันประคองมันไป
แขไข จริงเหรอเฟือง แล้วทำไมเฟืองถึงได้เอาลูกเขามาล่ะ
เฟือง ลูกเขาที่ไหนกันเพคะ เด็กคนนี้เป็นลูกท่านชายรังสิโยภาส และเป็นคุณชายของวังนี้ นังบุหลันมันก็แค่เบ่งออกมาเท่านั้น นี่มันก็คงจะรู้ตัวนะเพคะ ว่าถ้าคุณชายอยู่กับมัน คุณชายก็คงจะเสื่อมศักดิ์ศรี มันถึงได้ขอร้อง ให้หม่อมฉันพาคุณชายมาถวายให้กับท่านหญิงไงละเพคะ
แค้นเสน่าหา จากบทประพันธ์ของวราภา แค้นเสน่หา แค้นเสน่หา.... ดนตรีวังเวงคั่นเล็กน้อย....
By : Tree   Date : 19 Jun 2013 19:13
|