Impossible love 4
Impossible Love 4
ฉันรีบออกมาจากห้องนั้น ก่อนที่จะอาบน้ำแต่งตัวไปตามนัดกับเพื่อนของฉัน วันนี้เรานัดเจอกันทุกชั้นปีเพื่อทำกิจกรรมงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ที่จะถึงนี้
.
..กรี๊ด
..กรี๊ด
พี่มิยะ
. โอ๊ย!!!! มันอะไรกันอีกละเนี่ยวุ่นวายกันแต่เช้าเลย น่าเบื่อจริงๆเลย
ฉันบ่นอย่างเซ็งๆกับเสียงกรี๊ดที่ดังจนแสบแก้วหูนั่น
เอกิ
.ชั้นปีเราทำบูทขายอาหารด้วยแหละ
มีส้มตำ
ไก่ย่าง
ข้าวเหนียว
.ฯลฯ ยัยริกะสาธยายเสียยืดยาวจนฉันทำท่านอนหลับ เลยทำให้ยัยริกะค้อนฉันซะยกใหญ่ ก่อนที่จะถามฉันว่าเมื่อคืนกลับมานอนได้ยังไง
.????
.พลันทำให้ฉันนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนกับตอนรุ่งเช้า มันทำให้ฉันร้อนวูบวาบพร้อมกับอาการใจเต้นไม่เป็นจังหวะ..!!!!!
นี่
ฉันถามได้ยินไหม ยัยริกะเริ่มขึ้นเสียงหลังจากที่ฉันเงียบไปพักใหญ่
อืม
ก็เรียกแท็กซี่กลับนะสิ
จะให้เดินกลับหรือไงล่ะเดี๋ยวฉันโดนฉุดจะว่ายังไง ฉันพูดร่ายยาวจนเพื่อนฉันอดที่จะยิ้มไม่ได้
..งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์
เอกิ
..น้ำโต๊ะ 8 มาสามคนนะ
. ยัยริกะเอ่ยเรียกฉัน วันนี้ฉันกับเพื่อนๆวุ่นวายกับการขายของในซุ้ม
ขอโทษนะคะ ที่ให้รอนาน
.รับอะไรดีคะ ฉันหยิบเมนูอาหารให้กับลูกค้า พร้อมเตรียมปากกาจดรายการอาหารที่ลูกค้าสั่ง
เอ่อ!!!! ขอส้มตำใส่ยัยเบ๊อะ
ไก่ย่างสำหรับคนหล่อสามที่
ด่วนนนน ฉันเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงที่สั่งเมนูกวนบาทาเหลือเกิน
แต่ฉันต้องอ้างปากค้างเมื่อเจอเจ้าตัว
ไอ้ปีศาจหิน
..
ฉันจ้องมองไอ้บ้านั่นด้วยสายตาที่เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
..จนเพื่อนฉันกับเพื่อนไอ้ปีศาจนี่ต่างมองหน้ากันอย่างงุนงง ซึ่งตอนนี้ฉันกับไอ้บ้านี่กำลังแยกเขี้ยวใส่กัน พร้อมที่จะฟัดกันทุกเมื่อ
..เฮ้
มิยะ
นายรู้จักกับรุ่นพี่ปีสามคนนี้ด้วยเหรอเนี่ย (เพื่อนมันพากันทำตาโต
.แล้วมันจะพากันตกใจทำแป๊ะไรเนี่ย
)
ทุกอย่างเหมือนกำลังจะแย่ลงทุกขณะเพราะตอนนี้
.ฉันกับไอ้บ้านี่นั่งตาขวางกันคนละมุม
เอ่อ!!! พี่เอกิครับ!!!!ส้มตำใส่คนน่ารัก
.จัดเสริฟพร้อมไก่ย่างคนสวย
ถ้าให้ดีมีคนน่ารักอย่างพี่เอกิทานด้วยยิ่งน่าอร่อยคร๊าฟฟฟฟ เสียงไอ้เคนจินั่นเอง โผล่มาได้จังหว่ะจริงๆเลย ไอ้นี่ก็มีประโยชน์อยู่บ้างนะเนี่ย
จ้า
..ถ้าจะให้นั่งด้วยเนี่ย เปลี่ยนเป็นไปกินในใจกะน้องเคนจิดีกว่าไหม๊จ๊ะ
. ฉันเอ่ยเสียงหวานออกไปพร้อมกับหันไปยักคิ้วให้กับเจ้าบ้านั่น
.แต่แทนที่มันจะแยกเขี้ยวกลับอย่างที่ควรจะเป็น
.ไอ้มิยะบ้านี่กลับจ้องมองหน้าฉันนิ่ง และสายตาเรียบเฉยไร้อารมณ์ใดๆก็เกิดขึ้น ไอ้บ้านั่นเดินเข้ามาหาฉันช้าๆก่อนที่จะหยุดยืนต่อหน้าฉัน พร้อมกับเอ่ยออกมาอย่างช้าๆ
เธอจะไปกับฉัน
หรือจะให้ไอ้หน้าจืดนั่นรับแทนเธอ
..ตรงนี้ มิยะพูดลอดไรฟันออกมาแถมจ้องมองหน้าเคนจิซึ่งตอนนี้ยืนหน้าซีดเป็นไก่ต้มไปแล้ว
..
ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับนาย
.เพราะฉะนั้นฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น
ฉันเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองหน้ามิยะอย่างเป็นต่อ ก็ในเมื่อตรงนี้คนเยอะแยะ เจ้าบ้านั่นคงไม่กล้าทำอะไรหรอก
ได้
แล้วเธอจะรู้ว่าคนอย่างฉันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่เธอคิด/
. มิยะพูดจบก็เดินผ่านฉันไปอย่ารวดเร็ว จนฉันนึกแปลกใจ ว่าเขาหงุดหงิดอะไรนักหนานะ กะอีแค่เรื่องไม่เป็นเรื่อง
เธอนี่หาเรื่องได้ถูกคนจริงๆเลยนะ
. เพื่อนมิยะเอ่ยขึ้นหลังจากที่สถานการณ์คลี่คลาย
ฉัน
..ไม่เคยเห็นใครกล้าลองดีกับมิยะได้เหมือนเธอเลยจริงๆ
.แต่ฉันก็ขออวยพรให้เธอโชคดีด้วยแล้วกันนะ เพื่อนอีกคนกล่าวเสริมขึ้นมา จนฉันงงว่าทำไมหรอ นายมิยะอะไรนั่นอารมณ์ร้ายหรือไงกันนะ
นี่เธอ
รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังเล่นกับไฟอยู่น่ะ
.แม่สาวน้อย เพื่อนไอ้บ้ามิยะเอ่ยยิ้มๆ
แต่ฉันเพิ่งเคยเห็นไอ้มิยะพูดมากก็วันนี้แหละ
.ปกติมันจะเฉยชาตลอดเลยนะ
อืม
สงสัยมันจะเจอคู่ปรับเสียแล้วล่ะงานนี้
เอ้อ
เราลืมแนะนำตัว ฉันชื่อคิระ
แล้วนี่ก็
ซากิ เพื่อนมิยะน่ะ
เอ่อ
เราว่าคุ้นๆหน้าพวกนายนะ
. เสียงริกะกับมิกิดังขึ้นพร้อมกัน
นี่พวกเธอ
จำหน้าพวกฉันไม่ได้เหรอ
.งั้นใบ้ให้เอาไหม
F-o-r-
..
วง Forever ช่ายป่ะ?????... เสียงเรียกอย่างพร้อมเพรียงกัน
ถูกต้องนะคร๊าฟฟฟ
พวกเธอหน้าคุ้นๆนะเหมือนเคยเจอที่ไหน
.. สาวหล่อเริ่มครุ่นคิดก่อนทีจะมีอีกหลายบทสนทนาตามมาแต่ฉันไม่ได้ฟังอะไรหรอก มัวแต่คิดเรื่องไอ้บ้านั่นจะสงบสติอารมณ์ได้หรือยังนะ
หลายชั่วโมงต่อมา
พวกเราพากันเก็บข้าวของ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับห้อง แต่ให้ตายเหอะ ไอ้เพื่อนฉันน่ะเหรอ โน่นแน่ะไปดินเนอร์กับสมาชิกวง Forever เรียบร้อยแล้ว ช่างสนิทสนมกันเร็วเหลือเกินนะ
ฉันลากสังขารเดินกลับที่พัก พร้อมหอบของพะรุงพะรังเต็มมือ ฉันค่อยๆวางของในมือลง เอื้อมมือไปเปิดกุญแจ
..ในขณะที่ฉันหอบของชิ้นสุดท้ายเข้าห้องนั่นเอง
..
ไง
ฉันมาคิดบัญชีคืนเมื่อตอนกลางวัน ไอ้บ้านี่ทำไมเจ้าคิดเจ้าแค้นนักนะ
ฉันลืมมันไปหมดแล้วนะเนี่ย
วันนี้ฉันเหนื่อยมากแล้ว ขี้เกียจทะเลาะกะนาย ไว้วันหลังแล้วกันนะ
..
ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหม๊
.ไม่มีใครกล้าปฏิเสธฉัน
นี่เธอปัญญานิ่มหรือสมองเสื่อมหรือไงถึงจำไม่ได้น่ะ
เฮ้อ!!!!! แล้วจะเอายังไง
. ฉันถอนหายใจพร้อมกับถามอย่างเบื่อๆกับนิสัยเด็กที่เอาแต่ใจของมิยะ
หึ
เธอเป็นคนอนุญาตฉันเองนะ
นี่ฉันอนุญาตเรื่องไร ตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย ไอ้บ้ามิยะถือวิสาสะเดินเข้าห้องฉัน พร้อมกับล็อคประตูอย่างเรียบร้อย
.แล้วร้อยยิ้มแปลกๆนั่นมันคืออะไรกันแน่นะ
.????? แต่โดยสัญชาตญาณของฉัน มันบอกฉันว่าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ฉันกำลังจะวิ่งหนีเข้าห้องน้ำแต่ช้าไปเสียแล้ว
.เพราะตอนนี้ฉันจนมุมติดกับกำแพงจนหาทางออกไม่เจอ OoO
..
ไง
.จะอวดเก่งเหมือนตอนกลางวันอยู่ไหมล่ะ
นี่
นายอย่างทำอะไรบ้าๆนะ
.
แล้วอะไรล่ะที่เธอว่ามันบ้าน่ะ
หึ
หึ ฉันพยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนนั่นแต่เหมือนฉันยิ่งดิ้นแรงเท่าไหร่ฉันยิ่งกับเหมือนไม่มีแรงมากขึ้นเท่านั้น
..และเหมือนคนตรงหน้าฉันจะได้ใจมากเหลือเกิน
.มันสนุกตรงไหนกันนะที่ได้แกล้งฉันเนี่ย ฉันเริ่มนิ่งไม่พยายามหนีอีกต่อไป
อาจเป็นเพราะว่าฉันเหนื่อยจากตอนกลางวันมั้ง
ไง
.หมดฤทธิ์แล้วเหรอแม่ตัวยุ่ง
.. ฉันฉวยโอกาสตอนที่ไอ้มิยะเผลอผลักไอ้มิยะออก แล้วกะจะวิ่งหนีแต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด
.เพราะตอนที่ฉันลุกเป็นจังหวะเดียวกับที่มิยะเซล้มแล้วไอ้บ้านั่นก็ดันคว้าเอวฉันไว้พอดี
O///O
เหตุการณ์ตอนนี้คือฉันนอนทับตัวมิยะอยู่ แล้วหน้าฉันกับมิยะห่างกันแค่สิบเซ็นเท่านั้น
.หัวใจฉันเริ่มเต้นผิดจังหวะอีกแล้ว
.
ฉันว่าเธอกำลังต้องไปหาหมออีกแล้วนะ
. มิยะเอ่ยยิ้มๆ
ฉันก็แค่ตกใจ
อย่าได้คิดว่าฉันจะพิศวาสในตัวนาย
.ไม่มีวัน ฉันเห็นหน้ามิยะเรียบเฉยอีกครั้งแล้วก็เอาแต่จ้องหน้าฉันนิ่ง เอาอีกแล้วสายตานี้อีกแล้ว ฉันไม่เคยเข้าใจมันเลยจริงๆ
งั้นเธอมาพิสูจน์ไหม๊ล่ะ
. มิยะเอ่ยเสียงเข้มพร้อมส่งสายตาคมบาดลึกเข้าไปในใจของฉัน นั่นสินะแล้วทำไมฉันต้องรู้สึกใจเต้นแรงตอนที่อยู่ใกล้มิยะด้วยล่ะ
.ในเมื่อฉันไม่เคยคิดแม้แต่จะคบหากับพวกประเภทนี้เลย
เธอกล้าที่จะเปิดใจของเธอหรือเปล่าล่ะ???? เขาต้องการอะไรจากฉันกันแน่นะ หรือเพราะต้องการเอาชนะฉันงั้นหรอ
.ถ้าเป็นอย่างนั้นไม่มีวันหรอก
..
หรือว่าเธอปอดแหกกันแน่
เธอกลัวหลงรักฉันใช่ไหมล่ะ
ไม่มีวัน
.ฉันรับคำท้า
ก็ดี
..ถ้ากลับคำวันไหนเธอโดนลงโทษแน่ยัยบื้อ
กลัวตายแหละ
พ่อผู้ดี
งั้นก็บทพิสูจน์แรกเลยนะ
. อยู่ๆมิยะก็เอ่ยขึ้นทั้งๆที่ฉันยังไม่ได้ตั้งตัว
จูบฉัน
.
ห๊า
..นายว่าอะไรนะ
บ้าไปแล้วแน่เลย
ฉันว่าแล้วว่าเธอจะต้องไม่กล้า
.น้ำหน้าอย่างเธอเนี่ยนะ
คงไม่เคยเจอใครจูบ..หรือไม่เคยจูบใครแน่ๆ นี่ขนาดอยู่ปีสามแล้วนะเนี่ย
จูบไม่เป็น..อายเขาตายห่าเลย
.
นายว่าใครจูบไม่เป็น
.
ฉันก็ว่า
. ยังไม่ทันที่มิยะจะพูดจบฉันก็ดึงคอเสื้อมิยะลงมาพร้อมกับประกบจูบอย่างรวดเร็ว มิยะตาโตเท่าไข่ห่าน ตัวแข็งทื่อเหมือนก้อนหิน
ฉันถอนจูบออกก่อนที่จะเชิดหน้าใส่มิยะที่ตอนนี้ยังไม่หายตะลึง
ก็ไม่เลวนี่
.แต่ก็คงทำได้แค่นี้แหละ มิยะเอ่ยออกมาหน้าตาเฉยทำให้ฉันนึกหมั่นไส้ เลยจับเขากดลงบนที่นอนพร้อมกับประกบจูบอย่างดูดดื่ม นุ่มนวลและอย่างเชื่องช้าไม่รีบร้อน มิยะกอดตอบฉันพร้อมกับแลกลิ้นรับสัมผัสรสอ่อนหวานนั้น เนิ่นนานกว่าที่ที่ฉันจะได้สติแล้วถอนจูบนั้น
..
ถ้าฉันมองไม่ผิดฉันเห็นมิยะหน้าแดงด้วย...ทำไมกันนะหรือว่าเขาโกรธฉันกันแน่นะเห็นไม่พูดอะไรบ้างเลย
เอ่อ
นี่ฉันขอโทษนะ
มันก็แค่การแสดงน่ะ
แหะ..แหะ ฉันบอกออกไปแก้เก้อ
ไม่เป็นไรหรอกถ้าเธอคิดแค่นั้น
.. มิยะเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาราบเรียบแล้วเขาก็เดินออกจากห้องฉันไปดื้อๆ ทิ้งฉันให้ยืนเอ๋อ อยู่ในห้องคนเดียว อะไรของเขานะอารมณ์ขึ้นๆลงๆเหมือนวัยหมดประจำเดือนเลยไอ้บ้าเนี่ย
..
แต่ให้ตายเหอะ
ใจฉันยังสั่นไม่หายกับเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่เลย มันก็แปลกดีเนอะจูบกะผู้หญิงเนี่ย เฮ้อ
..แต่ทำไมใจสั่นกว่าตอนคบกับริวกิอีกน่ะ
..
By....ละอองรัก.......
By : VamslTd   Date : 10 Jan 2013 13:20
|