นิทาน : ลูกกบกับวัว
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว สองนาน สามนาน ..........
ใครรู้จักแม่กระผมบ้างขอรับ แม่เป็นตัวเอกในนิทานเรื่อง แม่กบกับวัว ที่พยายามพองตัวให้ลูกๆเห็นว่า วัวนั้นใหญ่โตน่ากลัวเพียงใด จนลืมไปว่าตัวเองเป็นแค่กบตัวเล็กๆ จะไปพองตัวจนใหญ่โตได้แค่ไหน จยสุดท้าย ต้องตัวแตกตายอย่างน่าอนาจ จนทำให้ลูกกบอย่างผมต้องกำพร้าแม่
หลังจากเกิดเหตุการณ์วันนั้น ลูกกบที่กำลังเพลิดเพลินมองแม่กบพองตัวอย่างสนุกสนาน ต่างกระเด็นกันไปคนละทิศคนละทาง เพราะแรงแตกระเบิดของแม่
ลูกกบตัวที่หนึ่ง กระเด็นไปติดเกาะ ป่านนี้เป็นเช่นไรไม่รู้
ลูกกบตัวที่สองกระเด็นไปกระแทกกับต้นแอ๊ปเปิ้ล ทำให้นิวตันได้ค้นพบ กฎแรงโน้มถ่วงโด่งดังไป
ลูกกบตัวที่สาม หายสาปสูญไปในป่า
ส่วนผม ลูกกบตัวสุดท้าย กระเด็นเข้ามาอยู่ในกะลา นับแต่วันนั้น
ผมกลัวการพองตัวอย่างจับใจ กลัววัว กลัวทุกอย่างภายนอก ก็อย่างว่าการพองตัวของกบ มันเป็นสัญชาตญาณ ผมกลัวจะอดใจพองตัวไม่ได้ หรือกลัวว่า ถ้าพองตัวแล้วจะต้องตายอย่างอนาจ แบบ แม่
วันๆผมได้แต่อ่านหนังสือ ทำการวิจัย หาสารอาหารที่มีไฟเบอร์ อิลาสติน มีความยืดหยุ่นสูง ศึกษายากดภูมิการพองตัว แต่ทุกวันนี้ ยังไม่สำเร็จ
คุณๆอาจสงสัยว่าผมอยู่ได้อย่างไร?
โชคดีของผมนะ ผมมีกบสาว นางหนึ่งคอยดูแล เธอเป็นเพื่อนเล่นของผมตั้งแต่สมัยเด็กๆ ก่อนที่ผมจะกระเด็นมาเป็นกบในกะลา เธอคอยส่งน้ำ อาหาร หาหนังสือ หางานวิจัยต่างๆมาให้ผมอ่าน อยู่เป็นเพื่อนผมที่ข้างนอกกะลา และคอยสอนผมว่า
"เราหนีสัญชาตญาณไม่พ้นหรอกนะกบเล็ก" เธอสอนผมเสมอ
ผมเข้าใจแค่ อยากจะเปลี่ยนแปลงแค่นั้น
เธอบอกผมว่า การพองตัวของพวกเรา มันไม่น่ากลัวขนาดนั้นหรอก เธอจะทำให้ดูเอาไหม
"อย่าๆได้โปรด ผมกลัว" เธอแกล้งล้อผมด้วยมุขนี้ประจำ
วันหนึ่งเธอชวนผมออกไปหาคอลโลฟิลที่ริมน้ำ เพื่อนำมาวิจัยความยืดหยุ่น
ในขณะที่เรากำลังเพลิดเพลินกับการหาสารวิจัยอยู่นั้น วัวตัวหนึ่ง เดินตรงมาทางเรา
ผมตะโกนบอกกบสาวสุดเสียง และกระโดดหนี แต่กบสาว หนีไม่ทัน ผมเหลียวกลับไปมองเธอ เธอกำลังจะพองตัว มันเป็นภาพที่ทำให้ผมรู้สึกชาไปทั้งตัว แข็งเป็นก้อนหิน ขยับตัวไปต่อไม่ได้ ผมหลับตาเหงือแตก ฉี่แทบราด ........................
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด....... กบสาวร้องเสียงแหลมอย่างที่ผมไม่เคยได้ยิน
ผมรู้สึกตัวอีกทีเมื่อร่างอันพองโตของผมอยู้ใต้อุ้งเท้าเจ้าวัวตัวนั้น กบสาวหลบอยู่ข้างหลังผมร้องไห้ใหญ่โต อุ้งเท้าของเจ้าวัวดีดกลับไปทางอื่น เมื่อแตะเข้ากับผิวหนังของผม อาจจะเพราะว่า การทดลองกับตัวเองทำให้ความยืดหยุ่นของหนังผมมันดีกว่ากบทั่วไป แล้วเจ้าวัวก็เดินเลี่ยงไปทางอื่นเสีย
หลังจากที่เราสงบสติอารมณ์กับเหตุการณ์ที่ผ่านไป ผมก็ได้รู้แล้วว่า ผม ไม่สามารถหลีกหนีสัญชาตญาณของกบได้ แล้ะกบสาวได้เฉลยกับผมว่า ที่แม่พองตัวในตอนนั้น ไม่ใช่แค่โอ้อวดว่าตัวเองใหญ่โตเท่าวัว แต่เป็นเพราะ แม่วัว ต้องการปกป้องลูกๆจากอุ้งเท้าของวัวที่เดินผ่านมาในตอนนั้น นั่นเอง
"เธอรู้ได้ไง" ผมถามกบสาว
"ฉันเห็นนะซิ" กบสาวยิ้มตอบ
ผมยิ้มด้วย คุณผู้อ่าน ก็เข้าใจผิดมาตั้งนานเหมือนผมใช่ไหม และวันนี้ผมเข้าใจแล้วว่า "สัญชาตญาณ คือเรื่องถูกต้อง"
ผมกลับไปตกแต่งกะลา ทำหน้าต่าง ทำประตู ออกไปเดินเล่นนอกกะลาเหมือนกบทั่วไป เผยแพร่งานวิจัย เผื่อจะเป็นประโยชน์กับชาวกบ และ.....
ผมได้อยู่กัยกบสาว อย่างเป็นทางการแล้ว
สวัสดีครับ ......
#######################
หังจากที่หายไปนาน ^^
By : นายปลาหมึก   Date : 10 Dec 2012 22:28
|