Open On :เปิดหัวใจ ไว้รอเธอ (11)
Open On :เปิดหัวใจ ไว้รอเธอ
หลังจากเมื่อวานที่เกิดเรื่องจนต้องขึ้นโรงพัก และวีได้ปะทะคารมกับอัญไป ทำให้วันนี้เขาออกอาการหงุดหงิดมากกว่าทุกวัน
วีออกมานั่งที่ขอบระเบียงในร้าน ใจเขาร้อนระอุไปหมด ยิ่งคิดว่าก่อนหน้านั้น เขาเองที่เป็นคนพาอัญเข้ามาที่ฟาร์ม และทำให้เธอ และฟาร์มอดิศรรู้ลู่ทางในการเล่นงานฟาร์มธัญวาริน...
ยิ่งคิดเขายิ่งเจ็บใจ ทำไมเขาไม่เอะใจสักนิด... ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่าตัวเองถูกหลอก แถมยังตกหลุมรักคนที่หลอกตัวเองเข้าจังเบอร์
คุณวีครับ อ้นเดินมาตามวี กินข้าวมั้ยครับ
ไม่กิน วีตอบเสียงเรียบ ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองคนสนิทของตัวเอง
คุณวีเป็นอะไรรึเปล่าครับ หนุ่ยถามอีกคน
ไม่เป็นไร พวกนายอยากกินข้าวก็ไปกินกันก่อน
หรือว่าคิดมากเรื่องความรักอยู่ครับ อ้นลองถามเล่นๆ เพราะคุณอัญเป็นคนของฟาร์มอดิศรใช่มั้ย คุณวีเลยเครียด
เหมือนพล็อตในละครเลยเนอะ ก๋าเริ่มแซวตามประสา พระเอกนางเอกจากฟาร์มที่ไม่ถูกกัน ทะเลาะกันทั้งเรื่อง แต่สุดท้าย...
เฮ้ย วีหันมามองเอาเรื่อง ไม่มีอะไรจะทำกันใช่มั้ย ถึงมากวนกันน่ะ
อุ้ย ของขึ้นแล้ว หนุ่ยกับคนอื่นรีบถอยไปตั้งหลัก ก็เห็นคุณวีเครียดๆ เลยมาชวนคุย
มันจะเครียดกว่าเดิมก็เพราะพวกแกเนี่ยแหละ วีเริ่มคำราม ไปเลยนะ ถ้าฉันหมดความอดทนเมื่อไหร่ พวกแกโดนเตะเรียงตัวแน่
อุ้ย ไปแล้วครับๆ
อ้นออกตัววิ่งไปก่อนคนแรก ก๋ากับหนุ่ยยิ้มแห้งๆแล้วรีบตามอ้นไป วีถอนหายใจ แล้วหันกลับไปมองด้านนอกร้านอีกครั้ง
ยิ่งหงุดหงิดเข้าไปอีก เมื่อเจอลูกน้องมากวนประสาท และ...เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอีกครั้ง ยังจะมากวนไม่เลิก
อยากตายรึไง เขาพูดและหันไปมอง
ไม่ คนที่เดินเข้ามาตอบเสียงเรียบ
เฮ้ย พี่คุ้ง วีตกใจ โทษที นึกว่าพวกไอ้อ้น
พี่ยังไม่อยากตายนะ คุ้งเดินมายืนข้างๆวี แต่วีเหอะ มานั่งบนระเบียงรั้วแบบนี้ อันตรายนะ
วีไม่โดดลงไปหรอก
คิดเรื่องอัญอยู่หรอ
คำถามของคุ้ง เล่นเอาวีถอนหายใจทิ้งยาวเลย
ไม่คิดเลย ว่าจะหลอกกันแบบนี้ วีกำมือแน่น วีนะ อุตส่าห์เชื่อใจ แถมยังเป็นคนพาเธอมาที่ฟาร์มธัญวารินอีก แต่ดูที่เธอตอบแทนความเชื่อใจของวีสิ... คือการเอาทุกอย่างไปบอกพ่อเธอ เพื่อมาทำลายฟาร์มธัญวาริน ตอนที่พวกมันมาทำลายคอกแกะ เธอทำเป็นช่วยไล่ต้อนแกะ แต่จริงๆ คงจะแอบหัวเราะอยู่ในใจ
อย่าคิดมากน่า เรื่องมันผ่านไปแล้ว คิดมาก เราก็เจ็บใจเปล่าๆ
ไม่คิดไม่ได้หรอกพี่ เพราะรักมาก เลยเจ็บมาก วียอมรับออกมาตรงๆ พี่คุ้งรู้มั้ย วีรักอัญ
อืม คุ้งตอบรับสั้นๆ
อัญนั่นแหละเป็นคนที่ทำให้วีอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากจะทำอะไรดีๆให้เธอเห็น ไม่อยากให้เธอมองวีเหมือนที่คนอื่นเคยมอง...
แล้ววีคิดว่าอัญรักวีรึเปล่า
ไม่หรอก วีปฏิเสธออกมาทันที ทุกอย่างที่เธอทำมันก็แค่ละครตบตา ที่ทำให้วีหลงเชื่อ เพื่อให้วีพาเธอเข้ามาที่ฟาร์มวาริน ก็เท่านั้น
เขาไม่เชื่อในความรักของอัญ และยิ่งคิดแบบนี้ วียิ่งเสียใจ เสียใจที่ให้ความรักกับเธอไปมากมาย แต่สุดท้ายเขาก็ได้แค่การหลอกลวงกลับมา
หรอ คุ้งรับฟังสิ่งที่วีพูด แต่เขาก็ไม่ได้คิดแบบนั้นซะทีเดียว
ยิ่งพูดก็ยิ่งหงุดหงิด ตอนนี้เราสองคนก็คงเป็นคนอื่นไปแล้ว
ถ้าเด็กคนนั้นไม่ใช่คนของฟาร์มอดิศรก็คงดี คุ้งหันไปบอกกับน้อง
แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้ วีถอนหายใจ แล้วเปลี่ยนเรื่อง เออ แล้วพี่คุ้งจะเข้ากรุงเทพไม่ใช่หรอ
อืม รอเฟิร์นกลับมาจากโรงพยาบาลอยู่เนี่ย
วันนี้คุ้งตั้งใจจะเข้ากรุงเทพ ไปคุยกับบริษัท Big Dream บริษัทที่เขาเคยทำงานอยู่ ว่าจะให้บริษัทเก่าของเขาจัดงานเปิดตัวฟาร์มธัญวาริน และออกอีเว้นต์โปรโมตตามงานท่องเที่ยวต่างๆ
พี่ว่าจะวานเราเข้าเมือง เอาไวน์ไปส่งให้ที่บริษัทส่งสินค้าหน่อย พอดี แม่พี่เพิ่งโทรมาบอกน่ะ
ได้พี่ แล้วไปที่ไหนล่ะ วีถาม คุ้งส่งชื่อบริษัทขนส่งสินค้าระหว่างประเทศให้วี พร้อมแผนที่
ไปกับอ้นก็ได้มั้ง อ้นเคยไป พวกไวน์พี่ก็สั่งคนงานแพคไว้แล้ว
โอเคพี่
วีพยักหน้ารับ มีอะไรทำเสียหน่อย อาจจะดีกว่านั่งเฉยๆ เขาเองก็ไม่เคยเข้าไปในเมืองซะด้วย เผื่อจะเจออะไรเจริญหูเจริญตา ให้เขาไม่ต้องฟุ้งซ่านกับเรื่องของ...หัวใจ
......................................................
วีกับอ้นจอดรถกระบะที่หน้าบริษัทขนส่งระหว่างประเทศที่คุ้งไหว้วานให้เขาเอาไวน์มาส่ง พนักงานมาช่วยยกของลงไป
ทำเรื่องเพียงไม่นาน ก็เป็นอันเรียบร้อย วีกับอ้นก็เลยเดินเตร่อยู่แถวๆนั้นสักพัก วีเพิ่งเคยออกมาในตัวเมืองเป็นครั้งแรก เสียงจอแจบนท้องถนน กับรถที่วิ่งสวนกันไปมา ทำเอาวีอยากจะกลับไปที่ฟาร์มทันที
วีหัวเราะกับตัวเองเล็กน้อย นี่เขากลายเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย ทั้งๆที่แต่ก่อนเขาโหยหาความเจริญไม่ใช่หรอ จำได้ว่ามาที่ฟาร์มครั้งแรก เขารู้สึกว่าฟาร์มธัญวารินมันบ้านนอกหลังเขาเหลือเกิน เขาคิดถึงแสงสี คิดถึงท้องถนน คิดถึงมอเตอร์ไซด์ แต่นี่ ตอนนี้ พอเขามาเจอสภาพที่เขาคิดถึง เขาดันอยากกลับไปอยู่ที่เงียบๆอย่างฟาร์มธัญวาริน
เขาปรับตัวเข้ากับฟาร์มธัญวารินได้แล้วอย่างนั้นหรอ...
คุณวี อ้นสะกิดไหล่นายของตัวเอง
อะไร
อ้นชี้มือขึ้นไปทางธนาคารที่ทั้งเขาและอ้นยืนอยู่ด้านหน้า คนที่เดินลงมาจากธนาคาร คือคนที่วีไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก...
อัญ
วีมองหญิงสาวที่เดินลงมาพร้อมกับอร อัญเองก็มองมาทางวี และอ้น เธอไม่คิดว่าจะเจอเขาในเมือง ไม่คาดคิดมาก่อน แล้วควรจะทำยังไง เดินผ่านไปเฉยๆ เหมือนไม่สนใจ... ก็คงเป็นทางเดียวที่ทำได้
วีมองอัญ เธอทำเป็นเมินใส่เขา น่าเจ็บใจจริงๆ คนที่จะเป็นฝ่ายเมินใส่น่าจะเป็นเขามากกว่า
มาทำอะไรหรอ วีเดินเข้าไปหาอัญ อรมองวีด้วยแววตาไม่ไว้ใจ เอาเงินสกปรกที่ฟาร์มอดิศรไปโกงคนอื่น มาเข้าแบงค์งั้นหรอ
เงียบปากไปเลยนะ นายมาหาว่าเงินที่ฟาร์มอดิศรได้มา เป็นเงินที่โกงใครได้ยังไง
ก็เห็นชอบเล่นสกปรก... วีพูดลอยหน้าลอยตา เขาหมั่นไส้ที่หญิงสาวทำเป็นเมินใส่เขา
คนมีจิตใจสกปรกเท่านั้นแหละ ที่คิดแต่เรื่องสกปรก
อัญไม่ชอบใจที่วีมาว่าพาดพิงไปถึงฟาร์มของพ่อเธอ
งั้นก็เป็นเธอแน่นอนหละ เพราะเธอน่ะ มันทั้งขี้โกหก ทั้งหลอกลวง แบบนี้ จิตใจสกปรกขนาดที่เอาน้ำกรดไปราด ความสกปรกมันก็ยังฝังแน่นไม่ยอมหลุด
นี่นาย อัญเริ่มจะอารมณ์เสียกับคำพูดของคนเจ้าอารมณ์
ทำไม เถียงไม่ออกเลยล่ะสิ เพราะมันเป็นเรื่องจริงใช่มั้ย
ฉันอาจจะจิตใจสกปรก แต่ก็ไม่ปากสวะเหมือนคนบางคนหรอก ดีแต่เห่าหอนกัดคนไปทั่ว ไม่ได้มองตัวเอง ว่าเคยทำตัวแย่ขนาดไหน
อย่ามาทำเป็นรู้จักฉันดีนะ วีอารมณ์ขึ้น เมื่ออัญทำมาเป็นพูดรู้ดีเกี่ยวกับตัวเขา
ฉันรู้จักนายดีเลยแหละ อัญยิ้มเยาะ รู้จักนายดีเลย ว่านายน่ะ ทั้งเจ้าอารมณ์ แถมยังสมองกลวงอีกต่างหาก ถูกหลอกแล้วยังไม่รู้ตัวว่าถูกหลอก ไม่เรียกสมองกลวง แล้วจะเรียกว่าอะไรได้... เอ๊ะ หรืออาจจะเรียกได้อีกอย่าง เรียกว่าโง่ไง
อัญไม่คิดว่าตัวเองจะพูดออกไปแบบนั้น แต่ด้วยสถานการณ์และอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นทำให้เธอยั้งคำพูดทุกอย่างไม่ทันเสียแล้ว
เธอ... วีจับแขนของอัญขึ้นมา อัญสะบัดออก
อย่ามาถูกต้องตัวฉัน อัญพูดเสียงแข็ง เธอเจ็บเหมือนกัน ที่วีจับเมื่อครู่ รู้ดีว่าคนวีคงอารมณ์เสียมากทีเดียว
ทีแต่ก่อนยังทำมากกว่านี้ได้ ไม่เห็นโวยวายเลย วีโต้กลับ เธอก็ลงทุนใช่เล่นนี่ อยากจะหลอกฉันมาก ถึงกับต้องเอาตัวเข้าแลกเลยหรอ นี่ถ้าตอนนี้ฉันยังไม่รู้ความจริง ป่านนี้ เธอคง...
เงียบปากไปเลยนะ อัญแผดเสียง เธอไม่คิดเลย ว่าวีจะพูดเรื่องนั้นออกมา ดูถูกความรักของเธอมากเกินไปแล้ว
และวีเงียบจริงๆ เขารู้สึกว่าจะพูดแรงเกินไป แต่ที่อัญไม่อยากให้เขาพูดคงเพราะว่ามันน่าอาย ไม่ใช่เพราะเธอรักเขาจริงๆหรอก
กลับกันดีกว่าค่ะ น้องอัญ อรเห็นท่าไม่ดีมาสักพัก และพอมีโอกาสก็รีบชวนอัญกลับ
ก็ดีเหมือนกันค่ะ อัญเองก็ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว
อัญเดินไปพร้อมกับอร ไม่ได้อยากจะปะทะคารมกับเขาเลย เธอไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้ตอบโต้วีได้ เพราะด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง เธอไม่ชอบให้ใครมาดูถูกฟาร์มของพ่อเธอ ไม่ชอบที่วีใส่ร้ายกันมั่วๆ และไม่ชอบ...ที่วีไม่รู้เลยว่า ความรักของเธอ เป็นของจริง
วีมองตามไป ถึงแววตาเขาจะโกรธแค้น แต่ในหัวใจของเขาเจ็บปวด ไม่คิดว่าระหว่างเขากับเธอ จะกลายเป็นคนที่ไม่ถูกกันได้ถึงเพียงนี้ วีไม่นึกมาก่อนเลยว่า คำพูดแสนร้ายกาจของเขาที่เขาว่าร้ายหญิงสาว มันจะย้อนกลับมาทิ่มแทงหัวใจของเขาเองด้วย เพราะถึงยังไง วีก็ยังไม่สามารถลบอัญออกไปจากหัวใจได้แม้แต่น้อย
เอาไงต่อดีครับ คุณวี อ้นถามหน้าเครียด
กลับสิวะ จะอยู่ทำอะไรเล่า
วีตอบเสียงหงุดหงิด แล้วเดินกลับไปที่รถ เป็นไปได้ ขออย่าได้เจอกันอีกเลย ให้เวลาหัวใจของเขาได้ทำใจบ้าง ทำใจที่จะรู้ว่า คนที่เขาประทะฝีปากด้วยไม่เคยคิดอะไรกับเขาเลย... ไม่เคยแม้แต่จะรัก ทุกอย่างที่ผ่านมา มันคงเป็นแค่เรื่องหลอกลวง
......................................................
ผ่านมาหลายวัน เรื่องคดีที่คนร้ายเข้ามาเผาฟาร์มธัญวาริน ยังไม่มีอะไรคืบหน้าพอที่จะดำเนินคดีกับอดิศร และเรื่องราวกลับวุ่นวายเข้าไปอีก เมื่อผู้ต้องหาทั้งสามคน หลบหนีระหว่างเดินทางไปศาลประจำจังหวัดเพื่อพิจารณาคดี กลายเป็นว่าเรื่องวางเพลิงฟาร์มธัญวาริน คงจะค่อยๆเงียบหายไปกับสายลม โดยที่ไม่มีใครรับผิดชอบกับเรื่องนี้
ทางด้านฟาร์มอดิศร ตอนนี้ก็กำลังจะปรับปรุงพื้นที่ให้กลายเป็นรีสอร์ททางกลางวิวธรรมชาติ อัญไม่ค่อยจะเห็นด้วยที่พ่อจะทำฟาร์มแกะให้กลายเป็นรีสอร์ท แต่เธอก็ห้ามพ่อของเธอไม่ได้
ทุกอย่างต้องก้าวไปข้างหน้า แม้เธอจะชอบความเป็นฟาร์มแบบดั้งเดิมมากกว่า แต่ถ้ายังอยู่กับที่ ก็คงไม่มีทางก้าวทันฟาร์มอื่นๆ โดยเฉพาะฟาร์มธัญวาริน ที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว
อัญขี่ Honda 50 คันเก่งของเธอออกจากฟาร์มอดิศร เธอไม่ได้มีจุดหมายปลายทาง เพียงแค่อยากจะขี่รถออกไปเรื่อยๆ
พออยู่คนเดียวทีไร เธอจะต้องนึกไปถึงเรื่องราวระหว่างเธอกับ... คนอีกคนทุกครั้ง ซึ่งเธอไม่อยากนึกถึงเอาซะเลย ยิ่งหลังๆมานี้ การเจอกัน เป็นการปะทะคารมที่มาจากอารมณ์อันร้อนระอุ
วีคงเกลียดเธอไปแล้ว แต่เธอเนี่ยสิ ยังเกลียดเขาไม่ลงสักที ไม่ว่าเขาจะพูดจาแย่ๆกับเธอแค่ไหน แต่ทำไม กลับตัดใจจากเขาไม่ได้
ระหว่างทางที่อัญขี่รถไป มีกระบะคันหนึ่งขับเบียดมอเตอร์ไซด์ของเธอจนเธอหลุดออกข้างทาง ดีที่เธอกระโดดออกมาได้ก่อน ไม่งั้นเธอคงเจ็บกว่านี้
อัญหันมองไปทางรถกระบะคันนั้น ไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ที่โดนเบียดตกไหล่ทาง เธอเดินไปหารถกระบะคันนั้นเอาเรื่อง
คนที่ลงมาจากรถ เป็นผู้ชายร่างใหญ่ อัญรู้สึกคุ้นหน้ายังไงก็ไม่รู้ ชายคนนั้นยิ้มกว้างเมื่อเดินตรงมาทางอัญ
ขับรถมาเบียดกันแบบนี้ได้ยังไง อัญพูดเสียงไม่ค่อยพอใจ
ก็ได้อย่างนี้ไง
ชายคนนั้นตอบ และมีชายอีกสองคนเดินลงมาจากรถ อัญจำได้แล้ว คนพวกนี้ คือคนที่ไปเผาฟาร์มธัญวาริน
พวกแก อัญทำท่าจะวิ่งกลับไปที่มอเตอร์ไซด์ แต่ชายทั้งสามคนนั้นดักไว้
จะรีบไปไหนเล่า ยังไม่ได้เคลียร์กันเรื่องรถเลย ชายคนหนึ่งพูด และยังไม่ได้เคลียร์ เรื่องที่พ่อของเธอปล่อยให้ฉันกลายเป็นผู้ต้องหาลอบวางเพลิงฟาร์มธัญวาริน โดยที่มันไม่มาดูดำดูดีแม้แต่น้อย
อัญมองสามคนด้วยแววตาตกใจ ก่อนจะหันมองซ้ายขวา เผื่อมีใครผ่านมาบ้าง แต่ไม่มีเลย
ไม่ต้องหาคนช่วยหรอก เดี๋ยวเธอก็มีคนมาช่วยเอง ชายอีกคนยิ้ม***ม แต่หลังจากที่ฉันจับตัวเธอไปก่อนน่ะนะ
อย่าทำอะไรนะ
อัญทำท่าจะต่อสู้ เมื่อเห็นชายทั้งสามคนตรงมาทางเธอ คนหนึ่งเข้ามาจับที่แขน อัญสะบัดออก และถีบเขาเข้าเต็มๆ
ฤทธิ์เยอะจริงๆ คนๆนั้นพูดเสียงโกรธๆ ยอมให้จับดีๆไม่ชอบใช่มั้ย
อัญไม่ยอมแพ้ เธอไม่ยอมให้พวกมันทำอะไรเธอได้ แต่...มีหรือที่หญิงสาวคนเดียวจะสู้แรงคนทั้งสามคนได้ อัญถูกต่อยเข้าที่ท้อง แค่นั้นเธอก็จุกจนทำอะไรไม่ไหว
อยากเจ็บตัวก็ไม่บอก
ชายคนที่โดนถีบตบหน้าอัญเต็มแรง หญิงสาวน้ำตาไหลออกมาทันที จะร้องขอความช่วยเหลือยังร้องไม่ออก ชายทั้งสามคนจับตัวอัญไปที่รถกระบะ ก่อนจะขับพาเธอไป ทิ้งไว้เพียงมอเตอร์ไซด์ ที่ล้มนอนอยู่ตรงไหล่ทาง
......................................................
วียืนมองความเรียบร้อยของร้านที่กำลังจะเปิด สิ่งสุดท้ายที่ถูกติดลงไป คือป้ายชื่อร้าน Cielo Bello ทุกอย่างกำลังจะเสร็จสมบูรณ์
ร้านอาหารริมผา มองเห็นวิวทิวทัศน์ที่ทอดไกลสุดสายตา มีทั้งขุนเขา และผืนฟ้าอันกว้างใหญ่ โอบรอบร้านเอาไว้
เสร็จจนได้ คุ้งเดินขึ้นมาดูงานครั้งสุดท้าย อีกไม่กี่วัน ฟาร์มธัญวารินก็จะเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเต็มตัว
คนจะชอบบรรยากาศของร้านมั้ยนะ เฟิร์นหันมองไปรอบๆ
ไม่ชอบก็แปลกแล้ว วีบอกกับเฟิร์น วียังชอบเลย
ถ้าขนาดวียังชอบ คงไม่มีปัญหาอะไรแล้วหละ พี่คุ้ง เฟิร์นหันไปบอกคนหน้านิ่ง
ขนาดนั้นเลยหรอ วีถามเสียงชวนหัว
คุ้มค่ากับการรอคอยมั้ย คุ้งหันไปถามวี
วีพยักหน้ารับ มันคุ้มค่ามากกว่าการรอคอยด้วยซ้ำ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า คือสิ่งหนึ่งที่ผ่านความตั้งใจของเขา แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม
แล้ววันเปิดตัว จะมีแขกไม่ได้รับเชิญมารึเปล่า เฟิร์นพูดขึ้น
ใครหรอ พี่เฟิร์น
จะใครซะอีกล่ะ ก็ฟาร์มอดิศรไง คงจะมาดู และมาแช่งอะไรฟาร์มของเราแน่ๆ
วีเงียบไป ถ้าคนของฟาร์มอดิศรมา เขาก็ต้องเจออัญด้วย พอนึกถึงอัญ... ใจเขากลับมาสั่นไหวอีกแล้ว ตอนแรกเขาคิดว่าเขาทำใจได้ แต่ที่ไหนได้ แค่นึกถึงชื่อเธอ เขาก็ปั่นป่วนหัวใจไปหมด
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาไม่เจอกับอัญ วันๆเอาแต่ทำงานในฟาร์ม หัวใจเขาก็เป็นปกติดี จนเขาเกือบจะเชื่อแล้วว่าตัวเองตัดใจได้ แต่ไหง...กลับไม่เป็นอย่างนั้น
วีถอนหายใจแล้วเดินไปทางอื่น คุ้งหันมองหน้าเฟิร์น เฟิร์นพยักเพยิกให้คุ้งตามไป
คิดมากหรอ เรื่องคนของฟาร์มอดิศร คุ้งเดินมาถาม
วียังตัดใจไม่ได้เลย... ทำไมนะ วีอยากจะลืม ลืมๆๆๆ ลืมเธอไปให้ได้
ที่ลืมไม่ได้ เพราะใจเรามีแค่เขารึเปล่า
คุ้งถามคำถามกับวี มันเคยเป็นคำถามที่เขาเองก็เคยถามกับตัวเอง เรื่องของเฟิร์น ในตอนนั้น แม้เขาจะอยู่ห่างกับเฟิร์นมากแค่ไหน อยู่ไกลกันคนละซีกโลก อยู่ห่างกันหลายปี แต่...คุ้งเองก็ไม่เคยลืมเรื่องราวของเฟิร์น
จนเขาได้คำตอบที่ชัดเจน ที่เขาไม่เคยลืม ไม่ใช่เพราะเธอเป็นแค่เพื่อนเล่นวัยเด็ก แต่เฟิร์นคือคนที่อยู่ในใจเขา เฟิร์นคือคนๆเดียวที่คุ้งมี และรักเธอทั้งหัวใจ
ทำไมนะ ทั้งๆที่วีก็รู้ ว่าอัญหลอกวีมาตลอด วีระบายมันออกมา ระบายทุกอย่างที่อยู่ในใจ แต่วีตัดใจไม่ได้สักที
เพราะเรารักเขายังไงล่ะ ไม่มีเหตุผลมากไปกว่านี้แล้วคุ้งว่า
แต่...อัญทำให้วีต้องเจ็บนะพี่คุ้ง มันน่าโกรธนะที่อัญหลอกวีมาตลอด
ความรักกับความเกลียดมันอยู่คนละส่วนกันมั้ง ถึงจะโกรธยังไง แต่สุดท้ายก็ตัดใจไม่ได้ คุ้งคิดว่าอย่างนั้น
แต่...ที่อัญทำกับวี มัน...แย่มากเลยนะพี่... วีคิดว่าเรื่องแย่ๆพวกนั้นจะทำให้เขาลืมอัญไปได้แต่ไม่เลย วีน่าจะเกลียดเธอไปเลย คนโกหกที่ทำให้วีเหมือนเป็นคนโง่
แต่อย่างน้อย อัญก็ทำให้วีรู้สึกอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ใช่หรอ
วีมองหน้าคุ้ง มันก็อาจจะจริงอย่างที่คุ้งพูด แต่...ที่เขาอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ก็เพื่อให้อัญได้เห็น อัญ...คนที่เขาเชื่อว่าเธอดีกับเขา ไม่ใช่คนโกหกคนนั้น
เขาก็มีด้านดีของเขา ที่ทำให้เราโกรธเขาไม่ลงยังไงล่ะ
แต่ก็เพราะเธอโกหก... วียังเถียง
บางที ตัวตนของเด็กคนนั้น ที่อยู่ต่อหน้าวี เธออาจจะไม่ได้โกหกก็ได้ คุ้งพูดในสิ่งที่เขารู้สึก อาจจะจริงที่เขาเคยหลอกวี เพื่อจะได้เข้ามาดูฟาร์มธัญวาริน แต่พี่ว่าความรู้สึกดีๆที่เขามีต่อวี มันคงไม่ใช่เรื่องโกหกหรอก
ทำไมพี่คุ้งคิดแบบนั้นล่ะ
ก็พี่รู้สึก หรือว่าเราไม่รู้สึก... คุ้งถามคนตรงหน้า
วีเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้สึก แต่เขายึดติดไปแล้ว ว่าอัญโกหกหลอกลวงเขามาตลอด ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของความรัก
พี่ก็รู้สึกนะ เฟิร์นเดินเข้ามาบอก เธอเองก็ฟังคนทั้งสองคนคุยกันมาสักพัก ถึงจะไม่ค่อยไว้ใจเด็กคนนั้นก็เถอะ แต่...สำหรับความรู้สึกที่เขามีต่อวี พี่ว่าไม่ใช่เรื่องโกหก
วีเคยจูบกับเขามั้ย อยู่ดีๆคุ้งก็ถาม ไม่รู้เหมือนกันว่าน้องของเขากับอัญ ความสำพันธ์ดำเนินไปถึงขั้นไหน
ก็... วีออกจะเขินที่ต้องบอกอะไรให้คนอายุมากกว่าทั้งสองคนรู้ เขาเลยพยักหน้ารับน้อยๆ
คนเราน่ะ จูบกับคนที่เราไม่รักไม่ได้หรอก เฟิร์นพูดเสร็จก็หันไปมองคุ้ง
วีถอนหายใจ ก่อนจะหลับตาลง นึกถึงเรื่องราวที่เป็นความหลังระหว่างเขาและอัญ ความรัก...ของเธอ เป็นของจริงใช่มั้ย ยิ่งนึกถึง...เขายิ่งได้คำตอบชัดเจน
แต่มันจะทำอะไรได้ วีลืมตาขึ้น แล้วถอนหายใจ ตอนนี้วีกับเขา มันจบไปแล้ว
คุ้งตบไหล่วีเบาๆ คุ้งเองก็ไม่มีคำตอบเหมือนกันว่าจะทำอะไรได้ เขาแค่ไม่อยากเห็นน้องต้องจมอยู่กับความเศร้าและความโกรธแค้น
อ้นวิ่งขึ้นมาที่ร้าน ท่าทางร้อนใจ และรีบวิ่งตรงไปหา คุ้ง เฟิร์น และวี
คุณคุ้งครับ คุ้งหันมอง
มีอะไร เป็นเฟิร์นที่ถามออกมา เห็นท่าทางแบบนี้ของอ้นทีไร มันต้องมีเรื่องเกิดขึ้นทุกทีสิน่า
คนของฟาร์มอดิศรมาครับ ตอนนี้รออยู่ที่เรือนใหญ่ อ้นรีบพูด จนลิ้นพันกันไปหมด
มาทำไม วีไม่พอใจนำใครไปก่อนเลย
บอกรึเปล่า ว่ามาทำไม เฟิร์นถามอ้นอีก
ไม่ได้บอกครับ บอกแค่ว่าต้องการพบคุณวี
ฉันหรอ วีถามเสียงสงสัย
คนของฟาร์มอดิศร จะอยากมาพบวีทำไม มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น และ...หนึ่งในนั้น จะมีหญิงสาวคนที่เขารัก มาด้วยรึเปล่า
คุ้ง เฟิร์น วี และอ้นเดินขึ้นมาที่เรือนหลังใหญ่ อดิศรนั่งรออยู่ในห้องรับแขกกับลูกน้องอีกสองคน พอเห็นวีเดินเข้ามา เขาก็ลุกเดินไปหาด้วยอาการฉุนเฉียว
แกเอาตัวลูกสาวฉันไปไหน อดิศรถามเสียงดัง
เฮ้ย พูดอะไรวะ วีไม่พอใจที่โดนตะคอกถาม แล้วฉันจะเอาตัวลูกสาวแกไปทำไม
ไม่ใช่แกแล้วใคร ลูกสาวฉันหายไปจากบ้าน ติดต่อก็ไม่ได้ แถมยังพบมอเตอร์ไซด์ล้มอยู่ข้างทางอีก ไม่ใช่ฝีมือของแกแล้วจะเป็นฝีมือของใคร
วีอึ้งไปกับคำพูดอดิศร นี่...อัญหายตัวไปอย่างนั้นหรอ แล้ว...มันเกิดอะไรขึ้น
ใจเย็นก่อน คุณอดิศร เฟิร์นแทรกขึ้น เราไม่ทำเรื่องร้ายกาจแบบนั้นหรอก
ไม่ทำหรอ ไม่ทำแล้วลูกสาวฉันหายไปไหน
คุณถามตัวเองดีกว่า ว่าไปสร้างเรื่องกับใครไว้บ้าง เขาถึงได้มาเล่นงานลูกสาวคุณน่ะ เฟิร์นโต้กลับทันควัน
ฉันจะไปแจ้งความ ว่าพวกแกจับลูกสาวฉันและเอาตัวมากักขังไว้ในฟาร์มของแก อดิศรท้าทาย
ก็เอาสิคะ เฟิร์นไม่หวั่นอยู่แล้ว แต่ระวังจะโดนข้อหาแจ้งความเท็จก็แล้วกัน
ท้าทายฉันหรอ พวกแกไม่รอดแน่ๆ อดิศรทำท่าจะเดินออกไป
แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือของอดิศรก็ดังขึ้น เขารีบรับ
ฮัลโหล นั่นใคร อดิศรมองเบอร์ที่ไม่คุ้น
((จำฉันไม่ได้หรอ)) ปลายสายถามเสียงยียวน
ใครวะ อดิศรถามเสียงหงุดหงิด
((ก็คนที่แกสั่งให้ไปเผาฟาร์มธัญวาริน แล้วก็ไม่ปล่อยให้พวกฉันโดนตำรวจจับ ไม่ยอมช่วยเหลือฉันเลย))
แกโทรมามีอะไร
((แกยังอยากเจอลูกสาวแกอยู่มั้ย))
อัญอยู่กับพวกแกงั้นหรอ
อดิศรพูดเสียงดัง วีรีบหันมองไปทางอดิศร สนใจกับการคุยโทรศัพท์ของเขา
((ใช่ ลูกสาวแกอยู่กับฉัน))
แกอย่าทำอะไรลูกสาวฉันเด็ดขาด ไม่อย่างนั้น พวกแกไม่รอดแน่
((ถ้าพวกฉันไม่รอด ฉันก็จะเอาลูกสาวแกตายตามไปด้วย))
แกต้องการอะไร
((ได้เข้าเรื่องกันซักทีนะ)) เสียงปลายสายหัวเราะสะใจ ((ตอนนี้พวกฉันเป็นผู้ต้องหาหนีคดี แต่แกน่ะ ยังนั่งสบายใจอยู่ที่ฟาร์ม ฉันก็คงต้องขอความสะดวกสบายให้กับตัวเองบ้าง))
อะไร อดิศรไม่อยากฟังคำพูดที่เยิ่นเย้อ เขาต้องการตัวลูกสาวคืน
((สิบล้าน ห้ามต่อรอง ไม่งั้นก็รับศพของลูกสาวแกไปได้เลย))
แกจะบ้าหรอ
((จุ๊ๆๆ ฉันบอกแล้วนะ ห้ามต่อรอง สิบล้าน วันพรุ่งนี้ เวลา และสถานที่ เดี๋ยวฉันจะติดต่อไปอีกที และถ้าเรื่องนี้ถึงหูตำรวจล่ะก็ ลูกสาวแกได้โดนเวียนเทียนจนหนำใจแน่))
แก...
คนร้ายตัดสายไปแล้ว อดิศรร้อนใจขึ้นมาทันที เขาทั้งโกรธทั้งเป็นห่วงอัญ
เกิดอะไรขึ้น วีเป็นคนแรกที่ถามออกมา
แกไม่ต้องมายุ่ง อดิศรพูดเสียงดัง
อัญอยู่ไหน วีห่วงอัญขึ้นมาทันที เมื่อกี๊คุยกับใคร
ไม่เกี่ยวกับแก
บอกมาว่าอัญอยู่ไหน วีตรงเข้ากระชากคอเสื้ออดิศร ตอนนี้เขาหูอื้อตาลายไปหมด รู้สึกว่าอัญต้องตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ
วี
คุ้งมาดึงตัวน้องออกจากอดิศร อดิศรขยับเสื้อเข้าที่เข้าทางแล้วกำลังจะกลับ
คุณอดิศร อัญอยู่ไหน คุ้งถามน้ำเสียงราบเรียบ
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฟาร์มธัญวาริน
อดิศรพูดเสร็จก็เดินออกไปพร้อมลูกน้อง วีหายใจหนักด้วยอารมณ์ เขาต้องการคำตอบ ว่าอัญอยู่ที่ไหน
ต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ เฟิร์นคาดเดาจากการรับสายของอดิศรเมื่อครู่
แล้วมันเรื่องอะไรกัน ทำไมมันต้องไม่บอกวะ
วีร้อนใจอย่างมาก เขาไม่รู้ว่าอัญเป็นอะไร แต่...ใจเขาเต้นรัว เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอัญ
......................................................
คนร้ายจับตัวอัญมาที่โรงนาร้างแห่งหนึ่ง หญิงสาวถูกมัดกับเก้าอี้ และคนร้ายนั่งเฝ้าเธอเอาไว้ทั้งสามคน หลังจากที่คนร้ายคนหนึ่งโทรหาอดิศรแล้ว เขาก็มองหญิงสาวด้วยแววตาหื่นกระหาย
ฉันล่ะอยากให้พ่อแกแจ้งความจริงๆ พวกฉันจะได้เวียนเทียนแกให้สนุกเลย คนร้ายคนนั้นพูดกับอัญ คนร้ายคนอื่นหัวเราะสะใจ
หรือว่าจัดการตอนนี้เลย ไม่ต้องรอแล้ว คนร้ายอีกคนออกความเห็น
อย่านะ อัญร้องเสียงตกใจ และหวาดกลัว พวกแก... พวกแกทำแบบนี้ทำไม
ถามว่าทำแบบนี้ทำไมหรอ... คนร้ายที่ดูเป็นหัวโจกหัวเราะร่วน ก็เพราะว่าพ่อแกหักหลังฉันน่ะสิ สั่งให้ฉันไปเผาฟาร์มธัญวาริน แต่พอโดนจับได้ก็ทิ้งกันเฉย ไม่ช่วย แถมยังเชิดเงินค่าจ้างอีก ปล่อยให้ฉันทรมานอยู่ในคุก ตอนนี้ถึงเวลาที่ฉันจะเอาคืนแล้ว
พ่อฉันไม่ได้ทำแบบนั้น ไม่มีทาง อัญไม่เชื่อว่าพ่อจะเป็นคนว่าจ้างพวกนี้ให้ไปเผาฟาร์มอดิศร
เธอน่ะ รู้จักพ่อของเธอน้องไปหน่อยแล้ว จะบอกอะไรให้นะ พวกฉันน่ะ เรียกว่าชั่วแล้ว แต่พ่อแกน่ะ โคตรอภิมหาชั่วเลย
ไม่จริง อัญไม่ยอมรับ
แหม เป็นลูกสาวที่รักพ่อจังนะ มาๆๆ เดี๋ยวฉันจะสาธยายเรื่องชั่วๆของพ่อแกให้ฟัง เผื่อแกจะตาสว่าง แล้วร่วมมือกับฉันจัดการกับพ่อสุดชั่วของแก
คนร้ายจับแก้มของอัญ อัญสะบัดหนี คนร้ายหัวเราะกันใหญ่
พ่อแกน่ะ ไม่เรียกว่าเจ้าของฟาร์มหรอก คนแบบนั้น ที่นี่เขาเรียกกันว่า มาเฟีย คนร้ายหัวเราะสนุก ยิ่งเห็นอัญไม่อยากฟัง เขายิ่งอยากเล่า ทั้งใช้อำนาจเงินกว้านซื้อที่ดินของคนจนมาขยายฟาร์มของตัวเอง บางทีก็ยึดเอามาเฉยๆ ฉากหน้าทำเป็นพ่อพระให้ชาวไร่ชาวสวนยืมเงิน แต่จริงๆแล้วคิดดอกเบี้ยมหาโหด แล้วพอเขาไม่มีจ่าย ก็ยึดที่ทำกินของเขา
ไม่ พ่อฉันไม่ใช่คนแบบนั้น
ไม่ใช่น้อยล่ะสิ แกจะรู้อะไร เรียนอยู่ในกรุงเทพไม่ใช่หรอ คงไม่เคยเห็นพ่อแกทำชั่วๆ คนร้ายยิ้ม***ม ฉันเนี่ยแหละ ที่พ่อแกให้ไปยึดที่ดินของคนที่เป็นหนี้ ถ้าใครไม่ยอม ก็ใช้กำลังบังคับเอามาซะเลย เนี่ยหรอคุณพ่อคนดีของแก แล้วเรื่องฟาร์มธัญวารินนี่สนุกกว่าเรื่องไหนๆเลย จริงมั้ย
คนร้ายหันไปมองเพื่อนอีกสองคน เขาทั้งสองพยักหน้ารับ
ครั้งแรกรู้สึกว่าพวกฉันจะเข้าไปทำลายคอกแกะของมันนะ... คนร้ายมองจ้องหญิงสาว ก็ได้ข้อมูลมากจากแกนั่นแหละ แกคงไม่รู้สินะ ว่าเรื่องของฟาร์มธัญวารินที่แกเอามาบอกพ่อแกน่ะ พ่อแกจะเอามาทำเรื่องชั่วๆพวกนี้ ทางหนีทีไล่ในฟาร์มธัญวาริน พ่อแกรู้ดียิ่งกว่าคนในฟาร์มเสียอีก ตอนแรกฉันก็สงสัยว่าทำไม แต่มารู้ตอนที่เห็นแกอยู่ในฟาร์มธัญวารินนั่นแหละ
คนร้ายหัวเราะสนุก อัญตัวชาวาบไปทั้งตัว ความจริงที่เธอรับรู้ มันโหดร้ายกับเธอเกินไป พ่อของเธอร้ายกาจแบบที่วีพูดอย่างนั้นหรอ พ่อของเธอเป็นคนทำเรื่องร้ายๆทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับฟาร์มธัญวารินอย่างนั้นหรอ...
ไม่ต้องเป็นห่วงนะ... พรุ่งนี้เดี๋ยวแกก็จะได้พบพ่อของแกแล้ว แล้วหลังจากนั้น... ฉันจะสงเคราะห์ให้พวกแกสองคนได้อยู่ด้วยกันตลอดไป...ในนรก
คนร้ายหัวเราะสะใจ อัญหวาดกลัวทั้งเสียงหัวเราะนั้น และหวาดกลัวกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น ในสถานการณ์แบบนี้เธอจะทำยังไง หรือสุดท้ายแล้วเธอจะต้องตาย...
ความจริงที่เธอได้รู้... ทำร้ายจิตใจเธอเหลือเกิน เธอนึกถึง...นึกไปถึงวี เขาพูดถูกมาตลอด เรื่องพ่อของเธอ... เธออยากจะขอโทษเขา อยากจะขอโทษแม้เขาจะไม่ยอมรับคำขอโทษของเธอก็ตาม และอยากจะเจอกับเขาอีกสักครั้ง ก่อนที่เธอจะเป็นอะไรไป แม้เธอจะรู้ว่านั่นจะเป็นไปไม่ได้ก็ตามที
......................................................
จบตอน 11
ใกล้โค้งสุดท้ายเต็มที่แล้วครับ
ทั้งเนื้อเรื่องหลัก และความรักของตัวเอก (หรออออ)
เอาเป็นว่าตอนหน้า...ไปช่วยอัญกันครับ
แล้วเจอกันครับผม
By : TepiN   Date : 26 Jul 2012 11:52
|