ตอนที่ 12...... TriCk of LoVe เล่ห์ร้าย อุบายรัก (^ ^)
ขณะที่สองกำลังร้อนใจ เพราะถูกรุมด้วยกลุ่มใครก็ไม่รู้ ที่ท่าทางร้ายป่าเถื่อน เธอรู้แต่ว่า ไอ้คนที่กำลังพูดจาหยาบๆ กับเธอคนนี้ มันต้องรู้จักกับหนึ่งแน่ๆ
หยาบคาย...อึ๋ย...เดี๋ยวจะแสดงให้ดู...ว่าหยาบคายของจริงเป็นยังไง...
ป่องย่ามสามขุมเข้าหาร่างบาง เพื่อนๆของมันไม่มีใครห้ามมันสักคน นอกจากหัวเราะกันเสียงดัง เจ้าหน้าที่ในร้านพึ่งจะตั้งสติได้ รีบกดโทรศัพท์ภายในเรียกหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้าง
ป่องคว้าข้อมือบางของสองดึงร่างเธอเข้าหาตัว สายตาวาวๆ มองริมฝีปากบางอิ่มสวยอย่างย่ามใจ
วันนี้...กูขอจูบปากทอมดูสักครั้งเถอะวะ เคยหมั่นไส้มันมานานละ... ไอ้ป่องคิด
อย่านะ สองเอียงหน้าหลบ หลับตาปี๋
เฮ้ย...อย่านะโว๊ย เสียงห้าวดังของใครคนหนึ่งดังขึ้น
สองลืมตามอง ร่างสูงของแซม ก้าวเดินแทรกมากลางกลุ่มของไอ้ป่อง อย่างกล้าหาญไม่กลัวเกรง มือข้อแข็งราวกับนักกีฬา คว้าจับข้อมือป่องที่กำลังกุมมือสองอยู่
ปล่อยเค้าซะ
สาวหล่อสั่งเสียงเฉียบ ดวงตาสีเหล็กมีประกายแกร่งกร้าวจริงจัง ดุเอาเรื่อง ร่างสูงยืดตัว ยิ่งทำให้สูงกว่านายป่องหลายนิ้ว
แม้สีหน้าของคนสั่งจะดูนิ่ง แต่นิ้วมือที่บีบลงมาแรงราวกับคีมคีบเหล็ก ทำเอาไอ้ป่องหน้าเหยเก นึกในใจว่า อีกไม่นานคงทนไม่ได้
...ไอ้บ้านี่...ทำไมมือมันแข็งจังวะ?...อ้อ
ลืมไป ไอ้นี่มันทำงานช่างซ่อมนี่หว่า...อึ้ดทึ่ดอย่างนั้น มือถึงแข็งเหมือนเหล็ก แต่...มันไม่ถูกกับไอ้หนึ่งนี่นา แล้วทำไมต้องมาช่วยกันด้วยวะ?....หรือว่า...พอเห็นไอ้หนึ่งสวย มันเลยคิดจะจีบ?
นิ้วของแซมกดแรงลงอีก จนไอ้ป่องต้องปล่อยมือสอง พอดีกับจังหวะที่มีเสียงเป่านกหวีดดังมาจากหน้าร้าน
เฮ้ย...รปภ.มา เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มป่องตะโกนขึ้น
ทันใดนั้น ร่างจิ๊กโก๋วายร้ายทั้งห้า ก็กรูวิ่งออกจากร้าน ชนแรงเข้ากับร่างของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคน จน รปภ.ทั้งสองคนล้มกระแทกพื้น พอเจ้าหน้าที่ลุกขึ้นได้ ก็รีบกวดไล่ตามวัยรุ่นชายทั้งห้าไป
สองยืนถูที่ข้อมือของตน ก้มหน้ามองพื้นนิ่ง
เป็นยังไงบ้าง? แซมถามขึ้น มองใบหน้าเรียวที่เงยขึ้นมา ดวงตาสวยคลอเอ่อด้วยน้ำใส เธอกำลังจะร้องไห้ ทำเอาสาวหล่อถอนใจอ่อน ถามต่อด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
เจ็บมือเหรอ?
สองกระพริบตาปริบๆ ไล่น้ำตาให้ย้อนคืน นึกไม่ถึงว่า ในที่สุด คนที่มาช่วยตน กลับเป็นคู่อริของฝาแฝด คนที่...เมื่อไม่นานนี้ ยืนหัวเราะเยาะ...ว่าเธอแต่งตัวทุเรศ
ไม่เป็นไร คนสวยเชิดคางเรียวขึ้น หันหน้าเมินมองไปทางอื่น ปากกล่าวต่อโดยที่ไม่มองหน้าคนร่างสูง
แต่...ก็ขอบคุณนะ ที่อุตส่าห์มาช่วย
แซมรู้สึกขำท่าทางเชิ่ดๆนั้น อดที่จะปากพร่อยต่อกรกับเธอไม่ได้
ไม่เป็นไร แค่อยากสร้างบุญคุณกับเธอเท่านั้น
แซมรู้ตัวเหมือนกัน ว่าตนเองเผลอเปลี่ยนสรรพนามเรียก จากคำว่า...นาย มาเป็นเธอ ได้อย่างสนิทปาก
ตาสวยสีน้ำตาลวาววับขึ้นมา มองใบหน้าที่ชักยิ้มกวนๆของอีกฝ่ายอย่างหมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิดๆ
แต่...ฉันไม่มีอะไรตอบแทน นอกจาก...นอกจากเงิน สองโพล่งพูดไป แต่ในใจก็รู้สึกผิด ที่มาพูดถึงเรื่องเงิน
เงิน...เดี๋ยวเถอะแม่คุณ เห็นเราเป็นคนยังไง? สาวหล่อคิด เริ่มเคืองกับคำนี้ ปัดนิ้วชี้ที่ปลายจมูกอย่างฉุนๆ
ทำไมจะไม่มีล่ะ? คราวนี้ร่างสูงต่อคำยียวน สายตาแกล้งไล่มองร่างบางอย่างกับเครื่องสแกน
เมื่อถูกสายตาคมคู่นั้นไล่มอง สองก็อดที่จะรู้สึกร้อนผ่าวที่แก้มไม่ได้ ความรู้สึกที่มีต่อสายตาสีเหล็กคู่นี้ มันแตกต่างจากความรู้สึกที่มีต่อสายตาของไอ้ป่อง
ว่าแต่...จะให้เราเรียกชื่อเธอว่าอะไรล่ะ? เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไป แซมก็ถามขึ้น
เอ๊า...ก็เรียกว่าหนึ่งไง คราวนั้นก็เรียกว่าหนึ่งนี่
ใบหน้าเรียวย้อนกลับ เสแสร้งทำตาแป๋ว หน้ากวนกลับ
สาวหล่อต้องอึ้ง เมื่อเจอย้อนเข้าแบบนี้ รู้สึกว่าคนตรงหน้าก็มีพิษสงไม่เบา นึกว่าจะเหงียมหงิมซะอีก
แสบอย่างนี้ เมื่อตะกี้ มันน่าปล่อยให้ถูกรังแกนักเชียว แต่น่ะ...ถือว่า...ถ้าโดนไอ้ป่องรังแกอย่างนั้น...ก็น่าเสียดายอยู่หรอก...
คนร่างสูงคิด มองริมฝีปากอ่อนบางของคนตัวเล็กกว่า...
ดูเสร็จแล้วเหรอคะ ?
เสียงแจ๋วๆทักมาจากข้างหลัง ทำให้ทั้งคู่หันไปมอง
พอสองเห็นว่าผู้มาเป็นใคร เธอก็ดุแว๊ดด้วยความโมโหที่ถูกทิ้งอีกครั้ง
ส้มโอ...หายไปไหนอีกแล้วยะ?
ก็...ก็เดินไปร้านข้างๆนี่เอง หนูไปดูเสื้อน่ะจ้ะ ส้มโอบิดมือตัวเองไปมา หน้าจ๋อยสนิท
แซมอมยิ้มที่มุมปาก หันกลับมามองสบตากับสอง
ง้าน...คงต้องขอตัวก่อนนะคร้าบ ไว้มีโอกาส จะขอทวงบุญคุณเมื่อกี้ หวังว่าคงไม่ปฏิเสธนะคุณหนึ่ง
กล่าวจบ ร่างสูงก็เดินผ่านคนตัวเล็กไปแบบเฉียดไหล่บาง
อ้าว...ทำไมคนนั้นเค้าเรียกคุณสอง ว่าคุณหนะ...อุ๊บ..
พูดไปไม่ทันจบ ส้มโอก็ถูกมือบางตะปบอุดปากจมูก จนส้มโอตาเหลือก เกือบหายใจไม่ทัน ดีที่สองปล่อยมือ แล้วยกนิ้วแตะปาก เพื่อห้ามส้มโอพูด
แซมเดินอมยิ้มในหน้าออกมานอกร้าน โดยที่ไม่เหลียวกลับไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังอีก
คำว่า...คุณสอง...สะท้อนไปมา เป็นความสงสัยในใจของสาวหล่อ
คืนนั้น สองนอนอ่านหนังสือเล่นอยู่บนเตียงนอนของหนึ่ง แต่ทำยังไงๆ เธอก็ไม่มีสมาธิที่จะอ่านได้เลย เสียงเพลงเศร้าดังมาจากเครื่องเสียงตัวใหญ่ ทำเอาหญิงสาวถอนหายใจหดหู่ นึกถึงพี่ต้นขึ้นมาแว่บหนึ่ง สองนึกสงสารตัวเอง ที่ชีวิตของวัยอันสดใส ต้องมารู้จักกับผู้ชายนิสัยชุ่ยๆอย่างนายต้น
สองลุกจากเตียงนอน เดินไปมาในห้องของหนึ่ง บนโต๊ะเขียนหนังสือ มีรูปโตใส่กรอบของหนึ่งตั้งอยู่ สองหยิบขึ้นมาดู อดที่จะขำหน้าที่ยิ้มทะเล้นของคู่แฝดไม่ได้
หญิงสาวเห็นหนังสือรุ่นเล่มโตวางตั้งเรียงกับหนังสืออื่นๆ จึงถือวิสาสะหยิบมาเปิดดู
เป็นหนังสือรุ่น ตั้งแต่สมัยที่สองเรียนอยู่มัธยม แรกๆ ก็จะมีรูปถ่ายหน้าตรงของแต่ละคน
สองเปิดผ่านไปเรื่อยๆ ผ่านรูปหนึ่ง และหน้าต่อๆไป จนมาถึงกลุ่มห้องอีกห้องหนึ่ง ไล่ไปจนเกือบหน้าท้ายๆ ของกลุ่มห้องนี้ นิ้วเรียวขาวนวลก็ชะงัก พลิกกลับมาเปิดหน้าเมื่อกี้อีกครั้ง
แซม... สองพึมพำ ใบหน้านั้นดูเด็กกว่าปัจจุบันเล็กน้อย ทำเอาหญิงสาวหัวเราะคิก...ต๊าย...หน้าเอ๋อเชียว
ดวงตาแป๋วแหววมองตรง ทรงผมซอยหวีเรียบร้อย ไม่ได้ไถปัตตาเลี่ยน ข้างหู และข้างบนสั้นเต่อ จนตั้งเหมือนปัจจุบันนี้
หญิงสาวอมยิ้ม มือเปิดดูหน้าต่อไป แต่ก็ไม่วายเอานิ้วคั่นหน้าเมื่อกี้เอาไว้ หน้าต่อๆไป เป็นภาพของกิจกรรมของโรงเรียน มีภาพโตๆ สีสวยหลายภาพ
มุมนิทรรศการ...
สองตั้งใจมองอีกครั้ง เมื่อมีแซมอยู่ในนั้นด้วย ในภาพดูเหมือนร่างสูงกำลังสาธิตเครื่องจักรประดิษฐ์บางอย่าง สองไล่สายตาอ่านตัวหนังสือใต้ภาพ
อัจฉริยะประจำโรงเรียน แซมสาวหล่อหวานใจน้องๆหลายคน กำลังแสดงภูมิปัญญาในสิ่งประดิษฐ์ที่ตนเอง และกลุ่มเพื่อนนักประดิษฐ์เรียกว่า...หุ่นน้อยช่วยทุบเนื้อ...ใช้สำหรับช่วยในการทำอาหาร....
หญิงสาวหรี่ตามองสิ่งประดิษฐ์ในรูป ดูไม่ออก ว่ามันใช้ยังไง? เธอไม่มีความรู้ในเรื่องนี้เอาซะเลย มองใบหน้าของคนร่างสูงในภาพ ยิ้มแย้มจนเห็นฟันเรียงขาว ก็ทำให้คนมองภาพอดยิ้มตามไม่ได้
นึกถึงเรื่องเมื่อตอนบ่าย ถ้าไม่ได้เขาคนนั้นเดินเข้ามาช่วยเธอในร้านดีวีดี หญิงสาวก็นึกไม่ออกเลยว่า เธอจะถูกไอ้ป่องลบหลู่ขนาดไหน? จะว่าไปแล้ว คนๆนี้ ก็ไม่เลวซะทีเดียว ไม่เห็นจะโหด เถื่อนอย่างที่หนึ่งด่าให้ฟังบ่อยๆเลย แต่ท่าทียียวน กวนๆน่ะ...ใช่
By : รัก..รมิดา   Date : 2 Feb 2012 21:59
|