นิทานของแก้วน้ำ(อยากเป็นดังแก้วใบนี้จัง)
กาลครั้งหนึ่งเนิ่นนานแล้ว
..
มีแก้วน้ำสีใสใบหนึ่ง ในบ้านหนึ่งหลัง
มันถูกวางคว่ำในกะระมัง หนึ่งใบในห้องครัว
อยู่ในตู้ดำมืดสนิท หลายสิบอาทิตย์ เป็นปีไม่เห็นแสง
หลายคนลืมเลือนไม่ดูแคลน
หลายสิ่งของปกคลุมไม่เห็นตัว
เศษฝุ่งผง ฟุ้งตลบ กลบเต็มตู้
มันช่างดูเปลี่ยวเหงา และหวั่นไหว
เก็บใจ เก็บตัวเองไม่เหลียวใคร
อยู่ในโลกแห่งความมืดชั่วนิรันดร์
จนวันหนึ่ง ในหนึ่งวันนั้น
ตู้ดำมืดถูกเปิดออก โดยฉับพลัน
แก้วน้อยตกใจตื่น จากพวังค์ ไม่รู้ตัว
ลำแสง สอดส่องสว่าง ถึงกลางตู้
แก้วน้อยเหลือบมองดู อย่างระแวงและสงสัย
เจ้าตู้มืดนี้เปิดได้ และมองไป
ไม่ทันไร เศษผ้าข้างกาย ถูกเอาไป ไม่รู้ตัว
อีกไม่นานตู้ปิดแสงจบสิ้น
แก้วน้อยลุกขึ้น ไม่อยู่นิ่งและสงสัย
เดินเหยียบเศษฝุ่น ถุง ผ้า ก้าวออกไป
สองมือน้อย ผลักเต็มกาย หวังแอบดู
ประตูเปิด แก้วน้อยพัด ตกลงพื้น
พรมรมสีแดง เหมือนเป็นใจ รองรับไว้
แก้วน้อยลุก ขึ้นยืน ในทันใด
มองรอบกาย กว้าวใหญ่ แสนสวยงาม
ทางด้านซ้าย เจ้าตู้เย็น เอ่ยขึ้นทัก
เจ้าหล่นมา จากตู้ดำ นั้นใช่ไหม
เราชื่อตู้เย็น แล้วเจ้าละ ชื่ออะไร
แก้วน้อยตอบ ทันใด เราหัวใจ ใครเรียกกัน
อ๋อ หัวใจ เรารู้จัก เจ้าช้อนกล่าว
หัวใจฉัน ฝากให้ซ่อม ดูแลให้
ฉันเลยต้อง เอาใจซ่อม มาใส่ไว้
ช้อนคู่ซ่อม ซ่อมคูช้อน รักกันไปตลอดกาล
แก้วน้อยกล่าว หัวใจนั้น คือตัวฉัน
มีหนึ่งเดียว มานาน ขาดคู่กัน
มีแต่ฉัน อยู่ในตู้ อยู่เดียวดาย
ครั้งมองเห็น ซ่อมช้อน มีความสุข
จึงสดุด โอ้ความรัก เป็นไฉน
ช้อนกับซ่อม ถ้าแยกกัน จะเป็นไง
และตัวฉัน ใครคือใจ มาเติมเต็ม
มีเสียงน้อย แว่วดัง จากทางขวา
มาซิมา ฉันจะตอบ ข้อสงสัย
รีบปีนมา หาฉัน ในทันใด
ฉันคืออ่าง ใบใหญ่ ลองมองดู
เจ้าแก้วน้อย ไม่รีรอ รีบปีนขึ้น
ครั้งเมื่อถึง เอ่ยปากถาม ข้อสงสัย
เจ้าอ่างบอก ดูตัวเจ้า ซิช่างโทรม เสียกระไร
โปรดจงดู เร็วไว อย่าช้าพลัน
แก้วน้อยมอง เข้าไป ในกระจก
โอ้นี่เรา หรือนี่ ดูไม่ได้
ทั้งเศษผง หยากใย้ เต็มทั้งใบ
แล้วจะเอา หัวใจ ใครใส่กัน
เจ้าอ่างว่า เจ้าลงมา เถอะเจ้าแก้ว
ข้าเห็นแล้ว และจะตอบ ข้อสงสัย
ต้องขัดถู เปลี่ยนตัวเอง ในทันใด
จะเข้าใจ ทุกอย่าง ที่ถามมา
แก้วน้อย ไม่ลังเล ไม่สงสัย
รีบเร่ง ลงอ่าง ในทันใด
ครั้งเวลา ผ่านไป จนเสร็จพลัน
มองตัวเอง อีกครั้ง ในกระจก
ช่างหมดจด เป็นแก้ว สวยใบใส
ดูสะอาดจับตา ในทันใด
จึงขอบใจ อ่างใหญ่ คอยดูแล
ทันใดนั้น หันไปเห็น วิวด้านนอก
ทั้งไม้ใหญ่ ลำธาร และภูเขา
ตกระกำ ลำบาก ก็ยอมเอา
อยากออกท่อง สนทยา ในราตรี
เจ้าแก้วน้อย เอ่ยปาก ลาผองเพื่อน
เราเป็นสุข ที่มีเพื่อน อย่าสงสัย
เราขอออก ไปท่องแดน อันแสนไกล
ออกไปตอบ ข้อสงสัย ที่เคยมี
ไปดีๆ นะเจ้าแก้ว ผองเพื่อนกล่าว
และอย่าลืม คิดถึงเรา อย่างเก่าก่อน
มีอะไร ไม่มีใคร หรือทุกร้อน
กลับมาเถอะ เราพร้อม เป็นเพื่อนกัน
เจ้าแก้วยิ้ม รับปาก และเดินจาก
ท่องสู่แดนสนทยา ฟ้ากว้างใหญ่
โดยลำพัง มุ่งมั่น ด้วยหัวใจ
จะออกไป ตามหา หัวใจ อีกหนึ่งดวง
วันผ่าน คืนผ่าน ไม่พานพบ
จนเป็นเดือน จวบจะปี ไม่พบได้
จึ่งเริ่มท้อ เริ่มหมด กำลังใจ
หมดแรงเดิน หมดแรงใจ ไม่ได้กาล
ฝนก็ตก ตัวก็เปียก สดุดล้ม
ไม่มีใคร เคียงข้าง ดึงฉันได้
ต้องลุกสู้ ก้าวเดิน มันต่อไป
หมดแรงตัว หมดแรงใจ ใครช่วยที
เจ้าแก้วน้อย เดินไป เอนนอนพัก
ใต้ต้นไม่ ร่มใหญ่ บังแดดฝน
อยู่ตรงโคน ต้นไม้ และหลับลง
ตัวถูกฝน เปียกปอน นอนหมดแรง
ผ่าน หนึ่งยาม สองยาม สะดุ้งตื่น
แลเห็นเมฆ สีขาว แดดส่องใส
พลันรู้สึก แปลกๆ ขึ้นทันใด
แหงนมองไป ใต้กิ่งไม้ แอะใครกัน
มีหยดน้ำ ร่วงหล่น เติมเต็มแก้ว
ที่ละหยด สองหยด ไม่หยุดสาย
จนแก้วน้า แก้วน้อย รู้ทันใด
นี่แหละคือ หัวใจ ที่เฝ้ารอ
จนวันหนึ่ง วันนี้ ก็ผ่านพบ
ขอบคุณนะ ต้นไม้ ใจของฉัน
เธอดูแล เติมเต็ม ใจให้กัน
ผ่านสายใย แห่งหยดน้ำ นิรันทร์ดร
By : search   Date : 5 Mar 2009 23:21
|