เพียงฟ้าจะคว้าดาว - 26 -
ตอนที่ 26
ดุจดาวพาตัวเองเดินลัดเลาะพุ่มไม้หน้าบ้านพักไปตามทางเดินเล็กๆ นั้น จุดหมายของเธออยู่ที่คนรักที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างริมธาร
"นั่งตากยุงเหรอไงคะน้องฟ้า" ร่างสมส่วนภายใต้เสื้อผ้าชุดใหม่ บอกให้คนของเธอรับรู้ว่าเธอผ่านการอาบน้ำชำระล้างร่างกายมาเรียบร้อยแล้ว
"อาบน้ำแล้วเหรอคะ ไวจัง"
เพียงฟ้าขยับเข้าไปใกล้ดุจดาวให้มากขึ้นอีกนิด พลางใช้ปลายจมูกโด่งก้มลงขโมยความหอมที่แก้มเนียนนั้นเสียฟอดนึง
"แน๊... เดี๋ยวนี้ขยันแอบหอมแอบจูบจริงนะคะ" ดุจดาวทำเสียงดุไม่จริงจังนัก พลางลูบแก้มด้วยความขัดเขินเล็กน้อยเมื่อคนรักทำสายตาเจ้าชู้วิบวับให้รู้ความหมาย
"ทำมากกว่านี้ไม่ได้นี่คะ เลยต้องค่อยเป็นค่อยไป อาศัยทำบ่อยๆ ค่อยๆ ชิน" พูดพลางเอนตัวพิงพนักเก้าอี้พร้อมกับโอบรอบเอวบางของคนสวยข้างกายไว้อย่างประจบประแจง
"นี่เค้านอนกันหมดแล้วเหรอคะ เมื่อกี้พี่ดาวยังได้ยินเสียงเคาะขวดร้องเพลงกันอยู่เลยนี่คะ"
"ไปหมดแล้ว พี่โชคกับนายกล้าเมาเละ ส่วนพี่ชาลีก็ถูกพี่ไก่ไล่ให้พาผู้ชายสองคนไปเก็บในห้อง ที่เหลือก็ช่วยกันเก็บข้าวของที่เกลื่อนๆ อยู่ค่ะ เรียบร้อยแบบที่เห็น ..."
"แล้วมานั่งทำอะไรตรงนี้คนเดียวคะ คนอื่นเค้าก็เข้าไปในบ้านหมดแล้ว" คนสวยตาคมวาดแขนซ้ายเธอไปโอบรอบไหล่คนตัวสูง
"มานั่งดูดาว อยากได้มาเป็นของตัวเองสักดวง" คนพูดพลางยืดตัวนั่งตรงและยื่นมือเอื้อมออกไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวน้อยใหญ่กระจายเต็มฟากฟ้าในค่ำคืนนี้
"จะคว้าถึงมั๊ยคะ ดาวที่อยู่ใกล้ๆ ทำไมไม่คว้า" ดุจดาวประชดพร้อมค้อนขวับให้คนที่ยังคงทำตาปริบๆ เหมือนไม่เข้าใจความหมายที่เธอต้องการจะสื่อ
"มันไม่ใช่เรื่องน่างงเลยนะคะน้องฟ้า พี่แค่หมายความว่าถ้าอยากจะคว้าดาว ไม่ต้องเอื้อมไปไกลถึงบนนั้นหรอก ... ข้างกายฟ้าก็ยังมีพี่ดาวอยู่ทั้งคน" มือเรียวสวยประคองใบหน้าเพียงฟ้าไว้พลางยื่นริมฝีปากไปแตะแผ่วเบาที่ริมฝีปากนุ่มของอีกฝ่าย
เพียงฟ้าอมยิ้มในแววตา ทำไมเธอจะไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่ดาวพูด ก็แค่อยากจะแน่ใจว่าพี่ดาวพร้อมจะให้เธอก้าวไปคว้าเธอหรือไม่เท่านั้นเอง
"แต่ดาวดวงนี้สวยที่สุดนะคะ" เพียงฟ้าเชยคางมนขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพาริมฝีปากเธอเข้าไปเม้มริมฝีปากร่างของดุจดาวอย่างต้องการจะหยอกเย้า ก่อนจะเปลี่ยนเป็นประกบแนบสนิทให้มากขึ้นกว่าเดิม จากความนุ่มนวลอ่อนหวานแปรเปลี่ยนเป็นดูดดื่มเร่าร้อนขึ้นตามดีกรีความร้อนแรงจากภายใน นานเป็นครู่ ดุจดาวค่อยพาตัวเองกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ดวงตาเธอปรือด้วยอารมณ์รักที่เพียงฟ้าบรรจงบอกผ่านริมฝีปากบางที่น่าหลงใหลนั้น แววตาอบอุ่นที่ถูกส่งผ่านมาจากคนตัวสูงนั่นอีกเล่า
เมื่อทนอำนาจเรียกร้องทางสายตาจากคนที่เธอรักไม่ได้ จึงแสร้งหลบสายตาหวาบไหวนั้นมองผ่านไปไหล่มนไปทางด้านหลังของเพียงฟ้าแทน
"เข้าไปในบ้านเถอะ ยุงเริ่มกัดพี่แล้วนะเนี่ย แถมยุงตัวใหญ่นี่ยังชอบกัดปากอีกต่างหาก" ดุจดาวดึงสายตากลับมาพูดกับคนตรงหน้า พร้อมทั้งแซวเพื่อไม่ให้ตัวเธอขัดเขินเอง พลางคว้าข้อมือคนตัวสูงให้ลุกขึ้นยืนและเดินตามเธอเข้าไปในบ้านพัก
ดวงเดือนเดินออกมาจากมุมมืดข้างบ้านพักหลังนึง จากจุดที่เธอยืนอยู่ มองเห็นภาพคนสองคนที่นั่งคุยกันตลอดจนคนทั้งคู่กอดจูบกันตรงนั้น แสดงให้เธอประจักษณ์ว่าหญิงสาวสวยดวงตาหวานคมผู้นั้นมิได้เป็นแค่พี่สาวของเพียงฟ้าดังที่เธอคาดหวังไว้ในใจ ... แววตาเธอวาววาบขึ้นนิดนึงเมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์เมื่อสักครู่ ใช่... เธออิจฉาผู้หญิงคนนั้น ที่ตรงนั้นมันน่าจะเป็นของเธอหากวันนั้นแม่ไม่ห้ามเธอไว้... เธอคงได้ตามไปหาเพียงฟ้าตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน และเธอมั่นใจว่าเพียงฟ้าจะต้องตกหลุมรักเธอ มิใช่ผู้หญิงอื่น
...
...
"นึกว่าจะกางเต๊นท์นอนข้างนอกกันเสียอีก" ตาลทักเพื่อนทันทีที่เห็นพาพี่คนสวยเดินเข้ามาในบ้านพัก
เพียงฟ้ายิ้มเล็กน้อย ก่อนจะใช้สายตามองไปรอบๆ และมองกลับมาที่ตาลเป็นคำถาม
"ไอ้ฝุ่นเมา... ยายแป้งลากไปอาบน้ำ ตอนแรกล่ะบอกจะไม่ดูดำดูดี พอเอาเข้าจริงๆ ก็อดไม่ได้ ส่วนพู่ไปอาบน้ำ ตาลก็จะเข้านอนแล้วล่ะ นี่ก็นั่งเฝ้าประตูบ้านไว้ ถัดจากเราไปสองหลังก็มีคนพัก แถมเป็นพวกกรุ๊ปทัวร์ที่มองพวกเราละลาบละล้วงเมื่อตอนกลางวันด้วย"
"อืม ไปนอนเหอะตาล ฟ้าไม่ออกไปข้างนอกแล้วล่ะ เดี๋ยวล็อคประตูบ้านให้" เพียงฟ้ายิ้มบางๆ ให้ตาลก่อนจะหันไปจัดการล็อคประตูตามที่บอกตาลไว้ โดยมีพี่ดาวยืนรออยู่ใกล้ๆ รอเข้าห้องพักพร้อมกัน
...
...
"ฝุ่น อย่ามารุ่มร่ามนะ" แป้งปัดมือที่เกาะแกะที่เอว เดี๋ยวก็ลูบไล้ เดี๋ยวก็กดเน้น เล่นเอาใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ
"ไม่รักเค้าเหรอ" ฝุ่นเงยหน้ามองสบตาคนที่กำลังใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดผมที่เปียกน้ำหมาดๆ ให้เธอหลังจากออกจากห้องน้ำ
"เรายังโกรธกันอยู่นะ" แป้งเน้นย้ำ
"แต่ฝุ่นไม่ได้โกรธแป้งนะ รักออก" ฝ่ามือและปลายนิ้วคืบคลานไปด้านหลังเพื่อแกล้งปลดตะขอเสื้อชั้นใน
"เพี๊ยะ!!"
"โอ้ย!!" ฝุ่นเอามือคลำต้นแขนที่แดงเถือกนั้นทันที รอยนิ้วมือขึ้นเป็นริ้ว
แป้งเห็นท่าทางฝุ่นก็นึกสมน้ำหน้า ทีตอนเมาล่ะทำเก่ง ก่อนหน้านี้ล่ะหงอ แต่พอเห็นฝุ่นทำท่าเหมือนเจ็บมากมายก็อดเอามือไปแตะตรงรอยแดงนั้นไม่ได้ ปากก็เอ่ยถามน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยอย่างปิดไม่มิด
"เจ็บมากเลยเหรอ"
"เจ็บสิแป้ง"
"ทายามั๊ย
"เอายาใจแทนได้มั๊ยแป้ง" ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ฝุ่นทำใจกล้าจพันธนาการข้อมือคนรักด้วยฝ่ามือตนเอง ก่อนจะโน้มตัวกดถุงแป้งลงบนที่นอนหนานุ่ม แล้วตามลงไปทาบทับไว้ครึ่งตัว
"หายโกรธรึยัง ฝุ่นจะหมดปัญญาง้อแล้วนะ ใจคอจะโกรธกันจนตายเลยเหรอไง" ฝุ่นถามเสียงนุ่ม
"ยัง" ปากก็บอกออกไปแต่ใบหน้ากลับแดงซ่านด้วยความเขินอายเมื่อเจอฝุ่นกับบุคลิกแบบนี้
"ตัวเองน่ะปากแข็ง แต่แต่เค้าก็รัก"
นิ้วเรียวแข็งแรงเกลี่ยริมฝีปากอวบอิ่ม ก่อนจะใช้ปลายนิ้วแตะริมฝีปากล่างให้เผยอเล็กน้อย แล้วเจ้าตัวก็ตามลงไปลิ้มรสจูบที่คุ้นเคยจากคนรักบ้าง
บางทีการโกรธกันและทำให้ห่างกันสักพักก็ดีเหมือนกันนะ ข้อดีของมันคือทำให้เรารู้สึกคิดถึงกันมากกว่าเก่า เมื่อต้องแสดงความรักต่อกันไม่ได้เหมือนเช่นที่เคยเป็นมาทุกวัน มันอัดอั้น... และวันนี้มันก็จะถูกระบายออกมาทางร่างกายของเราสองคน
"อืมมม ... "
แป้งรู้สึกงงกับสิ่งที่ฝุ่นกระทำกับตนเอง มันดูน่าตื่นเต้นเร้าใจกว่าทุกครั้ง หรือเป็นเพราะตานี่เมา ... ฝ่ามือนั้นลูบไล้ทั่วร่างกายเธอด้วยความไวและวาบหวามกว่าเดิมยิ่งนัก ปลายนิ้วเรียวที่ไต่แตะไล่จากเอวบางขึ้นมากอบกุมทรวงอกอวบอิ่มของเธอดูจะเพิ่มความรุนแรงทีละนิด หนักและเบาตามอารมณ์
เสื้อนอนที่เรียงรายด้วยกระดุมหลายเม็ด ถูกปลดออกไม่กี่เม็ดทางด้านบนเพียงเพื่อให้ถอดออกทางศีรษะเธอได้สะดวกเท่านั้นเอง และเธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงให้ความร่วมมือในการปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากตัวเธอเองดีขนาดนี้ ไม่นานเธอก็เปลือยเปล่าท่ามกลางแสงไฟสลัวจากโคมไฟที่มุมห้อง
แว่นตาของคนรักสุดเซอร์ของเธอถูกเจ้าของถอดวางที่โต๊ะเล็กข้างหัวเตียง และเมื่อกลับมาอีกทีแป้งก็รู้ตัวว่ามันหยุดไม่ได้แล้วคืนนี้ ตั้งแต่เธอถูกฝุ่นระดมจุมพิตทั่วใบหน้า ซอกคอหอมกรุ่นหลังจากอาบน้ำมาใหม่ๆ ลิ้นเรียวแตะไล้จากใบหูผ่านข้างแก้ม และหยุดที่ริมฝีปากเธอเนิ่นนานจนคิดว่าตัวเองจะสำลักลมหายใจของกันและกันจนขาดใจเสียอีก
"ฝุ่น ... "
"อืม อย่าห้ามสิ" ฝุ่นท้วงแม้ริมฝีปากยังเฝ้าคลอเคลียไม่ห่างทรวงอกขาวๆ นั้นเลยสักนิด
"ไม่ได้.. ห้ าม" แป้งหายใจหอบแรงเมื่อโดนคนรักรุกทั้งด้านบนและด้านล่าง ทั้งปากและมือประสานใจกันทำงานบนเรือนร่างเธอเหลือเกิน
"แล้วเรียกทำไม" ฝุ่นก้มหน้าถามแม้มือทั้งสองยังไม่หยุดเคลื่อนไหว
"ถามทำไม" แป้งแหวคืนด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า ก่อนจะโอบคอคนเมาที่ไม่รู้ว่าแกล้งเมาด้วยรึเปล่าให้ขึ้นมารับจูบจากเธอ มันอัดอั้นแทบจะครางเสียงดังออกมาเมื่อโดนรุกรานขนาดนี้ เหงื่อเม็ดเล็กเม็ดน้อยผุดขึ้นตามร่างกายแม้จะเพิ่งผ่านการอาบน้ำมาเมื่อไม่นาน และเมื่อจะถึงจุดที่เธอคิดว่าคงจะเป็นที่สุดท้ายในค่ำคืนนี้ที่จะก้าวเดินไปถึง เธอจึงเลือกที่จะใช้ริมฝีปากของคนรักปิดเสียงที่จะออกจากลำคอเธอให้อายถึงเพื่อนที่อยู่ข้างห้องทั้งสองห้อง มันจึงดังแค่พออู้อี้ในลำคอของคนสองคนเท่านั้นเมื่อฝุ่นหยุดการกระทำทั้งหมดลงหลังจากส่งคนรักถึงฝั่งฝัน
ฝุ่นนอนเคียงข้างคนรักพร้อมทั้งโอบหลวมๆ ที่รอบเอวบาง พลางถามคนที่นอนหันหน้ามาทางเธอ "หายโกรธรึยัง"
"หายแล้ว" แป้งยิ้มตอบพลางเอามือปัดเส้นผมที่เปียกเหงื่อชื้นและปรกใบหน้าให้พ้นวงหน้ามนของคนรัก
"นึกว่ายังไม่หาย จะได้ง้ออีกรอบ" ฝุ่นแซวอย่างทะเล้นและฝ่ามือก็ลูบไล้หยอกเอินลงไปที่บั้นท้ายเปล่าเปลือย
"จะบ้าเหรอ... ยังไม่หายเหนื่อยเลย" ถุงแป้งถลึงตาใส่
"ทีหลังอย่าโกรธไม่มีเหตุผลอีกนะ ฝุ่นทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะง้อยังไง"
"ขอโทษ... ทีหลังจะไม่ทำอีกแล้ว" แป้งพูดเสียงแผ่ว และหลับตาลงช้าๆ ไม่นานก็หลับลึกไปในนิทรา โดยมีฝุ่นกุมมือไว้อย่างอ่อนโยนและหลับตามไปในไม่ช้า
...
...
"ยังไม่หายหน้าแดงเลยนะคะเนี่ย" ดาวยิ้มล้อเลียนคนที่นอนหนุนตักเธอดูทีวีอยู่
"ก็ได้ยินชัดเจนเต็มสองหูเลยนี่คะว่าข้างห้องทำอะไรกัน" ว่าแล้วก็หน้าแดงต่อ
"เงียบแล้วนี่คะ หลับกันแล้วมั้ง"
ได้ยินดังนั้นคนที่นอนนิ่งหนุนตักอยู่นานก็ลุกขึ้นพลิกกายหันหน้ามาทางดุจดาวทันที
"งั้นทวงสัญญาเมื่อตอนกลางวัน"
"สัญญาอะไร" ใบหน้าเริ่มมีแดงระเรื่อด้วยความอาย
"สัญญาว่าจะรักฟ้าแม้ว่าจะหลับตา หรือลืมตาตื่น"
คนสวยตาคมฉายแววถูกใจในแววตา สบตาคนพูดนิ่งๆ ก่อนจะยื่นใบหน้าสวยเข้าไปใกล้
"แล้วฟ้าคนนี้จะรักพี่ตลอดไปรึเปล่าคะ"
เพียงฟ้าอมยิ้ม ใบหน้าเปี่ยมสุขก่อนจะตอบเบาๆ แต่ชัดเจนจากหัวใจ "แม้ความทรงจำส่วนนึงจะหายไปแต่ฟ้าไม่ได้รักพี่ดาวน้อยลงไปใช่มั๊ยคะ ... ฟ้าจะรักดาวของฟ้าจากนี้และจะรักดาวคนนี้คนเดียวตลอดไป"
คงจะเป็นบรรยากาศที่เป็นใจให้เพียงฟ้าค่อยโอบเอวดุจดาวไว้ ก่อนจะโน้มตัวเองลงไปคลอเคลียริมฝีปากที่ใบหน้าเนียนนั้น และหยุดนิ่งที่เรียวปากบางสวยของคนตาสวยตรงหน้า ปลายลิ้นนุ่มบรรจงแตะไล้และแทรกตัวเข้าไปควานหาความหวานที่เริ่มลุกลามเป็นเร่าร้อนขึ้นทุกวินาทีต่อจากนี้
ไม่รู้ว่านับจากนี้เราสองคนจะเป็นเช่นไร แต่ค่ำคืนนี้สิ่งใดก็แยกเราสองออกจากกันไม่ได้
ดุจดาวผละออกจากใบหน้าขาวใสของคนที่เธอรักสุดหัวใจ ก่อนจะแกล้งเย้าเบาๆ "ผนังห้องบางนะคะ"
"เค้าหลับกันหมดแล้วค่ะ" เพียงฟ้าแสร้งเอามือทัดผมแก้เขิน ก่อนจะค่อยปลดพันธนาการที่ห่อหุ้มเรือนร่างเย้ายวนตาตรงหน้าออกทีละชิ้นด้วยมือที่สั่นเทาเล็กน้อยเมื่อเริ่มพบกับความงามที่ซ่อนอยู่ และเริ่มนำพากันไปตามแต่ใจจะปรารถนาจนตะวันเกือบจะโผล่พ้นขอบฟ้ารับวันใหม่
...
...
ในตอนสายของวันใหม่ สามหนุ่มกับบรรดาหญิงสาวเกือบทั้งหมดนั่งล้อมวงบนโต๊ะอาหารที่จัดไว้ที่ระเบียงอันกว้างขวางของบ้านพัก ขาดแต่เพียงสองสาวที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่ม ยังคงไม่ออกมาจากห้องพักเพื่อร่วมรับประทานอาหารเช้าร่วมกัน
"คู่นั้นเค้ายังแต่งตัวกันยังไม่เสร็จอีกเหรอน้องแป้ง" ไก่ถามคนที่กำลังทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับเธอ
"ตื่นรึยังก็ไม่รู้พี่ไก่ ฝุ่นจะเคาะเรียกก็เกรงใจ ปกติฟ้าตื่นเร็วนะ นี่ห้องเงียบกริบ" เป็นฝุ่นที่ตอบคำถามแทน
"หรือจะตื่นตั้งนานละ แล้วไปเดินเล่นที่ริมธารฝั่งโน้นรึเปล่า" ตาลนึกหาเหตุผลประกอบ
เมื่อทุกคนได้ฟังดังนั้นก็พากันลงมือรับประทานอาหารได้อย่างสบายใจ อีกเดี๋ยวคงตามมาสมทบเองเมื่อทนหิวกันไม่ไหว
อีกพักใหญ่ทุกคนจึงเห็นเรือนร่างอรชนสมส่วนของดุจดาวเดินตรงมาที่โต๊ะอาหารอย่างเชื่องชา มือขวากุมมือมากับร่างสูงโปร่งบอบบางของเพียงฟ้า ทั้งสองคนเดินคุยกันมาตลอดทางพาลให้นักท่องเที่ยวหลายรายที่เดินสวน อดที่จะหันมามองไม่ได้ด้วยใบหน้างามทั้งสองที่เต็มอิ่มด้วยความสุข
"ไปเดินเล่นกันมาถึงชายแดนเหรอไงยะ" แม้วประชดถามเพื่อนคนสวย เมื่อมองเวลาปาเข้าไปเกือบเที่ยงแล้ว
"เปล่า" ดาวตอบพร้อมอมยิ้ม
"นี่อย่าบอกนะว่าเพิ่งตื่นกัน" ไก่ถามบ้าง
"ช่ายยยย แล้ว ... ก็มาพักผ่อนนี่ ไม่ได้มารับน้องทำกิจกรรม... จะได้ต้องตื่นเช้าเพื่อเป็นตัวอย่างน้องๆ" ดาวลากเสียงใสในตอนต้น
"นึกว่ารับน้องทำกิจกรรมไปแล้วเมื่อคืนซะอีก" ไก่กระซิบเบาๆ ข้างใบหูคนตาคมสวยซึ้ง ที่พอได้ฟังประโยคนี้ถึงกับซัดฝ่ามือเข้าที่ต้นแขนอีกฝ่ายทันที
"ทะลึ่ง!!" ดาวค้อนให้เพื่อนวงใหญ่ แล้วก็หันไปสนใจเมนูอาหารที่อยู่ในมือของเพียงฟ้าที่นั่งอยู่เคียงข้างต่อ
"ไม่รู้จะทานอะไร นี่อิ่มกันหมดแล้วเหรอ" ดาวหันไปถามรอบโต๊ะ ก่อนจะแจกรอยยิ้มที่แม้แต่แป้งเองเห็นแล้วยังหวั่นไหวในความสวยเพียบพร้อมและมีเสน่ห์ของแฟนเพื่อน
"ป้าดาวคะ" ตาลหันไปเรียกแม่ครัวที่กำลังจะเดินบนทางเดินเล็กๆ ไปทางด้านหลังครัว
"ตกใจหมด ... นึกว่าตาลหาญกล้าเรียกพี่ดาวว่าป้า" ชมพู่ยกมือขึ้นทาบอก ท่าทางประหนึ่งใครทำขวัญเสียตอนเที่ยงวัน
เมื่อหญิงวัยกลางคนเดินมาถึงคุณหนูลูกเจ้าของรีสอร์ทจึงได้รับไหว้จากบรรดาเพื่อนของคุณหนูทุกคน ไม่ถือแม้เธอเป็นเพียงแม่ครัวเมื่อต้นตาลแนะนำให้ทุกคนรู้จัก
"ป้าเด่นดาวเป็นแม่ครัวที่นี่มาปีกว่าๆ แล้ว เรื่องอาหารจานเด็ดแนะนำต้องให้ป้าเค้าแนะนำค่ะ" ตาลบอกถึงสาเหตุที่เรียกแม่ครัวมา
"พี่ดาวอยากทานแบบไหนคะ อาหารจานเดียวหรือจะเป็นข้าวสวยร้อนๆ พ่วงด้วยกับข้าวสองสามจานคะ" เพียงฟ้าเงยหน้าจากเมนู ถามคนรักอย่างเอาใจ
สองสาวผลัดกันถามเมนูแนะนำกับแม่ครัว และสรุปในตอนท้ายว่าอยากทานอะไร โดยมีชายหนุ่มสองคน ชาลีและต้นกล้าที่กับแกล้มมาทานกับเบียร์ ... แต่หัววัน
"มีอย่างอื่นแนะนำอีกมั๊ยคะป้าดาว เผื่อหนหน้าจะมาทานอีกจะได้สั่งอย่างอื่นบ้าง" เพียงฟ้าแสร้งหันไปทางดุจดาวเมื่อถูกใจในคำว่า -ป้าดาว-
"ก็มีเยอะนะคะคุณ พวกแกงป่าป้าก็ทำอร่อยนะ ... เอ ป้าเคยเจอเพื่อนคุณหนูคนนี้ที่ไหนนะ คุ้นหน้าอยู่" ป้าดาวทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะเบิกตาโตและชี้มือชี้ไม้ไปทางเพียงฟ้า
"ใช่แล้ว ... หนูคนที่ตกหน้าผาเพราะช่วยลูกสาวป้า โอย... ป้านี่แย่จังลืมได้กระทั่งผู้มีพระคุณ" ป้าแม่ครัวเดินอ้อมโต๊ะไปหาคนที่นั่ง งงเป็นไก่ตาแตกอยู่บนเก้าอี้เมื่อได้ฟังข้อความนั้น แล้วสมองอันชาญฉลาดก็ประติดประต่อเรื่องได้ออกชนิดที่จับมาวางตรงไหนก็ลงล็อคทันที เว้นแต่บางเรื่องที่เธอไม่เข้าใจเหตุผลของคนบางคนเท่านั้น
"ถ้าไม่ได้หนูวันนั้น ป้าต้องทนทุกข์จนวันตายแน่เลยลูกเอ๊ย ขอบคุณมาก ขอบคุณจากใจคนแก่อย่างป้าจริงๆ" พูดพลางยกมือของเพียงฟ้าขึ้นกุม น้ำตาคนแก่รินไหล ทำเอาผู้ที่อยู่รอบโต๊ะแอบซึ้งตามถึงแม้จะไม่รู้รายละเอียดเท่าไรนัก
"ป้าขา ป้าอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วยเหรอคะ" ดาวถามแม่ครัวหลังจากแกเช็ดน้ำตาเรียบร้อยแล้ว
"ไม่ได้อยู่หรอกค่ะคุณ พอรู้เรื่องอีกทีนังหนูมันก็อยู่โรงพยาบาลแล้ว แล้วก็มีคนเล่าให้ป้าฟังถึงตอนที่นังหนูมันจะตกแล้วคุณเค้าคว้าตัวช่วยนังหนูไว้แต่พลาดตกลงไปเอง"
"ได้ยินว่าคว้ากิ่งไม้ไว้ได้ แต่คุณแกลื่นจนร่วงลงไปในที่สุด" แม่ครัวเล่าเท่าที่รับรู้มา
"ลมมันคงแรงมากค่ะ ทำให้คว้ากิ่งไม้พลาด" เพียงฟ้าหัวเราะอย่างอารมณ์ดีไม่มีเหตุผล เมื่อฟังเรื่องเล่าจากป้าจบ
"แล้วป้าจำหน้าฟ้าได้ยังไงอ่ะ ในเมื่อไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์" ฝุ่นกลายเป็นนักจับผิด
"ก็นังหนูของป้าเค้าไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วถ่ายรูปคุณเค้าติดมาด้วย พอจะขอบคุณเป็นเรื่องเป็นราว คุณเค้าก็ย้ายโรงพยาบาลไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ป้าก็ได้เห็นจากในรูปที่นังหนูมันถ่ายมา"
ซักถามเหตุการณ์กันพอให้เห็นภาพ หลายคนพลอยรู้สาเหตุที่เพียงฟ้าความจำเสื่อมไปด้วย แต่ป้าเด่นดาวแม่ครัวก็ยังไม่รู้อาการเจ็บป่วยนั้นเนื่องจากยังไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา ได้แต่รอให้เพียงฟ้าบอกเล่าเอง ซึ่งเจ้าตัวก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรนอกจากรับคำขอบคุณ ขอบใจจากคุณป้าและนั่งยิ้มแย้มเป็นปกติ
อาหารมื้อเช้าบวกกับกลางวันของเพียงฟ้าและดุจดาว ถูกทำขึ้นสุดฝีมือโดยแม่ครัวมือหนึ่งของรีสอร์ท ทำด้วยความเต็มใจและตื้นตันใจที่ได้ตอบแทนผู้มีพระคุณ
เพียงฟ้าตักอาหารทานด้วยความอิ่มอกอิ่มใจที่ได้รับรู้เรื่องราวที่เป็นปริศนา แต่ยังมีอีกบางปริศนาที่เธอจะต้องรู้ให้ได้ในวันข้างหน้า ไม่รีบร้อนเพราะตอนนี้อะไรๆ ก็ดูจะไม่มีความหมายเป็นพิเศษกับเธอเท่ากับหญิงสาวที่นั่งอยู่เคียงข้างและคอยตักอาหารเอาอกเอาใจเธอตลอดเวลา
By : CIM   Date : 24 Jan 2008 22:30
|