อุบายรัก ... กับดักหัวใจ ++ ตอนที่ 15 ++
" white night เหรอคะ "
เสียงใสๆของเลขาคนสวยดังขึ้นเมื่อสิ้นคำสั่งของเจ้านาย เมื่อกี๊นายของเธอพึ่งจะบอกรายละเอียดของงานเลี้ยงที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วัน
" ทุกคนในบริษัทเราต้องแต่งตัวในโทนสีขาวจะผิดแปลกไปจากนี้ไม่ได้ อย่างที่ดิฉันบอกคุณนุชไปเมื่อกี๊ว่าคอนเซปน่ะคือ ราตรีสีขาว ผู้ร่วมงานจะแต่งกายสีอะไรก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นขาวล้วน แต่พนักงานตลอดจนผู้บริหารในบริษัทจะต้องแต่งกายด้วยชุดสีขาวเท่านั้น "
เลขาคนเก่งจดรายละเอียดตามที่เจ้านายสาวบอกลงสมุดคู่มือ เธอจะต้องส่งรายละเอียดของงานไปให้กับฝ่ายต่างๆของบริษัท
" แล้วเรื่องของสถานที่กับอาหารก็ให้ฝ่ายต้อนรับเสนอขึ้นมาภายในวันนี้เท่านั้น เย็นนี้ดิฉันคงจะได้เห็นรายละเอียดทั้งหมดวางอยู่บนโต๊ะนะคะ "
" ค่ะบอส "
หญิงสาวรับคำนายจ้างก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากห้องเมื่อเห็นว่านายสาวของเธอไม่มีสิ่งใดจะคุยกับเธอต่อแล้ว ... ภายในวันนี้งั้นเหรอ จะทันมั๊ยเนี่ยะฉัน ... เธอไม่ทราบว่าหลายวันมานี้นายสาวของเธอเป็นอะไร เอาแต่นั่งทำหน้าเครียดๆ บางครั้งก็เหม่อลอย รอยยิ้มที่เคยมีตอนนี้ก็หาได้เจอบนใบหน้าสวยๆนั้นไม่ วันๆเอาแต่โหมทำงานไม่พูดจาเล่นหัวกับลูกน้องเหมือนเมื่อก่อน เหตุใดกันนะ หรือว่า.. ไม่น่าจะใช่
" เอาล่ะ นุชเอ๊ยงานกองท่วมหัวต้องรีบเคลียร์แล้วฉัน วันนี้ไม่เสร็จก็ตายล่ะนะ "
หญิงสาวมองดูกองเอกสารบนโต๊ะบ่นให้กำลังใจตนเองก่อนจะนั่งลงแล้วจัดการต่อสายภายในเพื่อส่งรายละเอียดที่นายจ้างคนสวยสั่งมาเมื่อครู่ให้กับทุกฝ่ายในบริษัทรับรู้ ... น่าสงสารสุดก็ฝ่ายจัดเลี้ยงนี่ล่ะนะ วันนี้ไม่ต้องพักทานข้าวกันล่ะ ...
" ว่าไงได้เรื่องอะไรบ้าง "
แจนเปิดดูซองเอกสารสีน้ำตาลเข้มที่ถูกเก็บไว้อย่างดีในลิ้นชักออกดู เธอกล่าวกับอีกฝ่ายที่ตอนนี้กำลังรายงานความคืบหน้าทุกอย่างให้เธอรับรู้ อดีตลูกน้องคนสนิทของพ่อเธอที่ตอนนี้กลายเป็นมือขวาคอยช่วยเหลือเธอในเรื่องต่างๆแทนกำลังอธิบายถึงเรื่องต่างๆที่สืบทราบมา หญิงสาวพลิกดูรูปและเอกสารในซองประกอบ ตอนนี้เรื่องมากมายที่กำลังรุมเร้าเธออยู่มันมากขึ้นทุกที
" แล้วยังไงค่อยคุยกันนะ ถ้ามีอะไรด่วนมากๆก็โทรมาแล้วกัน "
หญิงสาวหลับตานิ่ง ข้อมูลต่างๆล้วนตีกันอยู่ในหัว เธอจะทำยังไงดีทั้งหน้าที่ทั้งหัวใจ ตอนนี้เธอไม่รู้จะไปปรึกษาใครแล้ว แม้แต่เพื่อนสาวคนสนิทเธอก็ไว้ใจไม่ได้แล้วเช่นกัน เธอจะทำเช่นไรดี
" ค่ะ ขอโทษนะคะวันนี้คงไม่ได้ "
เสียงหญิงสาวกระซิบผ่านเครื่องมือสื่อสารตัวจิ๋วด้วยกลัวว่าเสียงจะเล็ดรอดออกไปให้คนอื่นได้ยิน ตอนนี้งานเธอยังเคลียร์ไม่เสร็จไม่รู้ว่าวันนี้จะกลับบ้านกี่โมงกี่ยามกัน ครั้นจะให้คนรักมารอที่ทำงานก็ไม่ได้เดี๋ยวนายจ้างจะรู้ จะให้รอที่บ้านก็ไม่ได้อีกเพราะไม่รู้ว่างานจะเสร็จกี่โมง ทางออกเดียวที่มีก็คือ คนรักของเธอต้องอยู่คนเดียวในคืนนี้ที่คอนโดของเจ้าตัว
" ไว้วันอื่นนะคะ ช่วงนี้งานนุชยุ่งมากๆเลย ไม่งอนนะคะกี้ อุ๊ย!แค่นี้นะคะคุณแจนออกมา ไว้คุยกันนะ "
หญิงสาวรีบกดวางทันทีโดยไม่ฟังเสียงโวยวายที่อีกฝ่ายกำลังตะโกนอยู่ ด้วยกลัวว่าเจ้านายของเธอจะสงสัยถึงการกระทำที่เธอแอบคบกับหญิงสาวคนสนิทของอีกฝ่าย
" ไม่ทราบว่าฝ่ายจัดเลี้ยงส่งแผนงานขึ้นมารึยังคะคุณนุช "
" ยังเลยค่ะบอส แต่คงไม่เกินเย็นนี้หรอกค่ะ "
" คงเหรอคะ "
เลขาคนสวยได้แต่ก้มหน้านิ่งเมื่อรู้ว่าคำตอบของเธอไม่เป็นที่พอใจนักสำหรับนายจ้าง แต่จะให้เธอทำเช่นไรกันเล่าในเมื่อตอนนี้แค่งานของเธอก็ล้นมือแล้ว
" ดิฉันว่าคุณเอาเวลาที่ใช้ไปกับการคุยโทรศัพท์ไปคอยตามงานจะดีกว่ามั๊ยคะคุณชรัญญา ช่วยกรุณาทำงานให้คุ้มกับค่าจ้างที่บริษัทให้หน่อยนะคะอย่างน้อยก็ไม่สมควรคุยเรื่องส่วนตัวของตนในเวลาทำงานถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย "
พูดจบแจนก็เดินเข้าห้องทำงานไปโดยไม่สนว่าทุกคำพูดที่เอ่ยออกมาจะเป็นผลให้อีกฝ่ายมีสีหน้าเช่นไร หญิงสาวผู้ถูกต่อว่าได้แต่ทิ้งตัวลงนั่งกับโต๊ะทำงานอย่างเหนื่อยอ่อน นี่เธอทำอะไรผิดมากมายนักหรือช่วงหลังมานี้นายจ้างคนสวยของเธอถึงได้หาเรื่องเธอนัก
" ขอโทษนะคะพี่โอม หวานไม่ว่างจริงๆ "
เสียงใสๆของเด็กสาวเอ่ยปากกล่าวคำขอโทษชายหนุ่มในชุดนักกีฬาบาส วันนี้เธอมาขอเลื่อนนัดที่อีกฝ่ายเชื้อเชิญไว้ก่อนหน้า เนื่องด้วยวันที่ชายหนุ่มนัดนั้นตรงกับวันเดียวที่จะจัดงานสำคัญของพี่แจนของเธอ
... จะให้ทำอย่างไรได้ล่ะ ในเมื่อพี่แจนสำคัญกว่า ...
" ทำไมล่ะครับหวาน พี่บอกเพื่อนๆหมดแล้วนะครับว่าจะพาเราไปแนะนำให้รู้จักน่ะ อย่างนี้มีหวังพี่โดนเพื่อนว่าแน่ๆเลย "
" หวานต้องขอโทษจริงๆค่ะ อย่างที่หวานบอกไปแล้วน่ะแหละว่าหวานไม่ว่างจริงๆ ไว้คราวหน้าแล้วกันนะคะ "
" ก็ได้ครับ ถ้าหวานไม่ว่างจริงๆก็ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าคราวหน้าห้ามเบี้ยวนัดพี่นะครับ เดี๋ยวอีกหน่อยพี่ก็จะไม่มีเวลาว่างแล้วนะ ใกล้สอบเอ็นฯเข้าไปทุกที "
" ค่ะ หวานสัญญาค่ะว่าคราวหน้าจริงๆ นะคะ นะ "
" ครับยังไงก็ได้ อย่างมากพี่ก็โดนเพื่อนว่านิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรหรอกสำหรับหวานพี่ยอม "
ชายหนุ่มส่งสายตากรุ้มกริ่มพร้อมหยอดคำหวานทิ้งท้ายหวังให้อีกฝ่ายรู้สึกหวั่นไหวไปตามคำหวานนั้นได้มั่ง แต่สำหรับเด็กสาวที่ชื่อหวานนั้นมันหาได้ทำให้ใจเธอเต้นอย่างที่เคยเป็นมาไม่ หากแต่คนที่ทำให้เธอรู้สึกแบบนั้นได้นั้น ตอนนี้คงกำลังขะมักเขม้นอยู่กับกองเอกสารบนโต๊ะอย่างเอาเป็นเอาตาย
" ถ้างั้นหวานขอตัวก่อนนะคะพี่โอม "
" ครับ "
เด็กสาววิ่งจากไปโดยทิ้งความขุ่นเคืองทางใจไว้กับชายหนุ่มคู่สนทนา ... นังนี่ เล่นตัวนักนะมึงอย่าให้ถึงทีกูบ้างแล้วกันจะทำให้ไม่มีแรงปฏิเสธซะเลย ไม่นานหรอก ...
" ว่าไงหวาน ไปไหนมายะ "
แพนเอ่ยถามเพื่อนสนิททันทีที่เจ้าทิ้งตัวลงข้างกายเธอ เด็กสาวที่พึ่งมานั่งยักไหล่เบาๆแทนคำตอบให้กับเพื่อนสนิท ยังผลให้อีกฝ่ายต้องยกมือขึ้นผลักหัวเพื่อนสาวด้วยความหมั่นไส้ที่เจ้าตัวไม่ยอมเล่าเรื่องราว
" ก็ไม่มีอะไรนี่ ฉันก็แค่ไปบอกพี่เค้าว่า เรื่องที่นัดกันไว้น่ะฉันแคนเซิลเพราะว่าไม่ว่างก็แค่นั้นเอง "
" แล้วพี่เค้ายอมเหรอวะ "
เพื่อนของเธอยังคงเอ่ยถามต่อไป ... ก็จะไม่ให้สงสัยได้ไงล่ะในเมื่อกิตติศัพท์ของรุ่นพี่ชายคนนี้นั้นขจรขจายไปถึงไหนต่อไหน เธอเองยังหวั่นอยู่ในใจลึกๆว่าเพื่อนเธอเองนั้นอาจจะพลั้งพลาดไปไม่วันใดก็วันนึง แต่ตอนนี้เธอก็ทำได้เพียงแค่กล่าวเตือนให้เพื่อนตัวถอยห่างออกมาก็เท่านั้นเอง
" พี่เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ บอกแค่ว่าไม่เป็นไรแค่นั้นเอง "
หวานยังคงเอื้อนเอ่ยคำอย่างไม่ใส่ใจต่อสิ่งรอบข้างเท่าใดนัก ใจประหวัดคิดไปถึงหญิงสาวในใจอีกคนมากกว่า ... วันนี้ตอนเย็นจะได้ทานข้าวด้วยกันมั๊ยนะ งานยุ่งขนาดนั้นจะมีเวลาให้เราบ้างมั๊ย ... แต่สิ่งที่ทำได้ก็แค่คิด แม้แต่เสียงที่อยากได้ยินเด็กสาวยังไม่แม้แต่จะกล้ากดโทรศัพท์ออกไปหาเลยด้วยซ้ำ ด้วยเหตุที่ว่าอีกฝ่ายอาจจะยุ่งมากแล้วเธออาจจะรบกวนอีกฝ่ายก็ว่าได้ หวานจึงทำได้แค่เพียงส่งข้อความต่างๆแทนความคิดถึงไปให้
" มีอะไรรึคะกี้ "
หญิงสาวกดรับโทรศัพท์เมื่อเห็นว่าหน้าจอแสดงชื่อคนโทรเข้ามา ชื่อที่หญิงสาวเอ่ยทำเอาเลขาสาวที่ยืนรอรับแฟ้มเอกสารเกิดอาการใจกระตุก ... ความคิดถึงนี่มันห้ามไม่ได้จริงๆใช่มั๊ยนะ เพียงแค่ชื่อก็ทำเอาใจสั่นไปหมด ...
" ช่วงนี้งานยุ่งน่ะ ทำไมคะกี้มีอะไรเหรอว่าแต่เตรียมชุดไปถึงไหนแล้ว อีกไม่กี่วันจะถึงวันงานแล้วนะ ว่าไงคะ "
หญิงสาวยังคงสนทนากับอีกฝ่ายโดยไม่แยแสว่าคำพูดต่างๆจะกระทบเข้าหูหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงานตนหรือไม่ ... ทนได้ก็ทนไป อยากรู้นักว่าจะทนไปได้ซักกี่น้ำคำกัน ...
" แจนไม่ว่างนี่คะช่วงนี้ เอาเป็นว่าไว้พรุ่งนี้แจนไปรับกี้แล้วก็เลยไปหาอะไรทานกันตอนเย็นดีมั๊ยคะ ทำไมคะไม่พอเหรอถ้างั้น แถมนอนค้างด้วยอีกคืนดีมั๊ยคะ หรือจะมากกว่าคืนเดียวก็ได้นะถ้ากี้ต้องการ "
คำพูดกระแทกใจส่งผลให้เลขาคนสวยก้มหน้างุดทันที มือที่กุมกันอยู่เบื้องหน้ากำเข้าหากันแน่นยิ่งกว่าเดิม เพียงแค่คำพูดคะขาและการแสดงออกของนายจ้างที่มีให้กับคนรักแอบๆของเธอนั้น ทำเอาเจ็บไปทั้งใจ เธออยากจะวิ่งออกไปให้ไกลจะได้ไม่รับรู้อะไรอีก แต่ที่ต้องทนยืนอยู่อย่างนี้เพียงเพราะคำว่าหน้าที่คำเดียวเท่านั้นเอง
" งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ แจนทำงานค้างอยู่คิดถึงเหมือนกันค่ะอย่าดื้อล่ะรู้มั๊ย บายค่ะ "
แจนกดวางโทรศัพท์แถมด้วยรอยยิ้มที่อีกฝ่ายคงไม่มีวันได้เห็น ก่อนจะหันกลับมาเซ็นเอกสารที่วางสุมอยู่ตรงหน้าต่อไป ปากก็เอื้อนเอ่ยสนทนากับเลขาคนเก่งไปเรื่อยเปื่อย
" ขอโทษนะคะคุณนุชที่กี้โทรมาขัดจังหวะ ก็อย่างนี้ล่ะค่ะไม่รู้ช่วงนี้เป็นอะไร อ้อนอยากได้นู่นอยากได้นี่ไปซะหมด แต่ก็อย่างว่าล่ะค่ะแจนก็อดใจอ่อนอีกไม่ได้ ทำไงได้ล่ะคะมีคนน่ารักแบบนี้อยู่ใกล้ๆไม่ให้ตามใจคงลำบาก หรือคุณนุชว่าไงคะ "
" ค่ะ ก็คงแบบที่บอสว่า "
" แหมคุณนุชนี่ล่ะก็ ทำเป็นเขินไปได้แจนว่านะคะถ้าเกิดคุณนุชมีคนสนิทที่รู้ใจเหมือนแจนแล้วล่ะก็ คุณนุชจะรู้เองล่ะค่ะว่าผู้หญิงอย่างกี้น่ะขี้อ้อน น่ารักมากแค่ไหน จริงมั๊ยคะ "
นายสาวยิ้มให้พร้อมทั้งปิดเอกสารที่เซ็นเสร็จพร้อมๆกับคำจบสนทนายื่นให้กับเลขาที่ตอนนี้เกิดความรู้สึกชาวูบตั้งแต่ใบหน้าลงไปถึงหัวใจ ทำไมเล่าที่เธอจะไม่รู้ในเมื่อตอนนี้เธอเองก็เป็นอยู่
เลขาคนเก่งขอตัวออกมาจากห้องทันที หญิงสาววางแฟ้มงานไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินเร็วๆไปยังห้องน้ำ ทันทีที่ปิดประตูลงหญิงสาวได้แต่ยืนพิงประตูปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาช้าๆ
... นี่ใช่มั๊ยโทษฐานความผิดของตัวเธอเองที่แอบไปรักคนมีเจ้าของ ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นได้แค่ของเล่นคลายเหงาของอีกฝ่าย แต่เธอก็ยังจะยอมเจ็บเพียงแค่ไม่อยากเสียหญิงสาวที่ตนรักไป ยอมเป็นที่สองยอมหมดทุกอย่าง ขอเพียงแค่อีกฝ่ายยังอยู่กับเธอเท่านั้นก็พอ ....
เด็กสาวยืนพิงกรอบหน้าต่างจ้องดูรถคันงามที่แล่นเข้ามาช้าๆ สายตาเบนดูเวลาที่ติดไว้ข้างผนังห้อง เข็มเวลาเดินมาจนถึงสี่ทุ่มเกือบครึ่ง พี่แจนของเธองานยุ่งมากหรือว่าเอาเวลาไปให้กับใครกันหนอถึงได้กลับบ้านช้าขนาดนี้ หวานกดมองเครื่องมือสื่อสารเคลื่อนที่ตัวจิ๋วไม่มีแม้แต่ข้อความตอบกลับจากอีกฝ่าย เด็กสาวถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอเหงาใจแม้ว่าจะคุยกับชายหนุ่มอีกคนเพื่อคั่นเวลาไปเรื่อย
หญิงสาวก้าวขึ้นตามขั้นบันไดช้าๆ เธอไม่รู้หรอกว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว รู้แต่ว่าพอเลิกงานปุ๊บเธอก็ไปนั่งรอเพื่อนสาวที่คอนโดพร้อมทั้งสั่งอาหารมาทานกันไปคุยกันไปเพียงเพื่อต้องการยื้อเพื่อนสาวของตนไว้กับตัวเองเท่านั้น เธอไม่อยากเสียกีกี้ไปให้กับใครแม้ว่าเธอจะไม่มีสิทธิ์ในความครอบครองทั้งหมดก็ตามที
แจนทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานตัวโปรด หากจะให้เธอพักเธอคงพักหลับตาไม่ลงเป็นแน่ จะทำเช่นไรดีนะในเมื่อเวลานี้ร่างกายเธอล้าไปหมด หญิงสาวหลับตาลงช้าๆเอนกายไปยังพนักเก้าอี้ ขณะที่กำลังผ่อนคลายตัวเองอยู่แบบนั้นเธอรู้สึกได้ถึงเสียงของบานประตู ดึกป่านนี้แล้วใครกันนะที่แวะมาเยือนถึงห้องทำงานเธอ
แจนหรี่สายตาดูก่อนจะเห็นว่าเจ้าของมือเล็กๆที่กำลังปัดเส้นผมออกจากหน้าเธอนั้นคือใคร เด็กสาวในชุดนอนกระโปรงตัวบางหยิบรีโมทแอร์ขึ้นมาปรับอุณหภูมิจนพอใจ แล้วจึงจัดแจงเอนเก้าอี้ไปด้านหลังอีกนิดเพื่อให้พี่แจนของเธอได้พักอย่างสบาย หวานนั่งลงบนที่วางแขนของเก้าอี้เบาๆเธอยิ้มให้กับเจ้าของใบหน้าที่ดวงตาปิดสนิท ก่อนจะก้มลงจูบเบาๆที่หน้าผากพร้อมกระซิบคำหวานข้างหู
" คิดถึงค่ะ ฝันดีนะคะคนดีของหวาน "
เด็กสาวถอนใบหน้าออกเพียงคืบ พินิจดูอีกฝ่ายก่อนจะปล่อยใจตนเองให้ทำในสิ่งที่ต้องการ มือเล็กๆไล้ใบหน้าเนียนนั้นอย่างหลงใหล ก่อนจะก้มลงไปจูบเบาๆที่ริมฝีปากอิ่มนั้นไม่ทันที่เจ้าตัวจะได้ถอนตัวพลันริมฝีปากของคนที่เธอหลงใหลก็แนบสนิทพร้อมทั้งสอดลิ้นเข้ามาชิมความหวานในปากเธอ เด็กสาวหลับตาลงแขนสองข้างโอบกระชับร่างของอีกฝ่ายแนบแน่น
... นานเพียงใดแล้วหนอที่เธอไม่ได้รับสัมผัสที่หลงใหลนี้ นานเพียงใดที่ไม่ได้กอดกายอุ่นๆ นานแค่ไหนที่หัวใจเธอได้แต่เพรียกหาแต่ไม่เคยได้รับการตอบรับ ...
" อย่ามายั่วแบบนี้อีกนะคะเดี๋ยวพี่จะอดใจไม่ไหว "
หญิงสาวพูดหลังจากถอนริมฝีปากออกช้าๆ เธอยังคงอ้อยอิ่งอยู่กับใบหน้าใสๆนั้น แม้ปากจะพูดแบบนั้นแต่เธอเองก็อดไม่ไหวที่จะพรมจูบไปทั่วใบหน้านั้น โดยที่เด็กสาวได้แต่อือๆออๆรับไปเรื่อย
" ถ้าอดไม่ไหว ก็ไม่ต้องอดซิคะหวานอยากให้พี่แจนสัมผัสหวานมากกว่านี้ "
" รออีกนิดนะคะคนดี ยังไม่ถึงเวลาค่ะหวาน ยังไม่ถึงเวลา "
เสียงตอบรับหายไปพร้อมๆกับจุมพิตหวานๆริมฝีปากร้อนที่บดขยี้เริ่มเร้าอารมณ์ของทั้งคู่ให้คุกรุ่น แต่ก็เพียงแค่นั้นทั้งคู่ยังคงเพียงแค่สัมผัสกายภายนอกเท่านั้น สองมือที่ลูบไล้ไปตามสัดส่วนหาได้ล่วงเลยไปถึงภายในไม่ แจนสะกดกลั้นอารมณ์ไม่ให้ล่วงเลยมากไปกว่านี้แม้สายตาที่อ้อนวอนและคำร้องขอ ของอีกฝ่ายจะรัญจวนใจเธอมากเพียงใดก็ตาม
By : hJIko   Date : 28 Dec 2007 09:38
|