อุบายรัก ... กับดักหัวใจ ++ ตอนที่ 14 ++
เด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลายสามคนกำลังนั่งคุยจ้อกันอยู่อย่างออกรสโดยไม่รู้เลยว่า ในมุมอีกมุมของร้านมีสายตาของผู้ชายอีกคนจับจ้องอยู่ โดยมีจุดสนใจอยู่ที่เด็กสาวหน้าใสตัวเล็กที่สุดที่ตอนนี้กำลังก้มหน้าก้มตาเปิดดูเมนูของร้าน
" ว่าไงวะหวาน เลือกได้รึยังเนี่ยะพี่เขายืนรอเป็นชาติแล้วนะเว้ยกะแค่ไอติมทำยังกะจะเลือกตั้ง นานเว่อร์ "
" แพนแกอย่ามาบ่นนะเว้ย เลี้ยงก็ไม่ได้เลี้ยงยังจะมาพูดมากอีก "
เด็กสาวแหววใส่เพื่อนสนิทด้วยความระอา ดูนั่น.. ขนาดนั่งยังไม่คิดจะปล่อยมือจากคนรักเลย นี่ถ้าผูกโซ่ล่ามได้มันคงทำไปแล้ว คิดได้แค่นั้นเธอก็ตัดสินใจเอ่ยเลือกเมนูที่ต้องการบอกบริกรไป ก่อนจะส่งเมนูคืนแล้วหันหน้ามาคุยกับเพื่อนต่อ
" ขอบคุณนะคะพี่ฟ้าที่อุตส่าห์เลี้ยง "
" ไม่เป็นไรค่ะ ตอนเลี้ยงวันเกิดพี่หวานก็ไม่ว่างนี่คะเลี้ยงย้อนหลังแต่คงไม่ดีเท่าเก่า เราไม่ว่าพี่นะ "
รุ่นพี่คนสวยกล่าวตอบ พร้อมด้วยรอยยิ้มสดใส
" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ช่วยไม่ได้นี่คะหวานดันไม่ว่างเองนี่นา เนอะ ใช่มั๊ยไอ้แพน "
" ก็นะ ช่วยไม่ได้แกไม่ว่างนี่นา "
เด็กสาวมองดูเพื่อนที่ตอบรับเธอด้วยใบหน้ากวนอารมณ์ .. ดูมันดิ๊ วันนั้นก็สั่งให้เราบอกพี่เขาว่าไม่ว่าง จะได้ไปสวีทหวานกันสองคน ได้ฉลองกันสองคนเงียบๆที่บ้านปล่อยให้ฉันมานั่งกินไอติมแทน นี่ถ้าไม่รักเพื่อนนะ ...
" ว่าแต่ต่อไปพี่ต้องฝากหวานดูแลแพนแล้วนะคะ "
" ทำไมล่ะคะ "
เด็กสาวตอบกลับรุ่นพี่ พลางมือก็คว้าช้อนแสตนเลสที่บริกรนำมาเสริฟ์พร้อมไอศกรีมตักเข้าปาก สายตาก็จดจ้องที่ใบหน้าของรุ่นพี่คนสวย ก่อนจะเหลือบมองดูเพื่อนที่นั่งทำหน้าเศร้าอยู่ด้านข้าง
" ก็พี่ต้องยุ่งอยู่กับการสอบเอ็นฯนี่คะ ช่วงนี้ก็คงจะติวมากขึ้นดีนะที่โรงเรียนเราเรียนแผนใหม่ปีสุดท้ายเลยไม่ค่อยยุ่งกับเรื่องเรียนแล้วก็รายงาน จะได้มีเวลาอ่านหนังสือเต็มที่ "
" อ๋อ ! ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะเดี๋ยวหวานจะดูแลแพนมันให้เป็นอย่างดีเลย ถ้ามันคิดจะทำตัวนอกลู่นอกทางคิดแอบไปสนสาวที่ไหนล่ะก็หวานจะเชือดมันแทนพี่เอง "
" ไม่ต้องเลยไอ้หวาน คนอย่างฉันน่ะรักเดียวใจเดียวเว้ย แพนน่ะรักแค่พี่ฟ้าคนเดียวนะคะ "
ไม่เพียงแต่พูดเปล่าเจ้าเพื่อนตัวดียังคว้ามือของคนรักขึ้นมาแนบแก้มพร้อมทั้งหอมเบาๆที่หลังมือให้ตัวเธอได้หมั่นไส้แถมอีกตะหาก
" พี่เชื่อใจแพนนะคะ อย่าทำให้พี่ผิดหวังก็แล้วกัน รู้มั๊ย "
" แพนน่ะไม่ทำให้พี่ฟ้าต้องผิดหวังหรอกค่ะ ห่วงก็แต่พี่ฟ้าน่ะอย่าไปเผลอใจให้คนอื่นอีกนะคะ ต่อให้คนนั้นจะหน้าตาดีกว่าแพน นิสัยดีกว่า รวยกว่า เทคพี่ฟ้าได้มากกว่า หรือเจอกันมากกว่าที่เราจะมีเวลาให้กัน ก็อย่าไปเผลอมีใจให้นะคะ ท่องไว้เสมอนะว่า ฟ้ารักแพน ฟ้ารักแพน "
" ค่ะพี่รู้แล้วค่ะ "
หวานนั่งเขี่ยไอศครีมในถ้วยไป มองดูเพื่อนกับคนรักนั่งออดอ้อนกันด้วยความระอาใจ ... นี่มันพามาเลี้ยงไอติมหรือว่าพามานั่งมันพลอดรักกับพี่เค้าวะเนี่ยะ ไม่น่าเลยฉันกินไม่ลงวุ๊ย ...
" เอ่อ.. ขอโทษนะคะคุณคู่รักแห่งปี คือว่าไอติมมันจะละลายหมดถ้วยแล้วนะคะ ช่วยกรุณาบริโภคมันหน่อยเถอะอย่าให้มันต้องจมกองความหวานตายเลยนะคะ ดูซิมันน้อยใจจนละลายตัวเองตายแล้วนั่น "
ไม่เพียงแต่พูดเปล่าหวานยังจัดการเอาช้อนไปเขี่ยๆไอศครีมที่ละลายอยู่ในถ้วยของแพนเล่นอีกตะหาก คำพูดล้อๆนั้นทำเอารุ่นพี่คนสวยถึงกับหน้าแดงด้วยความอายที่โดนล้อ
" ตักไอติมเข้าปากแล้วก็กินไปเงียบๆปะไอ้หวาน กวนอารมณ์ว่ะคนเค้าจะหวานกัน "
" ก็กลับไปหวานที่บ้านกันซิเว้ย วันนี้แกจะไปค้างบ้านพี่เค้าไม่ใช่เหรอ แหมกว่าจะฝ่ามรสุมม่านประเพณีไปได้นะ ทำเอาฉันล่ะเหนื่อยตาม "
" แล้วไง ยังไงก็ผ่านด่านมาได้ก็แล้วกัน "
" เออ ฉันล่ะหน่าย ทีตอนนั้นนะมาทำเป็นพูดดีกับเรา ให้เราไปนั่งเกร็งตามสายตาคนที่บ้านพี่ฟ้า พี่คิดดูนะคะหวานงี้เหงื่อแตกซิกเลย สายตาแต่ละคนนะ โอย.. ตอนนี้คิดถึงแล้วยังหวั่นๆอยู่เลย "
สาวรุ่นพี่ขำให้กับท่าทางหวาดหวั่นของเพื่อนคนรัก แต่ก็อย่างว่านี่ขนาดเธอไม่ใช่ลูกผู้หญิงคนเดียวของบ้านนะ หากแต่ดีหน่อยที่เป็นคนเล็กทุกคนเลยติดที่จะตามใจเธอมาตั้งแต่เด็ก พอเธอประกาศกับที่บ้านว่าจะพาคนรักเข้ามาแนะนำทุกคนก็พลอยตื่นเต้นไปกันใหญ่ ยิ่งตอนเธอบอกว่าคนรักของเธอนั้นเป็นรุ่นน้องที่เป็นหญิงด้วยแล้ว เพียงแค่คิดย้อนอดีต ฟ้าก็ได้แต่แอบขำอยู่ในใจ
" เอาเถอะค่ะยังไงซะ เราก็ผ่านมันมาแล้วนี่นา เก่งกันทั้งคู่เลยนะ "
เด็กสาวรุ่นน้องหันมายิ้มให้กับรุ่นพี่คนสวยแทนคำพูดก่อนที่จะก้มหน้าจัดการของกินบนโต๊ะต่อไป ทำเป็นไม่สนใจต่ออาการสวีทหวานของเพื่อนกับคนรัก .. โอย ไอติมว่าหวานแล้วพอมาเจอคู่นี้ยิ่งเลี่ยนเข้าไปอีก ...
หญิงสาวในชุดเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงยีนส์สีเข้มเดินฮัมเพลงด้วยอารมณ์ที่เบิกบาน มือขวาสาละวนอยู่กับการค้นหากุญแจคีย์การ์ดในกระเป๋าสะพายใบเขื่อง กีกี้เปิดล็อคประตูด้วยความสบายใจ วันนี้เธอไปนั่งทานข้าวที่บ้านของคนรักแอบๆของเธอมา หลายอาทิตย์มานี้ เธอแทบจะกินแล้วก็นอนอยู่ที่นั่นทุกวัน หากไม่ติดว่าวันไหนที่ต้องกลับมาห้องเพื่อค้างกับเพื่อนสาวคนสนิทแล้วล่ะก็ เธอเองก็ไม่อยากจากอกนุ่มๆกายหอมๆของอีกฝ่ายมาหรอก
" ไปไหนมา "
เสียงห้วนๆที่แสดงถึงอารมณ์ของคนถามทำเอาหญิงสาวเจ้าของห้องที่พึ่งจะปิดประตูต้องสะดุ้งจนกุญแจแทบจะหล่นลงพื้นด้วยความตกใจ
" แจน "
" ก็แจนน่ะซิ คิดว่าเป็นใครล่ะกี้ ว่าไงคะไปไหนมานี่มันดึกมากแล้วนะ "
" ทำไมแจนจะมาหาไม่โทรมาบอกกีกี้ ก่อนล่ะคะ มารอนานรึยังเนี่ยะ "
"แจนถามว่ากี้ไปไหนมาถึงได้กลับดึกขนาดนี้ แล้วเดี๋ยวนี้เวลาแจนจะมาหาที่ห้องน่ะต้องโทรบอกกี้ล่วงหน้าแล้วเหรอ กี้ลืมไปแล้วเหรอคะว่าเราอยู่ในฐานะอะไรกัน "
หญิงสาวเขม้นสายตามองดูเพื่อนคนสนิทที่ส่ออาการพิรุธอย่างเห็นได้ชัด เธอมานั่งรอเพื่อนตั้งแต่ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา หลังจากกลับไปบ้านเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ทานข้าวกับที่บ้านแล้วก็ออกมาเลยหวังจะมานั่งอิงกายซบอีกฝ่ายให้สบายใจขึ้นแท้ๆ แต่เธอกลับมาพบแต่ความว่างเปล่าของห้อง
"พอดีกีกี้ไปทานข้าวกับพวกพี่ๆที่กีกี้เคยรับงานถ่ายแบบให้น่ะค่ะ ก็เลยกลับดึกหน่อยนี่ขนาดว่ากีกี้ขอกลับก่อนนะคะแจน ไม่งั้นคงจะดึกกว่านี้แน่ๆเลย แจนทานอะไรมารึยังคะ แล้วมาหากีกี้มีอะไรรึเปล่าเอ่ย "
หญิงสาวเจ้าของห้องพูดพลางเดินไปนั่งลงด้านข้างของผู้มาเยือน ใจเธอเองหวั่นว่าอีกฝ่ายจะไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูดบอก หากเพื่อนคนนี้จับได้เธอยังไม่รู้เลยว่าจะทำหน้ายังไง หญิงสาวเสทำเป็นออดอ้อนเพื่อให้อีกฝ่ายคลายความสงสัย
"ให้มันจริงนะกี้ อย่าให้แจนรู้นะคะว่ากี้โกหกแจน "
"กีกี้จะโกหกแจนไปทำไมล่ะคะ เราไม่มีอะไรต้องปิดบังกันอยู่แล้วนี่ ระหว่างเรามันมากกว่าคำว่าเพื่อนสนิทอีกนะคะแจน "
"บอกตัวเองไว้เถอะค่ะกี้ ว่าระหว่างเราน่ะมันมากกว่าแค่คำว่าเพื่อนสนิท เวลาทำอะไรจะได้คิดถึงแจนบ้าง "
"ค่ะ กีกี้รู้ดี "
หญิงสาวตอบรับเพื่อนด้วยเสียงที่เบานัก เธอเองก็ไม่อยากโกหกเพื่อนนักหรอกแต่ทำไงได้ ในเมื่อความสัมพันธ์ของตัวเธอเองกับหญิงสาวที่มีดีกรีเป็นเลขาของคนที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ข้างๆน่ะ มันเกินเลยไปไกลแล้วไม่ใช่แค่เพียงร่างกายแต่หากรวมไปถึงหัวใจสองดวงด้วย
" แจนแค่จะแวะมาบอกว่า อีกสองอาทิตย์ที่บริษัทจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับ ถือว่าเป็นงานใหญ่นะกี้เพราะว่างานนี้มีบริษัทคู่ค้าจากนอกมาร่วมด้วย งานนี้น่ะเป็นเหมือนประตูที่จะเปิดตัวแจนให้วงการธุรกิจได้รับรู้ อีกไม่นานคุณแม่ก็จะถอนตัวแล้วต่อไปแจนก็ต้องนั่งแท่นเป็นผู้บริหารเต็มตัว งานเลี้ยงครั้งนี้มีความสำคัญกับแจนมากนะ แจนอยากให้กี้ไปร่วมด้วยใยฐานะเพื่อนสาวคนสนิทของแจน "
กีกี้นั่งนิ่งด้วยความตกใจ หากงานเลี้ยงครั้งนี้เป็นงานใหญ่เพื่อเปิดตัวเพื่อนเธอแล้วล่ะก็ แน่นอนว่าเธอเองนั้นต้องไปยืนเคียงด้วยในฐานะที่ตอนนี้ทุกคนพูดกันปากต่อปากว่า เธอกับแจนอยู่ในฐานะที่ก้าวข้ามเกินกว่าคำว่าเพื่อน และแน่นอนว่าหญิงสาวที่เป็นคนรักแบบแอบๆของเธอก็ต้องอยู่ด้วยในฐานะเลขาส่วนตัว เพียงแค่คิดเธอก็เจ็บแทนอีกฝ่ายแล้ว
" ว่าไงล่ะกี้ เงียบทำไม "
" ปละ เปล่าค่ะ กีกี้แค่คิดว่างานใหญ่ขนาดนี้คนก็ต้องเยอะใช่มั๊ยคะ ถ้างั้นกีกี้ต้องเตรียมหาชุดสวยๆไว้แต่เนิ่นๆแล้วเนอะเดี๋ยวจะสวยสู้แจนไม่ได้ "
" ก็ไม่ต้องอะไรมากหรอกค่ะ เพราะว่ากี้น่ะสวยอยู่แล้ว แจนมาบอกแค่นี้แหละเพราะว่าโทรหากี้ไม่ติดเลย "
" อ๋อ แบตคงจะหมดน่ะค่ะ วันนี้ออกไปตั้งแต่เช้า "
" เหรอคะ ช่างเหอะเตรียมตัวไว้ก็แล้วกันนะกี้ ไว้ใกล้ๆวันงานแจนจะบอกอีกทีเรื่องนี้ ว่าแต่กี้ไปอาบน้ำแล้วก็เข้านอนได้แล้วนะ เดี๋ยวแจนกลับบ้านดีกว่าวันนี้กี้จะได้นอนพัก เหนื่อยมาทั้งวันแล้วนี่คะ "
" ค่ะ ขอโทษนะคะที่กีกี้ปล่อยให้แจนมานั่งรอตั้งนาน "
" จะขอโทษทำไมคะ แจนน่าจะบอกกี้ล่วงหน้านี่นา ช่างเหอะแจนกลับก่อนแล้วกัน พักเยอะๆนะคะเดี๋ยวหน้าเหี่ยวแล้วจะสวยไม่ทันวันงานนะ "
กีกี้เดินไปส่งเพื่อนสาวด้วยใบหน้าที่ยังคงวิตกครุ่นคิดอยู่เช่นเดิม แจนคอยลอบสังเกตด้วยความสงสัย เพื่อนเธอกำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่แน่นอน
" ขับรถดีๆนะคะแจน "
เพียงคล้อยหลังที่เพื่อนสาวคนสนิทออกไปจากห้อง กีกี้ก็หยิบกระเป๋าใบเดิมที่พึ่งจะโยนแหมะไว้ที่โซฟาขึ้นมา คว้ากุญแจรถ สวมรองเท้าและก้าวออกจากห้อง หญิงสาวเดินกึ่งวิ่งลงลิฟท์ไปยังลานจอดรถ สตารท์เครื่องและขับออกไปทันที จุดหมายที่ต้องการไปคือที่ ที่ตนพึ่งจากมาเมื่อไม่นานนี้เอง
เพียงไม่นานที่ใจจะไปถึงกีกี้จอดรถเทียบหน้ารั้วประตูบ้าน เสียงเบรครถของผู้มาเยือนทำเอาเจ้าของบ้านต้องรีบลุกออกจากเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน หญิงสาวมองลอดผ้าม่านหน้าต่างในห้องนอนออกมาดูก่อนจะเห็นว่าฝ่ายที่มาเยือนคือใคร
ทันทีที่ประตูบ้านเปิดออก กีกี้ก็เดินเข้าบ้านโดยไม่ตอบคำถามใดๆที่อีกฝ่ายเอ่ยถาม ตอนนี้สมองเธอยังไม่พร้อมจะคิดเรื่องอะไรทั้งนั้น นอกจากต้องการหาความสุขและความสบายใจให้ตน หญิงสาวก้าวขึ้นไปยังห้องนอน วางกระเป๋าไว้บนโต๊ะตัวเดิมที่เจ้าของห้องยังคงทำงานค้างอยู่
" มีอะไรรึคะกี้ ลืมอะไรเหรอ "
คำถามเดิมที่เจ้าตัวถามเป็นรอบที่สองแล้ว ตั้งแต่เจอหน้าอีกฝ่าย ทั้งๆที่หญิงสาวตรงหน้าพึ่งจะกลับไปทำไมหนอถึงได้บึ่งรถกลับมาอย่างนี้
กีกี้ไม่ตอบ แต่เดินไปปิดประตูห้องนอนแทน และคว้าเอาเจ้าของเสียงคำถามเข้ามากอดแนบแน่น กายอุ่นๆ กลิ่นหอมๆนี่แหละที่เธอถวิลหา นุชทำได้แค่เพียงกอดตอบและซุกหน้าอยู่กับไหล่ของอีกฝ่ายแบบนั้น หากคนรักของเธอพร้อมเมื่อไหร่ก็คงจะพูดออกมาเอง
" นุชคะ คืนนี้กีกี้ค้างนี่นะ "
ยังไม่ทันที่เจ้าของบ้านจะเอ่ยตอบอะไร กีกี้ก็ประกบปากจูบอีกฝ่ายนิ่ง มือที่กอดอยู่เมื่อครู่กลับเปลี่ยนเป็นลูบไล้ไปตามร่างของคนรัก ยามที่ความร้อนจากมือไล้ผ่านเนื้อผ้าบางเบาทำเอากายของหญิงสาวร้อนไปทั่ว นุชหาได้ขัดขืนอะไรอีกฝ่ายหากแต่ตอบรับทุกสัมผัสที่กำลังล่วงล้ำกายเธออย่างเต็มใจ จูบที่เร่าร้อนแต่อ่อนหวานน่าหลงใหล ไหนจะปลายนิ้วที่จัดการเกี่ยวเอาชุดนอนเธอออกไปจากร่างนั่นอีก สิ่งที่เธอใหลหลงมันยากเกินกว่าจะถอนตัวออกมาได้
กีกี้หมุนกายดันให้อีกฝ่ายยืนแนบชิดติดประตูห้อง ในขณะที่กดริมฝีปากอุ่นลงตามเนื้อผิว ไล่จากซอกคอลงไปยังเนินอกที่ปกปิดด้วยบราสีเหลืองอ่อน หญิงสาวเลื่อนมือที่ลูบไล้สะโพกคู่สวยขึ้นไปปลดสิ่งไม่พึงประสงค์ต่อการล่วงล้ำออกจากร่างกายคนรัก ทันทีที่บราตัวสวยหลุดออกกีกี้ก็ซุกหน้าลงสูดดมหาความหอมหวานจากอกคู่งามทันที
นุชแอ่นกายรับสัมผัสจากปลายลิ้น ความนุ่มละมุนที่ได้รับทำเอาตัวเธอรู้สึกแทบหมดเรี่ยวแรง ทุกอณูของร่างกายพลันรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วเมื่อมือของอีกฝ่ายเลื่อนลงไปเคล้นคลึงยังต้นขาด้านใน หญิงสาวเผลอปล่อยเสียงแห่งความพึงใจออกมาเบาๆเมื่อคนรักประกบปากกับกายเธอด้วยความรุนแรงที่มากขึ้น
" กี้คะ ไปที่เตียงเถอะนุชจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว "
ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายร้องขอเป็นรอบที่สอง กีกี้หยุดการรุกล้ำแล้วลากพาคนรักไปนอนบนเตียงทันที เธอจัดการปลดอาภรณ์จากร่างของตนจนหมดแล้วจึงเดินไปปิดไฟห้องนอนเปลี่ยนเป็นเปิดโคมที่หัวเตียงแทน แสงอ่อนๆจากโคมทำให้เธอเห็นว่าขณะนี้ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงกำลังวิงวอนร้องขอเธอด้วยสายตา ที่ยั่วหัวใจมากเพียงใด กีกี้ไม่รอช้า ก้มลงไปจูบเบาๆยังต้นขาด้านในของอีกฝ่าย ที่ตอนนี้แอ่นกายขึ้นมาเพื่อรอรับสัมผัสจากเธอ
" กี้ขา ได้โปรด "
ทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ ใบหน้าของกีกี้ก็ซุกลงบนจุดที่หญิงสาวต้องการ นุชเปล่งเสียงแห่งความสุขออกมาเบาๆยามที่ปลายลิ้นของคนรักแตะเข้ากับจุดสัมผัสนั้น และยิ่งดังมากขึ้นเมื่ออีกฝ่ายเริ่มรุกล้ำเข้ามาภายในกาย ยามนี้ไม่ว่าอะไรก็มาหยุดเพลงรักของทั้งคู่ไม่ได้
ในขณะที่หญิงสาวทั้งสองกำลังบรรเลงเพลงรักกันอยู่บนเตียงในบ้านไม้หลังเล็ก หญิงสาวอีกคนที่จอดรถซุ่มดูอยู่ภายนอกรั้วบ้านกำลังมีใบหน้าที่เคร่งเครียด หากว่าเธอไม่เอะใจและสงสัยในพฤติกรรมของเพื่อนสาวคนสนิท หากว่าเธอไม่แอบขับรถตามเพื่อนเธอมา เธอคงจะไม่ได้เห็นเงาของผู้หญิงสองคนที่ยืนกอดจูบกันผ่านแสงไฟในห้อง เธอคงจะโง่ไปอีกนานที่ไม่รู้ทันความสัมพันธ์ที่รุดหน้าไปไกลของคนทั้งคู่ เวลานี้เธอรู้ดีว่าในห้องที่เห็นเพียงแสงสลัวๆนั้นคนทั้งคู่จะพร่ำพรอดกอดรัดหาความสุขกันไปถึงไหน ยามนี้แจนไม่รู้ว่าเธอจะทำเช่นไรดีหญิงสาวทำได้แค่เพียงขับรถออกจากบริเวณนั้นไปอย่างสับสนในหัวใจ
By : hJIko   Date : 22 Dec 2007 00:24
|