อุบายรัก ... กับดักหัวใจ ++ ตอนที่ 13 ++
หญิงสาวเคร่งเครียดอยู่หน้าจอโน้ตบุ๊คนิ้วเรียวไล่ดูรายชื่อตามลำดับ ตอนนี้เธอเองกำลังอยู่ในอาการที่เรียกได้ว่าทั้งสับสนและสงสัยต่อข้อมูลที่ได้รู้มา เรื่องไม่ได้ยุ่งเพียงคนแค่คนเดียวแต่กลับเกี่ยวพันไปถึงครอบครัวที่มีนามสกุลและอิทธิพลอีกครอบครัวหนึ่ง หากเธอจะต้องเข้าไปข้องเกี่ยวด้วยนั้น ปัญหามากมายคงจะตามรุมเธอไม่ขาดสายอย่างแน่นอน
แจนเอนกายพิงเบาะเก้าอี้ตัวโปรด เวลานี้เธอจะต้องเริ่มตรงไหนดีกันเล่า ผู้หญิงที่เธอเคียดแค้นแท้จริงแล้วมีประวัติที่น่าสงสารแต่เธอกลับไม่อาจหยุดความชิงชังไว้ได้ เป้าหมายที่เธอหวังใช้ในการแก้แค้นก็กำลังเข้ามารุกรานพื้นที่ในใจเธอเอง หญิงสาวหวนนึกถึงเพื่อนสาวคนสนิทที่มีส่วนร่วมกับชีวิตเธอมากที่สุด แจนเอื้อมมือคว้าเจ้าโทรศัพท์พกพารุ่นจิ๋วออกมา พลันกดไล่ไปยังรายชื่อเพื่อนสาวแต่ไม่ว่าจะกดไปสักกี่รอบเพื่อนเธอก็หาได้รับสายของเธอไม่
" แม่คนนี้ก็ บทจะอยากปรึกษาเมื่อไหร่ หายหัวไปซะทุกที กี้นะกี้ "
หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบาๆ พลางปล่อยสายตาทอดมองดูฟ้ายามค่ำคืน คืนนี้เมฆหนามองแทบไม่เห็นหมู่ดาวสักดวงคงมีแต่เพียงแสงจันทร์ที่แลดูนวลตาเท่านั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงหวานใสจากอีกฟากประตู
" พี่แจนคะ หวานเข้าไปได้มั๊ยคะ "
เธอขานรับตามเสียงนั้น ร่างเล็กๆของเด็กสาววัยแรกรุ่นในชุดนอนกระโปรงบางใสก้าวเข้ามาในห้องของเธอ แจนเพ่งสายตามองร่างนั้นผ่านแสงจันทร์ที่ส่องลอดผ่าน หากไม่ติดเสื้อคลุมแขนยาวที่เจ้าตัวคลุมไว้ เธอคงเห็นไปถึงข้างในแล้ว เพียงแค่คิดเธอเองก็นึกครึ้มใจ
" หวานเอาขนมปังกับชาร้อนมาให้ คิดว่าวันนี้พี่แจนคงจะดึกอีก "
" ขอบคุณนะคะ แต่อีกเดี๋ยวพี่ก็จะนอนแล้วล่ะ "
" เหรอคะ งานยุ่งมากเลยเหรอคะวันนี้ หวานเห็นพี่นุชเองก็วุ่นน่าดูเลย "
" ก็นิดหน่อยน่ะค่ะ พอดีพี่ให้คุณนุชเคลียร์บัญชีนิดหน่อย "
" เหรอคะ "
แจนมองเด็กสาวยืนนิ่งอยู่ข้างโต๊ะทำงานเธอพลาง สายตาก็ไล่สำรวจรูปร่างของอีกฝ่ายตามสมอง เด็กสาวตรงหน้าเธอไม่เคยจะปิดความรู้สึกได้มิดชิดนัก ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ตอนนี้เธอเองกำลังมีปัญหาที่หนักอกในเรื่องของบริษัท เธอรู้สึกว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่กำลังจะก่อปัญหาให้กับบริษัทของคุณแม่ หากไม่แล้วตอนนี้เธอคงจะมีอารมณ์หยอกล้อคนตรงหน้าให้เกิดการขวยเขินเธอไปแล้ว
" ถ้างั้น หวานไม่กวนพี่แจนดีกว่าค่ะ "
" เดี๋ยวค่ะหวาน มานี่เดี๋ยวซิ "
" คะ "
เด็กสาวหันหลังกลับไปยืนที่เดิม พร้อมๆกับที่เจ้าของห้องลุกขึ้นมาจับมือเธอไว้ หวานมองดูมือตัวเองที่โดนจับกุมแล้วแหงนมองดูใบหน้าของอีกฝ่าย เธอรู้สึกใจเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อเห็นว่าดวงตาคู่สวยนั้นกำลังจับจ้องเธอเช่นกัน
" พี่แจน เอ่อ.. มีอะไรให้หวานช่วยเหรอคะ "
" พี่อยากให้หวานช่วยเรื่องนึง แต่ไม่รู้ว่าหวานจะเต็มใจช่วยพี่มั๊ย "
" เรื่องอะไรรึคะ สำหรับพี่แจนแล้วหวานเต็มใจทำทุกอย่างแหละค่ะ "
" ถ้างั้นมานี่ซิคะ "
แจนนั่งลงพร้อมทั้งดึงเอาร่างเล็กๆนั้นปลิวตามมานั่งแหมะอยู่บนตักเธอเอง หวานเองรู้สึกเขินอายแต่ก็แอบดีใจอยู่ข้างในลึกๆ มีไม่กี่ครั้งหรอกที่เธอจะได้มีโอกาสใกล้ชิดอย่างนี้กับหญิงสาวในหัวใจ
" หวานคะ วันนี้พี่เหนื่อยจังเลย "
เด็กสาวมองดูท่าทางออดอ้อนเล็กๆที่พี่แจนของเธอส่งมาให้ ไม่ว่าจะเสียงที่ทอดอ่อนหรือแววตาละห้อยนั้นอีก ใจเธอไม่แข็งพอที่จะต่อต้านความรู้สึกที่ซึมลึกอยู่ในทุกอณูของใจไปได้ หวานค่อยๆโอบคอรั้งอีกฝ่ายให้ซบใบหน้าเข้ากับร่างเธอ ปากก็พร่ำปลอบเป็นกำลังใจให้อีกฝ่ายอยู่ไม่ขาด
" หวานคะ พี่ขออะไรหวานได้มั๊ย "
ไ พี่แจนอยากได้อะไรหรือคะ "
" ช่วงนี้พี่เหนื่อยกับงานมากๆเลยไม่ค่อยมีเวลาว่างให้กับเราเท่าไหร่ อีกไม่กี่วันเราก็จะเปิดเทอมแล้วต่างคนต่างก็คงจะยุ่งน่าดู พี่ไม่อยากให้เราคิดมากหรือน้อยใจ "
" หวานเข้าใจค่ะว่าพี่แจนงานยุ่ง ก็เป็นถึงลูกสาวเจ้าของบริษัทนี่คะ "
" เข้าใจก็ดีแล้ว "
" ว่าแต่แค่นี้เหรอคะเรื่องที่พี่จะคุยกับหวาน "
" ก็ไม่หรอก "
หญิงสาวเงยหน้ามองสบตาอีกฝ่าย หลายวันมานี้เธอเองใกล้ชิดกับเด็กน้อยตรงหน้ามากขึ้นหว่าเดิมหลายเท่า ทุกครั้งที่มีปัญหาเรื่องงาน อีกฝ่ายมักจะเข้ามานั่งเหย้าแหย่เธอให้หายเครียดได้ซะทุกครั้งไป
" แล้วว่าไงล่ะคะ เดี๋ยวก็เสียเวลาทำงานมากไปกว่านี้หรอกค่ะ "
" ก็ไม่ว่าไงค่ะ แค่อยากให้อยู่ใกล้ๆเผื่อจะหายเหนื่อยบ้าง "
" แล้วหายมั๊ยล่ะคะ "
" ก็ดีขึ้นค่ะแต่ว่า ถ้าอยากให้หายจริงๆคงต้อง "
" ต้องอะไรคะ "
สิ้นสียงคำถามจากเด็กสาวบนตัก แจนก็จัดการโน้มใบหน้าของอีกฝ่ายให้ลงมาหา พลางประกบปากลงบนริมฝีปากนุ่มน่าลิ้มลองของเจ้าตัวที่ยังคงอึ้งอยู่ เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ทั้งคู่ไม่อาจรู้ได้คงมีเพียงแค่รสสัมผัสหวานละมุนที่อุ่นไปถึงใจเท่านั้นที่สองสาวสองวัยรับรู้ ตราบจนกระทั่งประตูถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของผู้หญิงที่เธอชิงชังก้าวเข้ามา
" น้องแจนคะ น้ามีเรื่องอยากคุยด้วย "
" คุณน้า "
" ยัยหวานเราออกไปก่อน เดี๋ยวนี้ "
เหมือนคำสั่งเฉกเช่นบ่อยครั้งที่เด็กสาวเคยได้ยินมา แต่วันนี้เธอกลับไม่อยากแยกจากพี่แจนของเธอไปไหนทั้งสิ้น ฝ่ายหญิงสาวในใจเธอก็ยังคงนั่งนิ่งเช่นเดิมมือที่โอบกอดเธออยู่ก็หาได้คลายลง
" น้องหวานกลับห้องไปก่อนเถอะค่ะ นะคะคนดี "
" แต่ว่า "
" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เชื่อพี่ซิไหนเราเคยสัญญากับพี่ว่าจะไม่ดื้อไงคะ "
" ค่ะ "
หวานค่อยๆยืนขึ้นตามคำบอกของอีกฝ่าย สายตาที่คงไว้ซึ่งความเป็นห่วงยังคงถูกส่งมาอย่างไม่ขาดสาย เธอต้องตัดใจลุกออกมาจากวงแขนอบอุ่นคู่นั้น รวมทั้งความอาลัยที่มีต่อสัมผัสเมื่อครู่นั่นด้วย เธอเหลือบสายตามองดูคุณน้าคนสวยของตนที่ยืนเงียบไม่พูดไม่จาอะไร แต่ในดวงตาของคุณน้าเธอแลเห็นทั้งความผิดหวังและเสียใจ เธอเองก็ไม่ได้ต่างกัน
" มีอะไรรึคะ คุณน้าเรไร "
หญิงสาวเปิดฉากการสนทนาทันทีที่ประตูปิดลง เธอไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะบุกมาเร็วขนาดนี้ เรไรเองก็เช่นกันเธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าหญิงสาวที่นั่งไขว่ห้างจ้องเธออยู่ตรงหน้า จะรุกหน้าและมีอิทธิพลกับหลานสาวของเธอได้รวดเร็วนัก เพราะเธอเองที่ชะล่าใจว่าหลานสาวยังเด็กอีกฝ่ายคงไม่กระทำการรุกมากมายถึงขนาดนี้
" ว่าไงล่ะคะ "
" น้าทราบว่าคุณแจนคงจะทราบดีอยู่แล้วว่าเรื่องอะไร "
" แจนไม่ทราบหรอกค่ะคุณน้า แจนว่าคุณน้าพูดเองดีกว่าแจนไม่อยากเดา "
" เรื่องของหวาน น้าขอล่ะค่ะ "
" ขออะไรล่ะคะ "
" น้าไม่ทราบว่าระหว่างคุณกับยัยหวานไปถึงไหนกันแล้ว แต่น้าอยากให้มันหยุดอยู่แค่นี้ มันไม่เหมาะสม "
" อะไรล่ะคะที่คุณบอกว่าไม่เหมาะสม คุณเอาอะไรมาวัด ความรู้สึกผิดจากข้างในรึยังไง "
" หมายความว่าไงคะ "
" อย่ามาทำเป็นหน้าซื่อตาใสไม่รู้เรื่องเลยค่ะคุณน้า แจนว่าคุณน้าไปถามน้องหวานดีกว่านะคะว่าอยากจะหยุดความสัมพันธ์ระหว่างน้องเค้ากับแจนไว้เพียงแค่นี้รึเปล่า "
" คุณก็ทราบดีว่ายัยหวานคงจะไม่ "
" ในเมื่อคุณน้าเองก็รู้ว่าไม่มีทางที่หลานสาวของคุณน้าจะตัดใจจากแจน แล้วคุณน้าจะมาขัดขวางเรื่องของเราทำไม ในเมื่อหลานสาวของคุณน้าน่ะเต็มใจแล้วก็เป็นฝ่ายเสนอตัวให้กับแจนเอง "
" คุณแจน "
เรไรตกใจกับคำพูดที่อีกฝ่ายตอกกลับใส่เธอ จากที่เคยมีคำพูดร้อยแปดอยากจะเอ่ยกับหญิงสาวคราวลูกคนนี้แต่แล้วกลับรู้สึกว่ามันช่างยากเหลือเกินที่จะพูดตามที่ใจนึก
" ทำไมรึคะ หรือคุณน้าจะบอกว่าสิ่งที่แจนพูดออกไปน่ะมันผิด ฝ่ายที่เดินเข้ามาให้ท่าน่ะมันหลานสาวของคุณ ฝ่ายที่เรียกร้องหาความอบอุ่นก็คือ หลานสาวของคุณ และฝ่ายที่อ้อนวอนร้องขอความรักจากแจนน่ะก็คือ หลานสาวของคุณ ถ้าอยากจะให้แจนหยุดล่ะก็ แจนแนะนำเลยนะคะว่า ไปห้ามหลานสาวของตัวเองให้ได้ซะก่อนแล้วค่อยมาอ้อนวอนร้องขอจากแจน "
" คุณแจน นี่คุณ คุณทำไปเพื่ออะไร "
" ก็จะตอบแทนให้สมกับที่คุณน้าดูแลคุณแม่ของแจนมาตลอดไงล่ะคะ จะตอบแทนให้แบบสมน้ำสมเนื้อเลยล่ะค่ะ "
" หมายความว่า "
" อย่าคิดนะคะว่าสิ่งที่ทำไว้จะไม่มีใครรู้ใครเห็น อย่างน้อยก็แจนคนนึงล่ะค่ะที่รู้ ที่เห็นเต็มๆสองตาของตัวเอง ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เชิญค่ะ "
เรไรทำได้แค่เพียงครางชื่อของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา เธอไม่สามารถจะถกเถียงอะไรกับหญิงสาวคนนี้ได้เลย เธอไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กสาวตัวน้อยที่ยิ้มอย่างสดใสอยู่เสมอคนนั้น จะกลับกลายมาเป็นหญิงสาวที่แสนจะร้ายกาจเช่นนี้ เธอตัดสินใจจะเบนเข็มไปพูดคุยเรื่องในวันนี้กับหลานสาวของเธอเอง อย่างน้อยหลานเธอก็ต้องเชื่อฟังเธออย่างแน่นอน
" อ้อ! คุณน้าคะ อย่าลืมปิดประตูด้วยนะคะ ขอบคุณ "
หญิงสาวเหยียดยิ้มให้อีกฝ่ายที่ยืนจ้องมองเธออยู่ เรไรทำได้แค่เพียงหันหลังกลับและก้าวเดินออกไปจากห้องนี้ ทันทีที่ประตูปิดลงดังเดิมแจนก็หมุนเก้าอี้กลับมานั่งจ้องหน้าจอโน้ตบุ๊คของตนต่อไป เธอพยายามจะตั้งสมาธิเพื่อทำงานต่อแต่ก็ทำไม่ได้ ตอนนี้เธออยากคุยกับเพื่อนสาวคนสนิทที่สุด แจนหยิบมือถือขึ้นมากดหาอีกฝ่ายแต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งเพื่อนเธอก็ยังไม่รับเช่นเดิม
" ยัยกีกี้นี่นะ บทจะหายล่ะก็ไม่เห็นหัวเลย โธ่เว้ย!ผิดแผนหมดเพราะแม่คนนั้นแท้ๆ "
" ฮัดเช้ย!! "
เสียงจามของผู้ที่บุกรุกขึ้นมาชั้นบนโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้เธอหันไปมองตามเสียงนั้นก่อนจะพบว่าหญิงสาวที่ทำให้ใจเธอเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ตอนนี้ยืนอยู่หน้าห้องนอนเธอ ในลักษณะอาการที่เรียกได้ว่า ต่างฝ่ายต่างอึ้ง
" คุณกีกี้ ขึ้นมาทำไมคะเนี่ยะ "
" ก็เห็นว่าคุณขึ้นมาตั้งนานแล้ว เป็นห่วงกลัวจะเป็นลมล้มไปอีกรอบ ก็ขึ้นมาดูน่ะนะ ทำไมคะคิดว่ากีกี้ขึ้นมาทำอะไรล่ะ "
" เปล่า ยังไม่ได้คิด "
" ห๊า อะไรคะที่ยังไม่คิดน่ะ "
" ก็ "
" ค๊า ว่าไงล่ะ "
" ช่างเถอะค่ะ คุณกีกี้ช่วยลงไปรอดิฉันข้างล่างได้มั๊ยคะ ขอเวลาสักครู่เดียวไม่นานหรอกค่ะ "
หญิงสาวพยายามกระชับปมผ้าขนหนูในมือให้แน่น เธอเร่งเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เร็วกว่าปกติแล้วเชียว ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะขึ้นมาตามถึงข้างบน โดยเฉพาะเวลานี้เธอและอีกฝ่ายอยู่ใน สภาพและสถานที่ ที่เรียกได้ว่าไม่เอื้อต่อเธอเท่าใดนัก
กีกี้มองดูหญิงสาวตรงหน้าที่กุมผ้าเช็ดตัวไว้แน่นด้วยความนึกสนุก เธอสาวเท้าก้าวไปหาอีกฝ่ายช้าๆ รอยยิ้มน้อยๆผุดขึ้นตามลำดับการก้าวเดิน ยิ่งเธอสาวท้าวเร็วเท่าไหร่ อีกฝ่ายก็ถอยเท้าหนีเร็วเท่านั้น
" หนีกีกี้ทำไมล่ะคะ คุณเลขา "
" ดิฉันไม่ได้หนี "
" ถ้างั้นอย่าถอยหนีกีกี้ซิคะ ระวังถอยเพลินสะดุดอะไรล้มลง ผ้าหลุด อย่าหาว่ากีกี้ไม่เตือนนะคะ "
" จะบ้าเหรอคุณ "
" นี่คุณเลขาก็บอกว่าอย่าหนีซิ เดี๋ยวคุณ เดี๋ยวก็ล้มหรอก ว๊าย!! "
ทันทีที่เสียงร้องเงียบลงหญิงสาวสองคนล้มกองกันอยู่กับพื้นห้องบริเวณข้างเตียงนอน นุชค่อยๆดันร่างตันเองให้ลุกขึ้นมานั่งในสภาพมึนงงเล็กน้อย เมื่อครู่เธอถอยหนีหญิงสาวอีกคนจนขามาสะดุดเอากับขอบเตียงนอน ปกติเตียงก็ไม่ได้ใหญ่อะไรนักหนา แต่ทำไมวันนี้เธอถึงสะดุดมันล้มได้ก็ไม่รู้ เธอมองไปรอบๆห้องเพื่อหาร่างของหญิงสาวตัวต้นเหตุก่อนจะพบว่าตอนนี้นอนแอ้งแม้งอยู่ใต้ตัวเธอนั่นแหละ แถมยังมองมาทางเธอด้วยสายตาชวนวาบหวิวอีกตะหาก
" คุณกีกี้ เป็นอะไรมากรึเปล่าคะ เจ็บมากมั๊ย "
" ..... "
" คุณกีกี้คะ พูดอะไรบ้างซิ คงไม่ได้ล้มลงหัวกระแทกอะไรหรอกนะเนี่ยะ นี่คุณ คุณกีกี้คะ "
ยิ่งอีกฝ่ายนอนนิ่งไม่พูดไม่จาเท่าไหร่ ใจเธอก็ยิ่งหวาดหวั่นมากเท่านั้น นุชพยายามแตะดูตามตัวเพื่อหาบาดแผล ยิ่งไม่พบก็ยิ่งกังวลกลัวว่าจะกระเทือนภายใน ... ถ้าคุณกีกี้เป็นอะไรขึ้นมา มีหวังโดนคุณแจนไล่ออกแน่ๆ ...
" คุณกีกี้คะ อย่าเอาแต่เงียบซิคะ พูดอะไรบ้าง "
" น่ากอด "
" ห๊า!! ว่าไงนะคะ คุณกีกี้เมื่อกี๊พูดว่าอะไรนะคะ "
" ขาว น่ากอด "
" หืม อะไรคะ อะไรขาว "
หญิงสาวนิ่งคิดตามที่อีกฝ่ายพูด ก่อนจะนึกได้ว่าเมื่อครู่ก่อนที่เธอจะล้มลงคลุกฝุ่นบนพื้น ร่างกายของตนมีเพียงแค่ผ้าขนหนูสีขาวพันกายอยู่แค่นั้น และหญิงสาวก็ได้คำตอบทันทีที่ก้มลงสำรวจความเรียบร้อยของตนว่าอะไรที่อีกฝ่ายพูดถึงเมื่อครู่
กีกี้คว้าข้อมือของอีกฝ่ายไว้ทันก่อนที่หญิงสาวที่นั่งทับเธออยู่เมื่อครู่จะลุกขึ้นยืน เป็นผลให้อีกฝ่ายล้มลงบนตัวเธออีกครั้งแต่ครั้งนี้แนบชิดกันยิ่งกว่าเก่า ใบหน้าของอีกฝ่ายแทบจะติดกับหน้าเธอ หน้าอกของอีกฝ่ายก็เบียดทับอกเธอเช่นกัน
" อย่าลุกนะคะ ถ้าลุกล่ะก็กีกี้คงหยุดไม่ได้ "
" หมาย หมายความว่าไงคะ "
" กีกี้ ขอนะคะ คุณเลขาอย่าลุกขึ้นเลยนอนอยู่แบบนี้แหละค่ะถ้าลุกกีกี้คงห้ามใจไม่ไหวแน่ๆ "
" แต่ว่าเดี๋ยวคุณกีกี้จะเมื่อย ตัวดิฉันหนักนะคะ "
" ไม่หรอกค่ะ เบายังกะนุ่นที่สำคัญนุ่มแล้วก็หอมออก ให้นอนอยู่แบบนี้ทั้งคืนกีกี้ก็ยอม "
" อย่าเลยค่ะ ยังไงซะตัวดิฉันเองคงหอมสู้ท่านรองฯไม่ได้หรอกค่ะ ปล่อยดิฉันเถอะค่ะคุณกีกี้ "
" รู้ได้ยังไงล่ะคะว่า สู้ไม่ได้ ยังไม่ได้พิสูจน์เลย "
" จะบ้ารึคะ "
หญิงสาวพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดของอีกฝ่าย แต่ยิ่งดิ้นก็เหมือนยิ่งรัดแน่นเข้าไปอีก กีกี้มองดูหญิงสาวในอ้อมกอดดิ้นไปมาด้วยความรื่นรมย์ ... ยิ่งดูใกล้ๆ ยิ่งน่ารัก ไหนจะแก้มแดงๆนั่นอีกล่ะน่าหอมซะจริงๆ ...
" ไม่ใส่แว่นน่ารักดีออก "
" ว่าไงนะคะ "
" กีกี้บอกว่า คุณเลขาตอนไม่ใส่แว่นนี่น่ารักดีค่ะ ตาสวยดีขอกีกี้ดูให้ชัดๆอีกหน่อยซิ นะ "
" อ๊ะ ! อย่าเลยค่ะ ไม่น่ารักอะไรซะหน่อย "
" ใครว่าละคะ สำหรับกีกี้ถือว่าน่ารักนะ "
เพียงแค่แววตากับคำพูดเบาๆหลอมรวมกับความแนบชิดกัน ทำเอาใจของทั้งคู่เตลิดไปไกลฝ่ายเลขาของเพื่อนสนิทนั้นหรือหน้าแดงไปจนแทบจะถึงใบหู ส่วนตัวกีกี้นี่แทบไม่ต้องพูดถึง สายตาเธอแสดงออกชัดเจนว่าตนเองนั้นคิดต้องการสิ่งใด มือไม้เริ่มไม่อยู่กับที่ยิ่งไร้อาภารณ์คุ้มกายของอีกฝ่ายด้วยแล้ว มันช่างเย้ายวนหัวใจเธอมากนัก
" อย่าค่ะคุณกีกี้ "
" ทำไมล่ะคะ กลัวเหรอไม่ต้องกลัวหรอกค่ะไม่มีอะไรที่น่ากลัวเลยซักนิดเดียว "
" จะไม่ให้นุชกลัวได้ยังไงล่ะคะ ในเมื่อ "
" เมื่ออะไรรึคะ "
กายสั่นไหวของเลขาคนสวยเหมือนสิ่งเร้าความต้องการของเธอ กีกี้ไม่รอให้โอกาสงามๆแบบนี้ผ่านเลยไป เธอพลิกกายมาเป็นฝ่ายอยู่เหนือร่างของอีกฝ่าย ก้มใบหน้าลงประทับจูบที่ตนถวิลหามาตลอดความร้อนจากร่างกาย ความหวานจากรสจูบ และความวาบหวามในรสสัมผัส หญิงสาวรู้ดีว่าเธอห้ามใจไว้แค่จูบที่หวานละมุนนี้ไม่ได้
" คุณเลขาคะ กีกี้ต้องการคุณ "
เสียงกระซิบเพียงแผ่วเบาเป็นสิ่งสุดท้ายที่นุชรู้สึกถึง เธอรู้ว่าเหตุใดเธอจึงยอมให้อีกฝ่ายจูงมือพาขึ้นเตียง เธอไม่รู้เลยว่าทำไมถึงยอมให้กีกี้สัมผัสทุกส่วนแม้กระทั่งส่วนที่เธอหวงแหน เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้โอบกอดอีกฝ่ายไว้แน่น ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกมีความสุขยามที่กอดรัดกัน แต่สิ่งที่เธอรู้คือ ตอนนี้เธอกำลังยอม ยอมตกเป็นของหญิงสาวคนนี้และรู้ดีว่าเธอเต็มใจ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
By : hJIko   Date : 17 Aug 2007 00:08
|