อุบายรัก ... กับดักหัวใจ ++ ตอนที่ 12 ++
เสียงบอกลาจากปากของสองสาวตัวน้อยแว่วจากไปพร้อมกับเสียงรองเท้าที่ห่างออกไปตามระยะทาง ชรัญญาแอบถอนหายใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าตอนนี้ล่วงเลยเวลาออกงานมาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว นี่ขนาดผู้ช่วยของเธออยู่ช่วยงานเกินเวลาด้วยก็ตามที มือเล็กเรียวเลื่อนลงกุมยังท้องบางเรียบ นี่เธอเคลียร์งานตั้งแต่ช่วงสายจนเย็นยังไม่มีเวลาลงไปหาอะไรทานเลย ที่ตกถึงท้องมีเพียงแค่กาแฟสองแก้วกับขนมปังอีกหนึ่งชิ้นเท่านั้น
" ยังไม่กลับบ้านอีกรึคะคุณนุช "
เสียงเอ่ยถามจากสาวสวยที่เป็นนายจ้างทำเอาเธอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม แจนมองดูท่าทางที่เลขาคนเก่งมักจะแสดงออกยามที่เธอเอ่ยถามไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามทีด้วยความนึกขัน เออหนอคนบางคนนี่ก็ช่างสม่ำเสมอต่อหน้าที่เสียจริง
" ไม่ต้องทำเหมือนรายงานการประชุมก็ได้ค่ะคุณนุช นี่เวลาเลิกงานแล้วนะคะ "
" ค่ะ ท่านรองฯ "
" แล้วว่าไงล่ะคะ ทำไมยังไม่กลับอีกสองผู้ช่วยตัวป่วนก็กลับไปแล้วนี่คะเห็นคุณแม่โทรมาบอกแล้ว แจนก็นึกว่าคุณนุชจะออกไปพร้อมกันซะอีก เย็นมากแล้วแถมดูท่าฝนจะตกซะด้วย เมฆงี้ครึ้มมาแต่ไกลเลย "
" อีกสักพักน่ะค่ะท่าน เดี๋ยวดิฉันเก็บเอกสารเข้าตู้หมดก็กลับแล้วล่ะค่ะ "
" เหรอคะ ถ้ายังไงกลับพร้อมแจนก็ได้นะคะ แล้วก็แจนบอกแล้วว่าเวลานี้เลิกงานแล้ว ไม่ต้องเรียกว่าท่านรองฯ ไม่ต้องมีดิฉัน มีแค่คุณนุชกับแจน โอเคมั๊ย "
" ค่ะ ท่านเอ๊ย! คุณแจน "
" ดีค่ะ ว่าไงล่ะคะเดี๋ยวกลับพร้อมแจนมั๊ยคะดูท่าฝนคงใกล้ตกแล้ว "
" ไม่เป็นไรค่ะคุณแจนอย่ารอเลยค่ะ คุณแจนรีบกลับเถอะค่ะเดี๋ยวฝนตกขับรถกลับลำบากที่สำคัญกรุงเทพฯรถติดอย่างกับอะไรดีเสียเวลาคุณแจนเปล่าๆ "
" เอางั้นเหรอคะ นี่กีกี้ก็หนีกลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้แม่คนนี้นี่ "
ทันทีที่ได้ยินชื่อเพื่อนสาวคนสวยของนายจ้าง มือที่กำลังง่วนอยู่กับการเก็บแฟ้มเอกสารก็หยุดชะงักลงชั่วครู่ก่อนจะทำหน้าที่ของตนต่อไปด้วยใจที่หวั่นไหวเล็กน้อย
" คุณแจนรีบกลับเถอะค่ะ เย็นมากแล้วอีกสักพักนุชก็จะกลับแล้วล่ะค่ะ "
" เหรอคะ ถ้างั้นแจนกลับก่อนนะคะรีบกลับนะคะคุณนุชเดี๋ยวจะโดนฝน "
" ค่ะ สวัสดีค่ะ "
ทันทีที่ร่างของนายสาวพ้นผ่านจากมุมเสาเพื่อก้าวต่อไปยังประตูลิฟท์ มือที่จับต้องแฟ้มเอกสารอย่างวุ่นวายก็ค่อยๆหยุดการทำงานลงความคิดของเธอกำลังล่องลอยไปยังคำพูดที่ออกจากปากของผู้หญิงอีกคนที่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องนึกถึงด้วย ... เย็นนี้เจอกันนะคะ ... เพราะเหตุนี้ใช่มั๊ยนะที่ทำให้เธอประวิงเวลาออกงานช้ากว่าปกติ
... ทำไมนานจังเลยนะ ... ความคิดในสมองของหญิงสาวผุดขึ้นมารอบแล้วรอบเล่า เวลานี้จะหกโมงครึ่งแล้วคนที่เธอนัดและคาดว่าจะลงมายังไม่ยอมออกมาจากตึกบริษัทสักที กีกี้มองนาฬิกาเรือนงามบ่งบอกยี่ห้อว่านำเข้าจากประเทศทางยุโรปที่เธอเคยไปเดินแบบมาด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัวมากขึ้น ก่อนที่ความคิดจะวุ่นวายมากไปกว่านี้เธอจึงตัดสินใจดับเครื่องยนตร์และก้าวลงจากรถคันสวยเพื่อเดินไปยังจุดหมาย
กีกี้เดินออกจากลิฟท์ด้วยอาการไม่รื่นรมย์สักเท่าใดนัก เธอขับรถจากห้างกลางเมืองมายังลานจอดที่บริษัทของแจนเพื่อรอรับแม่เลขาคนสวยของเพื่อนสาวเธอตั้งแต่เวลาห้าโมงเย็น จนตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยไปนานมากแล้วแต่ยังไม่เห็นหน้าคนที่เธอต้องการพบเลย หญิงสาวหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะที่มีป้ายชื่อของเลขาคนเก่ง สายตาคู่สวยกวาดไล่เพื่อหาเจ้าของโต๊ะ ก่อนจะเห็นว่ากระเป๋าสะพายใบเล็กของเจ้าตัวยังคงวางไว้บนเก้าอี้ ก่อนที่เธอจะตัดสินใจตะโกนเรียกออกไปพลันสายตาก็แลเห็นว่าประตูห้องเก็บเอกสารเปิดค้างเอาไว้ เธอค่อยๆเดินก้าวไปยังประตูที่เปิดอ้าออก
หญิงสาวแตะมือยังประตูเพื่อเปิดกว้างมากกว่าเดิม ก่อนจะพบร่างของคนสองคนอยู่บนพื้น ภาพที่เธอเห็นทำเอาใจเธอเองเต้นระรัว หญิงสาวที่เธอตามหานอนหลับตาอยู่บนพื้นโดยมีชายหนุ่มสวมเสื้อคลุมสีดำออกขุ่นๆกำลังโน้มตัวลงไปยังใบหน้าใสๆนั้น
" เฮ้ย! "
เสียงของเธอทำเอาชายหนุ่มชะงักงัน หันใบหน้ามายังต้นเสียงด้วยความตกใจ เขาพยายามจะลุกขึ้นยืนเพื่อพูดอะไรบางอย่างกับเธอ แต่กีกี้ไม่รีรอที่จะฟังคำพูดใดๆนอกไปจากความเป็นห่วงในตัวของเลขาคนเก่ง หญิงสาวหยิบของที่อยู่ใกล้มือที่สุดเขวี้ยงใส่ตัวชายหนุ่มคนนั้น เธอไม่ได้สนใจหรอกว่ามันจะเป็นแฟ้มอะไร หนาแค่ไหน รู้แต่ว่าโดนใบหน้าของชายคนนั้นเต็มๆ
" โอ้ย! เดี๋ยวครับคุณฟังผมพูดก่อน "
" แกไม่ต้องมาพูดเลยนะ ไอ้เลว "
" ไม่ใช่ครับ คุณเข้าใจผิด ผมไม่ได้ เดี๋ยวครับเดี๋ยว คู้ณ... "
เสียงสุดท้ายของชายหนุ่มที่หลุดออกจากปากก่อนจะเงียบลงเมื่อเขาเองต้องเจอกับกระเป๋าสะพายใบเขื่อง ที่ด้านในอัดแน่นไปด้วยเครื่องมือที่เปี่ยมเทคโนโลยีของกีกี้
" แกจะทำอะไรห๊ะ ไอ้เลว "
" ผมเปล่านะครับ ผมแค่จะช่วย ผู้หญิงคนนี้เขาสลบไปผมก็แค่จะช่วยเท่านั้นเอง "
ชายหนุ่มกล่าวคำอธิบายพร้อมทั้งพยายามป้องกันตัวเองจากหญิงสาว กีกี้ชะงักมือและปากเมื่อทราบว่าชายหนุ่ม พยายามจะช่วยหญิงสาวที่เธอนัดไว้
" ห๊ะ ว่าไงนะ ช่วยงั้นเหรอ "
" ก็ใช่น่ะซิคุณ ผมน่ะเอาเอกสารมาส่งช้า แต่ว่าผมโทรเข้ามาก่อนแล้วนะครับว่าจะเข้ามา คุณเลขาคนนี้ก็บอกว่าเธอยังอยู่จะรอรับเอกสารจากผมได้ ผมก็เลยมา แล้วทีนี้พอผมมาถึงไม่เจอเธอแต่เห็นประตูเปิดอยู่ก็เลยเดินเข้ามา เห็นเธอล้มลงพอดีก็เลยมาดู แต่เรียกเท่าไหร่เธอก็ไม่รู้สึกตัว พอดีคุณเข้ามาซะก่อน "
" โธ่เอ๊ย! ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ล่ะ "
" แล้วคุณฟังผมซะที่ไหนล่ะ ไอ้เรารึคิดจะช่วยดันมาถูกกล่าวหาว่าจะทำร้ายซะงั้น "
" ก็มันน่าคิดนี่คุณ แล้วไหนล่ะเอกสารน่ะ เดี๋ยวฉันเซ็นรับแทนเองคุณจะได้รีบๆไป "
" นี่ครับ "
ชายหนุ่มรีบยื่นเอกสารที่กองอยู่บนพื้นข้างตัวให้กีกี้ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคว้าไปเซ็นรับเรียบร้อยแล้วก็รีบขอตัววิ่งจากไป ด้วยเห็นว่าถ้าอยู่ต่อตัวเขาเองอาจจะปลอดภัยน้อยกว่านี้ก็เป็นได้ หญิงสาวหันกลับมาให้ความสนใจกับเลขาคนเก่งอย่างกลัดกลุ้มแล้วทีนี้ เธอจะทำยังไงดีล่ะเนี่ยะ กีกี้คิดไปสายตาก็ไล่สำรวจร่างที่นอนอยู่
มือเรียวค่อยๆเลื่อนไปแตะยังใบหน้าขาวใสที่ตอนนี้ดูเหมือนจะซีดซะด้วยซ้ำ เธอเองตัดสินใจตบใบหน้านั้นเบาๆหวังจะให้หญิงสาวตื่นขึ้นมา ก่อนจะขยับแรงเป็นการเขย่าร่างบางนั้นแทน พร้อมทั้งเสียงเรียกชื่อของเจ้าตัวที่ดังขึ้นเรื่อยๆ
" คุณนุชคะ คุณนุชตื่นซิ ตื่น คุณนุช "
กีกี้เริ่มใจเสียเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ยอมลืมตาขึ้นมามองเธอ ... เป็นลม เธอต้องทำยังไงกันล่ะนี่ ผายปอด ใช่! ผายปอด ... " มันต้องคลายเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ก่อนนี่นา "
ทันทีที่คิดได้ กีกี้ก็ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของอีกฝ่าย หนึ่งเม็ด สองเม็ด ก่อนจะหยุดมือเมื่อสายตาจับจ้องเข้ากับบราสีครีมของอีกฝ่าย จากความคิดที่ท่องไว้เมื่อครู่ว่าจะช่วยให้หญิงสาวฟื้นกลับกลายเป็นความคิดอีกอย่างที่เธอเองอยากลิ้มรสมาหลายครั้ง ... ผายปอดก็ต้องจูบ อืม จูบเลยแล้วกันวุ้ย ...
กีกี้เลื่อนใบหน้าลงไปหาหญิงสาวที่นอนอยู่บนพื้นอย่างช้าๆ ยิ่งใกล้เธอก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมจางๆจากร่างบางที่เจ้าของสลบอยู่ จิตใจเธอเองระรัวเต้นเร็วและแรงขึ้นทุกที พลันเธอก็สัมผัสได้ถึงความนุ่มจากริมฝีปากของอีกฝ่ายจากที่คิดไว้แค่ว่าจะหยุดแค่นี้ ความหอมหวานกลับยั่วใจเธอให้รุกมากขึ้นไปอีก มือเธอกำลังเลื่อนสำรวจเนื้อเนียนที่อยู่ภายใต้เชิ้ตตัวสวยที่ตอนนี้เธอปลดกระดุมจนไม่เหลือสักเม็ด ความหอมจากร่างบางและความร้อนจากใจเธอตอนนี้มันกำลังจะหลอมรวมเป็นแรงกระตุ้นให้รสสัมผัสมันวาบหวามมากขึ้น กีกี้เลื่อนใบหน้าลงไปยังบราสีเนื้อเธอค่อยๆสูดดมความหอมบางเบาที่โชยออกมา ก่อนจะตัดสินใจจุมพิตแผ่วเบาที่เนินคู่นั้น แต่ก่อนที่อะไรจะล่วงมากไปกว่านั้นการขยับกายจากอีกฝ่ายก็ทำให้เธอต้องหยุดและค้างการกระทำไว้แค่นั้น
" คุณกีกี้ "
กีกี้มองหน้าหญิงสาวที่ลืมตามองเธอด้วยความงุนงง มือที่กำลังจะเลื่อนไปยังด้านล่างค้างเอาไว้เพียงแค่สะโพกคู่สวยของเจ้าตัวที่กำลังสำรวจตัวเองอยู่เงียบ ใบหน้าของนุชแดงขึ้นเรื่อยๆเมื่อเห็นว่าตนเองนั้นอยู่ในสภาพเช่นไร กีกี้รีบดันกายให้อยู่ในท่านั่งสองสาวต่างนั่งเงียบ เวลาค่อยๆเดินผ่านไป จากวินาทีเป็นนาที ก่อนที่กีกี้จะตัดสินใจเอ่ยเพื่อทำลายความเงียบที่ก่อให้เกิดความเครียดขึ้น
" เอ่อ กีกี้เข้ามาเห็นคุณนุชนอนสลบอยู่กับพื้น ก็เลยจะช่วย แบบว่า ช่วยให้ฟื้นน่ะค่ะ "
" ช่วย คุณกีกี้จะช่วยนุชแบบไหนเหรอคะ เสื้อนุชถึงได้เป็นแบบนี้ "
หญิงสาวพูดพลางก็กลัดกระดุมให้เข้าที่ แต่ใบหน้ายังคงเอียงหนีอีกฝ่ายที่มองจ้องร่างกายกึ่งบนของเธออยู่ ... จะมองไปถึงไหนกันเล่าแค่นี้ก็อายจนแทบจะแทรกตึกหนีอยู่แล้ว ...
" ก็จะผายปอด แต่ว่ามันห้ามใจไม่ค่อยอยู่ น่ะค่ะ "
" อะไรนะคะ "
หญิงสาวหันใบหน้าสบกับอีกฝ่ายพร้อมทั้งเอ่ยคำถามด้วยความตกใจ แต่เมื่อสบเข้ากับความแวววาวที่ลูกตาของเพื่อนสาวเจ้านายแล้วก็ได้แต่รู้สึกวาบหวามระคนเขินอายมากกว่าที่จะโมโหหรือโกรธได้
" กลับบ้านเถอะค่ะ มีอะไรไว้ไปคุยกันบนรถเดี๋ยวกีกี้ไปส่งเอง นะคะ "
" นุชว่า "
" อย่าปฏิเสธเลยค่ะ กีกี้เป็นห่วงคุณนะคะ ลุกเถอะค่ะเดี๋ยวคนที่บ้านจะเป็นห่วง "
" ค่ะ "
ทำไมนะ... เธอถึงปฏิเสธสิ่งที่หญิงสาวตรงหน้าบอกไม่ได้ เพราะอะไรกัน หรือเพราะใจที่กำลังหวั่นไหวตามสายตาที่สื่อถึงอะไรบางอย่างข้างในคู่นั้น
ชายหนุ่มในชุดเสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้มยืนอยู่ริมระเบียง เขาจรดแก้วใบใสติดริมฝีปากก่อนจะกระดกพรวดเดียวร่างกายเขารับรู้ได้ถึงความร้อนที่มาพร้อมกับของเหลวนั้น ชายหนุ่มกลับเข้ามาในห้องในมือยังคงถือแก้วใบใสเช่นเดิมเขานั่งลงบนเตียงประจำมือใหญ่เอื้อมคว้ากรอบรูปที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
รูปของหญิงสาวที่มีรอยยิ้มสดใส ดวงตาที่วาววับยังกับลูกกวางตัวน้อย หญิงสาวคนเดียวที่ยังคงอยู่ในหัวใจของเขา ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ตามที ชายหนุ่มวางแก้วลงแล้วใช้มือข้างนั้นลูบไล้ไปยังใบหน้าที่อยู่ในรูป เขาเองหลงรักรอยยิ้มนี้ตั้งแต่แรกเห็น แต่แล้วในเวลาไม่นานก็มีคนพรากรอยยิ้มนี้จากเขาไป เขาเจ็บปวด ทรมานและรู้สึกเคียดแค้น ชิงชังคนที่ทำยิ่งนัก
" ผมจะทำให้มันเจ็บ ยิ่งกว่าที่คุณเจ็บ ผมสัญญา "
" กลับช้านะคะวันนี้ "
เสียงใสทักตั้งแต่เธอก้าวเข้ามาในตัวบ้าน แจนมองไปยังต้นเสียงนั้นที่ยืนหน้ามุ่ยอยู่ตรงบันไดบ้าน เจ้าของเสียงที่ตอนนี้มีใบหน้าบึ้งเล็กน้อยกำลังรอคอยคำพูดจากเธออยู่
" พอดีพี่มีนัดคุยธุระกับเพื่อนน่ะค่ะ ทานข้าวรึยังล่ะเรา "
" ยังค่ะ แต่อีกเดี๋ยวคงจะได้ทานแล้วล่ะคุณอากับคุณน้าบอกว่าจะรอทานพร้อมกับพี่แจน แต่ไม่ทราบว่าพี่แจนไปทานกับเพื่อนมาแล้ว "
หญิงสาวกลั้วหัวเราะในลำคอด้วยเข้าใจดีว่าเด็กสาวเกิดอาการแง่งอนใส่เธอเข้าอีกแล้ว แจนก้าวเข้ามาหาพร้อมทั้งส่งสายตาเว้าวอนเล็กๆไปให้ " พี่ยังไม่ได้ทานอะไรมาเลยค่ะ หิ้วท้องกลับมาทานที่บ้าน "
" จริงอ่ะ "
" จริงซิคะ นี่พี่ยังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่กลางวันเลยนะหิวจะตายอยู่แล้ว "
ไม่เพียงแต่คำพูดหรือน้ำเสียงออดอ้อนเล็กน้อย ท่าทางกับสายตางอนง้อนั่นอีกที่ทำให้เธอรู้สึกว่ากำลังทำผิดที่มาคาดคั้นหาเรื่องเอากับผู้หญิงตรงหน้า เด็กสาวเปลี่ยนสีหน้าเป็นกังวลแทนที่เมื่ออีกฝ่ายพูดจบ
" จริงเหรอคะ มาค่ะเดี๋ยวหวานเอาของขึ้นไปเก็บให้ พี่แจนจะได้ไปที่โต๊ะอาหารได้เลย เร็วซิคะ "
" จ้ะ รู้แล้วๆ "
" งั้นหวานเอาของไปเก็บก่อนนะคะ จะรีบลงมาเดี๋ยวพี่จะปวดท้องเอาซะก่อน ไปค่ะ "
เด็กสาวกล่าวจบก็รีบหิ้วแฟ้มเอกสารพร้อมทั้งกระเป๋าของอีกฝ่ายวิ่งขึ้นบันไดจากไป ทันทีที่พ้นจากสายตาของเด็กสาวแจนก็คว้าโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ตั้งแต่เมื่อครู่ออกมารับ ... ดีนะที่ปิดเสียงตั้งแต่เข้าประชุม ...
" ว่าไงได้เรื่องอะไรบ้าง "
" ครับคุณหนู ตอนนี้ผมตามเรื่องมาได้ครึ่งทางแล้วครับและผมก็มีเรื่องสำคัญจะเรียนบอกคุณหนูด้วย "
" สำคัญแค่ไหน "
" ครับ มากพอที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลย "
" แค่นี้ใช่มั๊ย "
" ครับ ผมจะจัดส่งรายละเอียดไปให้ทางอีเมล์นะครับ แล้วก็มีรูปจำนวนหนึ่งที่ผมคิดไว้ว่ามันน่าจะเกี่ยวเนื่องกัน ผมมั่นใจว่าผมคิดไม่ผิด "
" อืม โอเคแค่นี้ก่อนนะฉันต้องไปแล้ว "
" ครับ "
หญิงสาววางสายลงด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด เธอรู้ดีว่าเรื่องนี้จะต้องกลายเป็นเรื่องที่ทำให้บ้านเธอวุ่นวายมากขึ้นแน่ๆ เรื่องเก่าก็ยังไม่จบเรื่องใหม่ก็เริ่มซะแล้ว เพียงแค่คิดแจนก็รู้ได้ว่าเธอต้องเหนื่อยไปอีกยาวแน่นอน หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะปรับสีหน้าเป็นยิ้มแย้มและก้าวต่อไปยังห้องอาหารของตัวบ้านที่มีคุณแม่และผู้หญิงที่เธอยังคงไว้ซึ่งความชังนั่งรออยู่
... ไม่ว่าจะยังไง เธอจะต้องทำให้ได้ ..
" หนาวมั๊ย "
" ไม่เป็นไรค่ะ "
ประโยคคำถามและประโยคคำตอบที่ถามซ้ำกันมาเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่ทราบได้ ตั้งแต่ทั้งคู่ก้าวขึ้นมาบนรถคันงามของกีกี้ เลขาคนเก่งของท่านรองฯ ยังคงนั่งนิ่งหลังตรงมองไปยังด้านหน้ารถจนกีกี้รู้สึกเมื่อยคอและหลังแทน
" นี่คุณไม่คิดจะคุยอะไรเลยเหรอ "
" แล้วคุณกีกี้อยากให้ดิฉันคุยหรือพูดอะไรล่ะคะ "
" บ้านคุณไปทางไหน "
" ดิฉันนึกว่าคุณกีกี้ทราบดีอยู่แล้วซะอีก เพราะตั้งแต่คุณขับออกมาจากบริษัทคุณยังไม่ได้ถามดิฉันสักคำเลยว่า ไปทางไหน ตรงไหน ยังไง "
" นี่คุณ โกรธอะไรกีกี้รึเปล่าคะ "
" เปล่าค่ะ "
" ถ้างั้น คุณก็น่าจะ "
" เดี๋ยวรบกวนช่วยจอดตรงหน้าปากซอยที่มีร้านอาหารข้างหน้านะคะ "
" บ้านคุณเปิดร้านอาหารรึไง "
" เปล่าค่ะ "
" ถ้างั้น ไม่จอด "
" เอ๊ะ! คุณนี่ "
หญิงสาวหันมาแว้ดเสียงใส่อีกฝ่ายที่ขับรถเลยเข้ามาในซอย กีกี้ขับไปเรื่อยๆโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะมีสีหน้าและท่าทางเป็นอย่างไร เธอเคยมาที่นี่แล้วเพราะอยากรู้ข้อมูลของอีกฝ่าย .. กะอีแค่เช็คจากฝ่ายบุคคลมันจะไปยากอะไรเล่า ..
" รั้วไม้สีฟ้านั่นใช่มั๊ย "
" รู้แล้วจะถามทำไมคะ "
กีกี้จอดรถเทียบหน้าประตูรั้วไม้สีฟ้า ไฟในบ้านมืดสนิทเปิดไว้แค่เพียงไฟตรงประตูรั้วและหน้าประตูเข้าบ้านแค่นั้น หญิงสาวลงจากรถและเดินตามเจ้าของบ้านที่ยืนไขรั้วอยู่
" ขอบคุณนะคะที่มาส่ง อ๊ะ!เดี๋ยวซิ "
" กีกี้อยากนั่งพักน่ะค่ะ แบบว่า เมื่อย "
พูดจบเพื่อนสาวคนสวยของท่านรองฯก็เดินเข้าไปหยุดรออยู่หน้าตัวบ้าน พร้อมทั้งส่งสายตาเชิงถามมาให้ว่า ทำไมเธอไม่มาไขประตูเข้าบ้านซะที หญิงสาวพยายามข่มใจไม่ให้วีนใส่อีกฝ่ายไว้ภายในหันมาล็อคประตูรั้วและเดินไปไขประตูบ้าน
" ขอรบกวนหน่อยนะคะ คุณเลขา "
" เชิญค่ะ แคบไปหน่อยนะคะ คงจะไม่สะอาดเท่าห้องสูทหรือคอนโดของคุณ ไม่มีชาหรือกาแฟนำเข้าให้ซะด้วย "
" ไม่เป็นไรค่ะ กีกี้ทานง่าย และที่สำคัญ นอนง่ายซะด้วย "
" หมายความว่าไงคะ "
" เปล๊า ว่าแต่จะให้กีกี้ยืนรอคุณเลขาอาบน้ำหรือนอนหลับเลยมั๊ยล่ะคะ "
" เชิญตามสบายค่ะ เดี๋ยวดิฉันขอตัวเอาของไปเก็บก่อน สักครู่ "
กีกี้ มองตามหญิงสาวที่ก้าวขึ้นบันไดชั้นสองจนลับสายตาไป ทันทีที่เธอได้ยินเสียงปิดประตูจากข้างบนสายตาคู่งามก็ไล่สำรวจไปยังรอบๆตัวบ้าน เธอพอจะทราบมาบ้างว่าบ้านไม้สองชั้นเล็กๆแห่งนี้ แม่เลขาคนเก่งของเพื่อนเธออาศัยอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น เนื่องจากว่ามีครอบครัวอยู่ชานเมือง กีกี้เดินสำรวจจากกลางบ้านไปยังส่วนหลัง ซึ่งแบ่งเป็นห้องครัวและห้องทานข้าวในตัว หญิงสาวเดินกลับมายังบริเวณกลางบ้านมาหยุดอยู่หน้าประตูบ้าน พลันจัดการปิดล็อคประตูบ้านเรียบร้อยโดยไม่รอคำอนุญาตจากปากเจ้าของ
กีกี้มองไปทั่วทั้งชั้นล่างก่อนจะหยุดยิ้มให้กับตัวเอง เธอไม่โง่พอที่จะปล่อยให้โอกาสดีๆแบบนี้หลุดลอยไปจากชีวิตหรอก หญิงสาวแหงนใบหน้าขึ้นไปยังชั้นสองพร้อมทั้งก้าวเดินขึ้นบันไดอย่างไม่มีการรีรอ
... ใครจะโง่ปล่อยให้เหยื่อหลุดออกจากปากไปล่ะ ...
" ไหนๆ ก็มาถึงถิ่นแล้ว บ้านก็สำรวจแล้วยังไงก็ขอสำรวจห้องนอนแล้วก็ เจ้าของบ้านซะเลยแล้วกัน "
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ก่อนอื่นต้องขอ กราบอภัยบนอกงามๆ สักหลายๆทีเนื่องจากข้อผิดพลาดหลายๆประการ
ทั้งเนื่องมาจาก คอมฯเจ๊ง และใกล้สอบ ( ทิตย์หน้าสอบแล้ว )
ขอชี้แจงก่อนเลยว่า เรื่องแรก คอมฯเจ๊งนั้น เราได้เอาไปเข้าร้านซ่อมมาแล้วเจ้าค่ะ
พี่เค้าบอกมาว่า น้องเอ๊ย... ซื้อใหม่เหอะ มันหมดอายุแล้ว งี้เลยอ่ะ
แต่แบบว่า เงินเกลี้ยงตัวแล้วเลยบอก พี่เอาให้มันใช้ได้อ่ะ ได้ป่ะๆ งี้เลย สรุป ซ่อมมา แต่ข้อมูลเกลี้ยงเลยต้องมานั่งพิมใหม่โม้ดดดดดดดด ( ซะงั้นกรู )
เรื่องสอบนี่ก็เรื่อยๆค่ะ เหนื่อยมาก มึนหัว แว่นก็เจ๊ง ปวดตาตามระเบียบ เอาเป็นว่าตอนนี้ จะพยายามเอามาลงให้เรื่อยๆละกันนะค๊า สำหรับ พี่แจนกะน้องหวาน
แล้วไง มีอะไรฝากไว้ในเม้น นี่ล่ะค่ะ ไม่ก็หลังไมค์เลยนะ เราจะช่วยเคลียร์ให้ กระจ่างเลย
PS. ขอบคุณท่านพี่มาก นู๋เมย์เข้ามาเห็นกระทู้ทวงถาม ขอบคุณนะคะที่ช่วยตอบให้ว่า ช่วงนี้สอบ อ้อ... ไอ้เมสเซจนั่น เป็นปลื้ม ( ดีมะวะกรู ) มากกกกกกกกกกกกกก เจ้าค่า
By : hJIko   Date : 2 Aug 2007 18:29
|