Dark Side (8)
เมื่อ 9ปีที่แล้วตอนที่พริ้นซ์มีอายุเพียง 13ปี เครื่องบินส่วนตัวของครอบครัวเขาถูกก่อวินาศกรรม ทำให้เขาสูญเสียพี่ชายทั้ง 5คนไป พ่อแม่และน้องสาวหายสาบสูญ ตัวเขารอดเพราะอยู่ในระหว่างเรียนซัมเมอร์ที่อังกฤษ สาเหตุของการก่อวินาศกรรมไม่แน่ชัด ในตอนนั้นเขาทุ่มเงินทั้งหมดที่มีในฐานะผู้สืบทอดตามพินัยกรรมลงไปกับการหาสาเหตุและข่าวสาร ในแฟ้มหนาเปนศอกไม่มีข้อมูลอะไรที่บ่งชี้ได้เลยว่าเกิดเพราะอะไรและเปนฝีมือของใคร เขาทุ่มเงินมหาศาลเพื่อควานข่าวต่อไป โดยมีเอ็กซ์ที่ตอนนั้นอายุ 14ปี คอยปลอบโยนและให้กำลังใจ รวมทั้งให้ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีเท่าที่จะช่วยได้ เพราะทางบ้านของเอ็กซ์ก้อเปนองค์กรที่ทำเกี่ยวกับด้านเทคโนโลยีรายใหญ่ของไทย และตัวของเอ็กซ์เอง ถ้าเปนทางด้านเทคโนโลยีหรือคอมฯแล้วล่ะก้อ เข้าขั้นอัจฉิรยะเลยทีเดว พ่อแม่ของเอ็กซ์ก้อช่วยเหลือและสนับสนุนเต็มที่ แต่ผลคืบหน้าแทบเปนศูนย์ นับจากวันนั้นพริ้นซ์เปนเสมือนกับหุ่นยนต์ไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะ ไม่มีกระทั่งน้ำตา หน้าที่นิ่งเฉยไร้อารมณ์ มีเพียงความแค้นที่สุมอยู่ในใจเท่านั้น ที่ผลักดันให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป
2ปีถัดจากนั้นพริ้นซ์ถูกลอบยิง ระหว่างเดินทางไปโรงเรียนพร้อมกับเอ็กซ์ และเปนครั้งแรกที่เอ็กซ์ร้องไห้ราวกับเสียสติ เขาโทรหาพ่อทันที และกอดร่างโชกเลือดของพริ้นซ์ไว้แน่น ไม่ว่าบุรุษพยาบาลหรือหมอจะพยายามนำเขาออกมาให้ห่างเพื่อที่จะได้ลงมือช่วยเหลือเท่าไหร่ เอ็กซ์ก้อไม่ยอมปล่อยมือจนกระทั่งหมอต้องฉีดยาสลบให้เขา พ่อของเอ็กซ์จึงอุ้มเขาออกมาได้ แต่กระนั้นกว่าจะแกะมือออกจากร่างพริ้นซ์ได้ก้อยากลำบากพอดูทีเดว
กระสุนทะลุไหปลาร้าออกไปโดยไม่โดนกระดูก แต่เนื่องจากเปนเด็กและกระสุนทะลุจึงทำให้เด็กน้อยเสียเลือดอย่างมาก แต่ดีที่รักษาได้ทันเวลา พริ้นซ์พักฟื้นอยู่ที่รพ.นานหลายเดือน โดยมีเอ็กซ์คอยเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลาไม่ไปไหน ด้วยความสงสารลูกตัวเองและเหนใจพริ้นซ์ ครอบครัวของเอ็กซ์จึงรับเด็กน้อยไว้เปนลูกบุญธรรม แต่พริ้นซ์ไม่ยอมเปลี่ยนนามสกุล
หลังจากออกจากรพ.พริ้นซ์บริจาคเงินทั้งหมดให้กับมูลนิธิต่างๆ ขายบ้าน บริษัททิ้งไป แล้วออกมาใช้ชีวิตอยู่คนเดว ในอพาตเมนท์แห่งหนึ่งย่านชานเมืองซึ่งจิงๆแล้วก้อคือหอที่เขาอยู่ตอนนี้นั่นแหล่ะ โดยไม่ฟังคำทัดทานจากเอ็กซ์และครอบครัวเลย ด้วยว่าเขารู้ตัวดีว่าถ้าหากอาศัยอยู่กับเอ็กซ์แล้ว อาจจะทำให้ครอบครัวที่มีบุญคุณกับเขานี้ติดร่างแหไปด้วย แต่แปลกที่พอเขาขายกิจการทุกอย่าง และออกมาอยู่คนเดวกลับไม่มีเหตุการณ์ร้ายใดๆเกิดขึ้นอีก
เขาใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดว ตอนกลางวันไปเรียน แต่คนละที่กับเอ็กซ์ รถที่ใช้อยู่เดิมก้อเปนของเอ็กซ์ แต่เพื่อนรักของเขาบอกว่าเขาจำเปนต้องใช้จึงให้มาแล้วตัวเองยอมนั่งรถเมล์ไปกลับ เวลาตอนกลางคืนเปนเวลาที่เขาจะแฮ็คเข้าเว็บขององค์กรใต้ดินต่างๆ รวมถึงทางรัฐบาลด้วยเพื่อตามหาข่าวสารอย่างไม่ย่อท้อ และฝึกศิลปะการต่อสู้ต่างๆจนเก่งอย่างหาตัวจับยากเลยทีเดว
จนเขาอายุได้ 17ปี มีอยู่ครั้งนึงที่เขาแฮ็คเข้าเว็บขององค์การใต้ดินแห่งหนึ่งที่ฉากหน้าเปนพันธมิตรกับรัฐบาล แต่ฉากหลังกลับแทบเปนการควบคุมโลกไว้ในมือด้วยกองกำลังที่มือฝีมือเยี่ยมที่สุด แต่ไม่ใช่เพื่อก่อการร้าย แต่เปนการควบคุมให้โลกอยู่ในความสงบและไม่เกิดเหตุร้ายแรงต่างๆขึ้นต่างหาก เปนเว็บที่มีระบบการป้องกันแข็งแกร่งมาก เขาใช้เวลานานกว่าปกติเพื่อที่จะเจาะเข้าไปหาข้อมูล สุดท้ายก็ไม่ได้รับข่าวสารอะไรเพิ่มมา แต่การที่เขาเจาะระบบเข้าไปได้นั้น ทำให้บรรดาศัตรูขององค์กรนี้เจาะตามทางที่เขาเข้าไปจนทราบถึงกำหนดการเดินทางของตัวผู้นำ หรืออรัญนั่นเอง ทำให้ถูกลอบยิงและก่อวินาศกรรมแต่โชคดีที่ไม่เปนอะไร โดยที่พริ้นซ์ไม่ทราบแม้แต่น้อยว่าตัวเขาได้ทำให้เกิดสิ่งที่แทบจะเรียกได้ว่าหายนะขึ้น จนกระทั่งเอ็กซ์นำข่าวมาบอกเขา แต่เขาก้อไม่สามารถที่จะติดต่อกลับไปเพื่อที่จะขอโทษได้เพราะเว็บได้ปิดตัวลง
นึกออกหรือยังล่ะ เธอเปนคนที่ทำให้ฉันเกือบสิ้นชื่อนี่นะ.. คราวนี้อรัญเปนคนพูด แต่ยังไม่ทันจบดีก้อถูกวรัณยา ตีเผียะลงที่ต้นแขน
คุณคะ คุณก้ออ่านประวัติของเด็กคนนี้แล้วไม่ใช่หรือคะ วรัณยาทำตาเขียวใส่สามีเธอ
ขอโทษครับ เอ๊ย ค่ะ พริ้นซ์หน้าซีดแล้วก้อสลดลง
ไม่เปนไรจ้ะ เราเข้าใจเธอ บอกแล้วไงว่าตามสบายไม่ต้องกังวลหรอก หยุดเล็กน้อยแล้วจึงพูดต่อว่า ความจิงที่เราเชิญเธอมาวันนี้ เรามีข้อเสนอมาให้น่ะจ้ะ
ข้อเสนอ?? หนุ่มน้อยทวนคำอย่างงงๆ
เราอยากให้เธอมาเปนการ์ดส่วนตัวให้กับไวท์น่ะจ้ะ แล้วก้อสังกัดในองค์กรเราด้วย วรัณยาอธิบายช้าๆ
การ์ดส่วนตัว??สังกัดองค์กร?? เด๋วนะครับ ผมว่าผมยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ หนุ่มน้อยยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูก และกลับมาใช้สรรพนามที่ชินปากดังเดิม
เพราะเราเหนถึงความสามารถของเธอแล้ว เธออาจจะต้องถูกเช็คระดับทักษะและฝีมือที่เธอมีสักนิดนึง ว่าอยู่ในขั้นไหน และอาจจะมีการฝึกเพิ่มเติมในบางอย่างที่เธอไม่เคยเรียนรู้ ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะไวท์เองก้อไม่มีเพื่อนมาก่อน แต่เราเองก้อไม่ไว้ใจให้เขาออกไปเผชิญโลกภายนอกโดยลำพังได้ เราไม่อยากให้เกิดเหตุซ้ำรอย เราจะให้คนพาเธอไปดูว่าอะไรที่เคยเกิดขึ้นกับครอบครัวเรามาแล้ว และอะไรที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป วรัณยาถอนหายใจนิดนึง แน่นอนว่าถ้าเธอไม่อยากทำเราก้อจะไม่บังคับเธอ แต่ผลตอบแทนที่เธอจะได้คือ เราสามารถช่วยเหลือด้านการข่าวกับเธอได้ เธอรู้ใช่ไหมว่าองค์กรเราครอบคลุมไปทุกมุมโลก ไม่ได้จำกัดเฉพาะในประเทศเล็กๆนี่เท่านั้น
เมื่อพริ้นซ์ได้ยินข้อเสนอ เขาตาลุกวาวขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ แต่เนื่องจากยังคงสงสัยว่ามีอะไรที่เขาควรจะต้องรับรู้มากกว่านี้หรือเปล่า คือ..ถ้ายังไงขอเวลาผมตัดสินใจสักนิด แต่ผมจะไปดูสิ่งที่คุณบอกครับ
อรัญกดมือลงกับขอบโต๊ะ ไม่ถึง 2วิ. การ์ดคนหนึ่งก้อโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ด้านหลังของพริ้นซ์ หนุ่มน้อยลุกขึ้นยืนทันทีโดยไม่หันกลับไปมอง แสดงถึงความไวในการรับรู้ ทั้งอรัญและวรัณยายิ้มให้กันอย่างพอใจ เมื่อหนุ่มน้อยเดินลับหายไปกับการ์ดคนนั้น
เวลาผ่านไปได้เพียงครึ่งชม. พริ้นซ์เดินกลับมาด้วยสีหน้าที่เปนปกติ แต่แววตาของเขาลุกโชนเหมือนถ่านหินที่ติดไฟอยู่ ทั้งอรัญและวรัณยาถึงกับไม่กล้าสบตากับหนุ่มน้อยตรงๆ
ผมตกลงครับ พริ้นซ์ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
อรัญกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ ชีวิตนี้เขาผ่านอะไรมาก้อเยอะ ทั้งเรื่องร้ายๆและเรื่องที่ดี แต่เขาไม่เคยเหนแววตาของคนๆไหน แม้กระทั่งในกองกำลังของเขาเองที่ดูน่ากลัวได้ถึงเพียงนี้มาก่อน แต่ตัวเขาเองก้อไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมานอกจาก
อืมม งั้นฉันจะให้คนพาเธอไปเลยแล้วกัน ซึ่งตรงนี้เราไม่แน่ใจว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่เพราะนั่นก้อขึ้นอยู่กับพื้นฐานฝีมือเธอล่ะนะ อรัญพูดด้วยน้ำเสียงที่เปนปกติที่สุด
ครับ แต่ยังไงรบกวนส่งข่าวบอกเพื่อนผมสักนิดแล้วกันครับ พริ้นซ์ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคน
ได้จ้ะ เด๋วฉันจะบอกเพื่อนเธอให้ วรัณยารับไหว้ ขอให้พระเจ้าคุ้มครองเธอ
พริ้นซ์ที่กำลังก้าวขาจากไปชะงักเท้า แล้วพูดโดยไม่หันกลับมามอง ซาตานมากกว่ามังครับ หึหึ แล้วหนุ่มน้อยก้อสาวเท้าเดินต่อไป ทิ้งให้บุคคลทั้งสองนั่งอึ้งด้วยความคาดไม่ถึง
คุณแม่เรียกไวท์มามีอะไรหรอคะ สาวน้อยร่างบาง วิ่งเข้ามาเกาะแขนผู้เปนมารดา เธอเข้ามาหลังจากที่พริ้นซ์เพิ่งออกไปได้ไม่ถึง 10นาที
ช่วงนี้เพื่อนของหนูจะยังไม่ว่างสักพักนะลูก รอให้เขาฝึกเสร็จก่อน วรัณยายกมือลูบหัวลูกสาวที่ยังไงก้อยังเปนลูกสาวตัวน้อยของเธออยู่วันยังค่ำ
แค่เขาเปนเพื่อนไวท์ถึงกับต้องพาไปฝึกเลยหรอคะ ไวท์เกาะแขนอ้อนเปนเด็กๆ เงยหน้าขึ้นถามแม่ของเธอ
---------------------------------------
มาต่อตามเสียงเรียกร้องในหัวใจตัวเอง(อ้วก..แหว่ะ)
อยากลงน่ะคับ เลยเอามาลง หึหึหึ
ไม่มีคนอ่านก้อไม่เปนไรคับ ยังไงก้ออยากลง..หึหึหึ..
By : Wolfy   Date : 10 Oct 2006 16:19
|