รักครั้งใหม่ หัวใจคือเธอ (7)
รักครั้งใหม่ หัวใจคือเธอ (7)
สวัสดีฮะ พี่พิมพ์ วันนี้อยู่ร้านคนเดียวเหรอฮะ สาวหล่อ ตัวเล็ก ยกมือไหว้พิมพ์ลักษณ์ พร้อมทั้งลากเก้าอี้มานั่งตรงหน้าเคาท์เตอร์
จ้า พอดีพี่พายเค๊าไม่อยู่น่ะ แล้วนี่ยังไง ไปไหนมาล่ะบิว ทำไมหน้าตาเป็นอย่างนั้นล่ะ ไปหงุดหงิดอะไรที่ไหนมาเหรอจ๊ะ พิมพ์ลักษณ์ถามอีกฝ่ายกลับอย่างอารมณ์ดี
ยิ้มก็ได้ฮะ เห็นหน้าพี่พิมพ์แล้วหายเซ็งเลย บิวส่งยิ้มกลับ
อ้าว เป็นซะงั้นไป แล้วนี่น้ำไปไหนล่ะ ทำไมไม่เห็นมากับบิวล่ะจ๊ะ ทุกทีเห็นติดกันเป็นตังเม
อ๋อ น้ำเหรอฮะ สงสัยจะรักรีเทิร์นกับสามีเก่ามั้งฮะ เห็นนั่งคุยกันกระหนุงกระหนิงเชียว หน้าตาที่ยิ้มของบิวเมื่อสักครู่กลับกลายเป็นเบื่อโลกเช่นเดิม
ที่เห็นเค๊ากระหนุงกระหนิงกัน นี่คือสาเหตุที่ทำให้บิวต้องมานั่งหน้าบูดอยู่อย่างนี้ใช่มั้ยล่ะ พิมพ์ลักษณ์แซวบิวกลับพร้อมทั้งอมยิ้มอย่างล้อๆ
เปล่าฮะ ก็น่าจะดีแล้วนะ ที่น้องนิว จะได้อยู่ครบพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่สักที น้ำเองก็จะได้มีความสุขสักที ว่าแล้ว บิวก็ถอนหายใจออกมา
แต่ที่พูดนี่น่ะ ทำไมหน้าตากับน้ำเสียงมันขัดกันจังล่ะ เอ! แล้วตกลงน้ำกับบิวไม่ได้คบกันหรอกเหรอ
แค่คนเคยรักกันเท่านั้นเองแหล่ะฮะ แต่ก็ดีไปอย่าง บิวจะได้เริ่มต้นจีบพี่พิมพ์จริงๆ ซักที บิวเปลี่ยนมาส่งสายตาเจ้าชู้ให้พิมพ์ลักษณ์แทนแววตาที่เศร้าเมื่อครู่
อ้าว เข้าตัวเลยเรา พิมพ์ลักษณ์หน้าเหวอทันที แต่ก็หัวเราะขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี
จริงนะฮะ พี่พิมพ์ บิวน่ะจะจีบพี่พิมพ์จริงนะฮะ บิวแอบชอบพี่พิมพ์มาตั้งนานแล้วน๊า
เฮ้อ พิมพ์ลักษณ์พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ส่งยิ้มพร้อมทั้งส่ายหัวเบาๆ
แล้วพี่พิมพ์ไม่คิดจะใจอ่อนบ้างเหรอฮะ รับบิวไว้พิจารณาสักคนนะฮะ บิวบอกด้วยเสียงอ้อนๆ พร้อมกับสายตาหวานเยิ้ม
แหม! พูดเป็นนิยายเชียว พี่ยังไม่พร้อมจะมีใครหรอก พูดจบก็เสมองไปทางอื่น พลันสายตาเหลือบไปเห็นคู่กรณีของบิว ซึ่งก็คือน้ำนั่นเอง กำลังจะเดินเข้าร้านพอดี
พี่พิมพ์สวัสดีค่ะ อ้าวบิวก็อยู่นี่เหรอ เมื่อกี้เห็นแม่บอกว่าไปหาน้ำที่บ้านนี่นา ทำไมหนีกลับก่อนล่ะ น้ำถามด้วยแววตาฉงน ดวงตาของสวยหมวยที่เล็กอยู่แล้วดูจะเล็กลงไปอีก
พอดีเค๊านึกได้ว่ามีธุระน่ะ ก็เลยออกมาก่อน แล้วนี่ก็แวะเข้ามาคุยกับพี่พิมพ์ บิวตอบกลับด้วยใบหน้าเจื่อนๆ
พิมพ์ลักษณ์มองไปที่บิวแล้วก็มองกลับมาที่น้ำ พลางคิดในใจ เฮ้อ เอาเข้าไป น้ำก็ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนบิวเองก็โกหกกลบเกลื่อน แล้วจะคุยกันรู้เรื่องมั้ยเนี่ย
เหรอ เออ พี่พิมพ์คะ จะไปกันหรือยังคะ นี่ก็ 5 โมงกว่าๆ แล้วนะคะ เดี๋ยวรถจะติดค่ะ
จะไปไหนกันเหรอน้ำ บิวขมวดคิ้ว เพราะมานั่งคุยกับพิมพ์ลักษณ์อยู่ตั้งนานสองนาน ไม่เห็นพิมพ์ลักษณ์บอกเลยว่านัดกับน้ำไว้
เอ่อ
น้ำพูดไม่ออก เพราะว่าเพื่อนที่เธอนัดไว้อีกคนน่ะ ใช่ว่าจะญาติดีกับบิวซะที่ไหนกันล่ะ อาจจะทักทายกันตามมารยาทเท่านั้นเอง
อ๋อ พอดีวันนี้พี่นัดกับน้ำไว้น่ะ ว่าจะไปทานข้าวเย็นกัน บิวจะไปด้วยกันมั้ยล่ะ พิมพ์ลักษณ์สงสัยกับอาการอึ้งๆ ของน้ำ และยิ่งสงสัยหนักเข้าไปใหญ่เมื่อน้ำหน้าซีดลงเมื่อเธอชวนบิวไปด้วย เอ๊! นี่มันยังไงกันนะ ปกติก็ไปกัน 3 คนนี่นา หรือว่าน้ำมีอะไรจะพูดกับเธอสองคนหรือเปล่า เดี๋ยวต้องถามให้รู้เรื่อง
น้ำ เป็นไรหรือเปล่า ทำไมหน้าซีดจัง เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลยนี่นา บิวถามด้วยความงง ปนเป็นห่วง
เอ่อ.... เปล่าน่ะ น้ำตอบกลับด้วยรอยยิ้มฝืดๆ เฮ้อ อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิดแล้วล่ะ ทำใจดีๆ ไว้ยายน้ำ เฮ้อ น้ำคิดพลางถอนใจยาว
อ้าว น้ำ ถอนใจทำไม ถ้าไม่อยากให้เค๊าไป เค๊าไม่ไปก็ได้นะ บิวพูด อารมณ์น้อยใจกลับเข้ามาอีกครั้ง เมื่อตอนบ่ายก็เห็นน้ำอยู่กับสามีเก่า แล้วนี่นัดกับพิมพ์ลักษณ์ไว้ก็ไม่ชวน มันน่าน้อยใจนักเชียว
ไม่ใช่อย่างงั้น ทำเป็นน้อยใจไปได้น่าบิว น้ำรีบง้อเมื่อเห็นบิวท่าทางน้อยใจจริงๆ
โอเค ก็ไปด้วยกันหมดนี่แหล่ะ มื้อนี้พี่เลี่ยงเอง เดี๋ยวรอพี่แป๊บนึงนะ ขอฝากร้านกับเด็กไว้ก่อน ไปรอที่รถก็ได้จ้ะ พิมพ์ลักษณ์ตัดบทสนทนา แล้วจึงจัดการพาตัวเองออกไปจากตรงนี้ เพราะเธอรู้สึกว่ามันเริ่มจะอึมครึมยังไงไม่รู้
หลังจากรถยนต์คันเล็กของน้ำจอดเรียบร้อยที่ลานจอดรถ ทั้งสามจึงเดินเข้าไปในร้านอาหารเจ้าประจำ ที่มักจะมานั่งทานอาหารด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง พิมพ์ลักษณ์เลือกที่จะจอดรถทิ้งไว้ที่ร้าน เพราะว่าสาวหมวยร่างเล็กอย่างน้ำคะยั้นคะยอให้มารถคันเดียว เพื่อที่จะประหยัดน้ำมัน แล้วมื้อนี้เธอเองก็ตกลงเป็นเจ้ามือเลี้ยง ทั้งน้ำทั้งบิวจึงไม่ยอมให้เธอเปลืองค่าน้ำมันรถอีก
นั่งที่เดิมละกันนะ น้ำ บิว พิมพ์ลักษณ์เดินนำทั้งคู่ไปยังมุมประจำ
เอ่อ งั้นบิวขอตัวไปห้องน้ำแป๊บนึงนะฮะ บิวเดินแยกออกไป
เมื่อพิมพ์ลักษณ์และน้ำเดินไปนั่งที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว พิมพ์ลักษณ์จึงถามน้ำทันที
ว่าไงน้ำ มีอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าตาดูกังวลแบบนั้นล่ะ
เอ่อ ยังไงดีล่ะคะ คือว่าวันนี้น้ำนัดเพื่อนไว้อีกคนน่ะค่ะ แล้ว เฮ้อ หน้าตาน้ำกังวลหนักกว่าเดิม
แล้วยังไงล่ะจ๊ะ
เอ่อ เพื่อนน้ำคนนี้น่ะ บิวเค๊าไม่ค่อยชอบเท่าไหร่น่ะค่ะ น้ำตอบด้วยเสียงอ่อย
เฮ้อ ไม่ชอบเอง พี่ว่าน้ำอย่าเพิ่งเป็นกังวลเลยนะ ไม่มีอะไรหรอกมั้ง พิมพ์ลักษณ์ปลอบใจน้ำพร้อมรอยยิ้ม
มันไม่ใช่แค่ไม่ชอบน่ะสิคะ แต่บิว... เอ่อ เอ่อ ยังไงดีล่ะ บิวเค๊าไม่ถูกชะตาเลยก็ว่าได้
แล้วเพื่อนน้ำคนนี้ล่ะ คิดยังไงกับบิว หรือว่า ทั้งสองไม่กินเส้นกัน หรือเปล่าจ๊ะ
ก็ทำนองนั้นแหล่ะค่ะ พอน้ำพูดจบ คราวนี้พิมพ์ลักษณ์เองก็ทำหน้าเครียดไปด้วย
ว่าไงฮะ สองสาวคุยอะไรกันอยู่ทำไมดูเครียดๆ กันจัง เสียงบิวทักทั้งสอง ทำให้ทั้ง
พิมพ์ลักษณ์และน้ำต้องส่งยิ้มกลับไปแบบเจื่อนๆ
เปล่าหรอก พอดีน้องนิวไม่ค่อยสบายน่ะ น้ำชิงตอบก่อน
อ้าว แล้วตัวเองพาไปหาหมอหรือยังน้ำ ท่าทางบิวเป็นห่วงมาก เลยทำให้อาการกังวลของน้ำและพิมพ์ลักษณ์ลดลง เนื่องจากสัมผัสได้ถึงความจริงใจของบิว ที่ยังคงห่วงใยน้ำและคนในครอบครัวของน้ำเสมอ พิมพ์ลักษณ์จึงได้แต่ส่งยิ้มให้กับน้ำ เหมือนจะบอกกับน้ำว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
กริ๊ง กริ๊ง เสียงโทรศัพท์มือถือของน้ำดังขึ้น น้ำกดรับ พยายามปรับสีหน้าให้ราบเรียบที่สุด
ฮัลโหล จ้า อือฮึ ค่ะ น้ำวางโทรศัพท์ไป แล้วมองไปที่ประตูทางเข้าร้าน เห็นหญิงสาวรางสูงผลักประตูเดินเข้าร้านมา และกำลังเดินมาหาเธอ
น้ำ ขอโทษที โอปอล์เดินเข้าไปสวมกอดน้ำทันที
ปฎิกิริยาของทั้งสามคนบนโต๊ะ แตกต่างกันออกไป น้ำยังคงระบายยิ้มอยู่บนใบหน้า บิวซึ่งนั่งอยู่ข้างน้ำยังคงงงที่เห็นว่าบุคคลที่เข้ามาเป็นใคร ส่วนพิมพ์ลักษณ์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับบิว เห็นแต่เพียงข้างหลัง แต่ก็รู้สึกคุ้นๆ เหลือเกิน น้ำเสียงก็เหมือนกัน เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
ปอ ตัวเองนั่งก่อนดีกว่านะ น้ำรีบบอกโอปอล์ หลังจากที่โอปอล์คลายอ้อมกอดแล้ว
อ๋อ ได้จ้ะ
พอโอปอล์หันหน้ามาเท่านั้น พิมพ์ลักษณ์ถึงขั้นออกอาการเหวอที่เห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใคร ส่วนโอปอล์นั้นอมยิ้ม ก่อนที่จะทักทายพิมพ์ลักษณ์อย่างอารมณ์ดี แล้วนั่งลงข้างๆ เธอ
สวัสดีค่ะ คุณพิมพ์ลักษณ์ เจอกันอีกแล้วนะคะ โลกกลมจริงๆ
เอ่อ สวัสดีค่ะคุณ พิมพ์ลักษณ์ ยังคงอึ้งอยู่ ที่มักจะเจอคนๆ นี้แบบไม่ได้คาดฝันเสมอ
โอปอล์ค่ะ ไม่เจอกันไม่กี่วันคุณถึงกับจำชื่อเราไม่ได้เลยเหรอ โอปอล์พูดพลางยักคิ้วให้พิมพ์ลักษณ์ ส่งผลให้เธอชักสีหน้าขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
น้ำกับบิวที่นั่งมองอยู่ยังคงงงๆ กับทั้งสอง เมื่อฝ่ายโอปอล์นั้นยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดีถึงแม้ว่าจะดูเป็นยิ้มแบบกวนๆ ส่วนพิมพ์ลักษณ์นั้นท่าทางดูเหมือนกับกำลังหงุดหงิดอะไรอยู่ และท่าทางของทั้งสองเหมือนกับว่ากำลังอยู่กันเพียงสองคน ทั้งที่ในโต๊ะนั่งกันอยู่สี่คนแท้ๆ
เอ่อ พี่ปอ หวัดดีฮะ บิวจึงทักทายโอปอล์ แม้จะไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่
หวัดดีจ้าบิว สบายดีมั้ย โอปอล์ยังคงส่งยิ้มให้บิว
เอ่อ แล้วปอกับพี่พิมพ์ รู้จักกันมาก่อนเหรอคะ น้ำเอ่ยถาม พลางมองไปที่ทั้งคู่สลับกัน
จ้ะน้ำ ก็เจอกันสองสามครั้งได้แล้วล่ะ โอปอล์ชิงตอบก่อน ส่วนพิมพ์ลักษณ์นั้นยังคงนั่งนิ่ง
เหรอ อืม โลกมันกลมจริงๆ ด้วยเนอะ พี่พิมพ์น่ะเป็นเพื่อนกับพี่นุ่น พี่สาวเค๊าไง ส่วนปอก็เป็นรุ่นน้องของน้ำที่มหาลัยค่ะพี่พิมพ์ น้ำบอกทั้งสอง
อืม แล้วไหนล่ะ คนที่น้ำบอกว่าจะพามาแนะนำให้รู้จัก แถมยังบอกว่าปอต้องตกหลุมรักคนๆ นี้แน่ๆ โอปอล์ถามน้ำด้วยสีหน้ายิ้มๆ
ส่วนน้ำก็ยิ้มตอบกลับมา พลางบุ้ยใบ้ให้โอปอล์รู้ว่าคนๆ นั้น ก็คือพิมพ์ลักษณ์นั่นเอง โอปอล์ทำหน้างงๆ แล้วก็ถึงบางอ้อทันที พลางรีบหันไปมองคนข้างๆ พร้อมทั้งทำตาโต พิมพ์ลักษณ์ยังคงนั่นหน้าบึ้งตึงอยู่ โอปอล์จึงคิดอยากหยอกคนหน้าบึ้งข้างๆ อีกครั้ง
นี่ น้ำอย่าบอกนะว่า คนๆ นั้นก็คือ คุณพิมพ์ยักษ์ เอ๊ย พิมพ์ลักษณ์ ได้ผล พิมพ์ลักษณ์หันขวับมามองทันที พลางส่งสายตาอำมหิตมาให้ โอปอล์หัวเราะทันที
น้ำยิ้มให้กับความขี้เล่นของโอปอล์ ส่วนบิวนั้นถึงแม้ว่าจะอยู่ในการเซ็ง แต่ก็ต้องส่งยิ้มแบบเจื่อนๆ ให้กับน้ำที่หันมามอง
โธ่! คุณ เราล้อเล่นน่ะ อย่าโกรธเลยนะ ก็เห็นคุณนั่นหน้าบูดอยู่อย่างนี้ ก็เลยอยากให้คุณยิ้มไง
ฉันจะทำหน้าตาแบบไหน มันก็เรื่องของฉัน แล้วคุณมาเดือดร้อนอะไรด้วยล่ะ พิมพ์ลักษณ์เชิดหน้าตอบกลับโอปอล์
อุ้ย! โกรธจริงเหรอเนี่ย เราขอโทษละกัน ถ้างั้นมื้อนี้เราจ่ายเองละกัน ถือเป็นการไถ่โทษนะ โอปอล์รีบง้อพิมพ์ลักษณ์
นี่คุณ คุณคิดว่าเงินน่ะซื้อได้ทุกอย่างเลยเหรอไง พิมพ์ลักษณ์ถามโอปอล์แบบกวนๆ ถือว่าแก้เผ็ดโอปอล์ เธอยังจำวันที่เธอพบโอปอล์ครั้งแรกได้ วันนั้นเธอไม่ได้คิดอะไรกับการให้เงินโอปอล์เป็นสินน้ำใจตอบแทนที่โอปอล์เก็บกระเป๋าสตางค์มาคืนให้เธอ แต่โอปอล์กลับคิดว่าเธอน่ะไม่รู้จักคำว่าน้ำใจ
โหคุณ เล่นอย่างนี้เลยเหรอ โอเค เราไม่เลี้ยงก็ได้ ขี้เกียจเถียงกับคุณแล้ว ไปเข้าห้องน้ำดีกว่า น้ำเดี๋ยวเราไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ พอดีลืมไปว่าปวดชิ๊งฉ่อง มัวแต่ตกตะลึงในความสวยของรุ่นพี่ที่น้ำอยากให้ปอรู้จักไง โอปอล์พูดจบก็หันมายักคิ้วให้กับพิมพ์ลักษณ์หนึ่งที แล้วรีบลุกเดินไปจากโต๊ะอย่างรวดเร็ว ส่วนพิมพ์ลักษณ์นั้นได้แต่ออกอาการฮึดฮัดอยู่คนเดียว
เอ่อ พี่พิมพ์คะ อย่าไปถือสาปอเลยนะคะ ปอก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ กวนประสาท ขี้เล่น แต่จริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไร เป็นคนที่น่าคบคนหนึ่ง น้ำรีบพูดทันทีเมื่อเห็นว่าพิมพ์ลักษณ์เริ่มจะอารมณ์ไม่ดีซะแล้ว
แหม ปกป้องกันจังเลยนะน้ำ เค๊าว่าไอ้คุณปอของน้ำน่ะสร้างภาพซะมากกว่าละมั้ง แล้วนี่ยังไง ถึงได้นัดมันมาทานข้าวด้วยน่ะ ที่น้ำไม่อยากให้เค๊ามาด้วยก็เพราะเหตุนี้ใช่มั้ยล่ะ บิวถามกลับอย่างมีอารมณ์
ก็น้ำรู้ไงว่าถ้าบิวมา แล้วบิวจะเป็นยังไง พอเถอะบิว น้ำไม่อยากมานั่งทะเลาะกับบิวเพราะเรื่องนี้อีกแล้วนะ น้ำตัดบทอย่างเบื่อหน่าย
เหรอ แล้วทำไมไม่บอกเค๊าก่อนล่ะ เค๊าจะได้ไม่ต้องมาด้วย ก็ไม่อยากมานักหรอกนะ อ้อ แล้วนัดไอ้คุณปอกับพี่พิมพ์ให้มาเจอกัน น้ำกำลังจะทำอะไรน่ะ
พิมพ์ลักษณ์เริ่มหายจากอารมณ์หงุดหงิดเมื่อได้ยินว่าเธอเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับบทสนทนาซะแล้ว
ก็จะทำไมล่ะบิว ทำไมน้ำถึงจะพาปอกับพี่พิมพ์มารู้จักกันไม่ได้ ปอก็เป็นคนดี พี่พิมพ์ก็เป็นพี่สาวที่ดีของน้ำ รู้จักกันไว้ก็ไม่เสียหายอะไรนี่ น้ำตอบกลับบิวอย่างกวนๆ ตอนนี้น้ำรู้สึกว่าอารมณ์ของเธอเริ่มจะไม่ดีเข้าแล้ว เมื่อกี้อุตส่าห์ตัดบทแล้วแท้ๆ แต่คนข้างๆ กลับชวนทะเลาะอีก
เหรอ ก็เลยจัดการนัดบอร์ดให้เพื่อนเก่าที่รัก กับ พี่สาว ได้มารู้จักกัน เอ๊! หรือว่าเป็นแค่ฉากบังหน้า ที่จริงแล้วน้ำต้องการที่จะเจอกับไอ้คุณปอมากกว่าล่ะมั้ง ทำไมน้ำ จะกลับไปคบกับมันอีกเหรอไง บิวเริ่มโมโห ส่วนน้ำเองดีกรีความโกรธก็ไม่ต่างกับบิวเลย
เอ่อ ... พิมพ์ลักษณ์รับรู้ถึงสถานการณ์ตรงหน้า แต่เธอพูดอะไรไม่ออกจริงๆ เพราะว่าเธอก็ไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสามมาก่อน
บิว น้ำบอกแล้วใช่มั้ย ว่าระหว่างน้ำกับปอเราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น แล้วจะทำไมถ้าน้ำอยากให้ปอเจอคนที่ดีซักที เหมือนกัน พี่พิมพ์เองน้ำก็อยากจะให้เจอคนที่ดีด้วย น้ำพูดแล้วหันไปจ้องตาบิวอย่างท้าทาย
อ๋อ ถ้างั้นคนที่ดีที่น้ำหมายถึงนี่ก็คือพี่พิมพ์น่ะสินะ ส่วนไอ้คุณปอของน้ำน่ะ ถ้ามันเป็นคนดีจริง ตอนนั้นมันคงไม่แย่งน้ำไปจากบิวหรอก บิวยิ้มเหยียดๆ ให้กับน้ำ
บิว น้ำเรียกบิวเสียงเข้ม ความโกรธของน้ำตอนนี้พุ่งถึงขีดสุดแล้ว บิวจึงเบือนหน้าหนีไปอีกทาง
พิมพ์ลักษณ์เมื่อได้ยินดังนั้นถึงกับตกใจ เพราะว่าจริงๆ แล้วเธอก็คิดว่าโอปอล์แค่กวนประสาทเท่านั้น โดยนิสัยก็น่าจะเป็นดีคนหนึ่ง เพราะว่าแต่ละคนที่เธอรู้จักแล้วบุคคลเหล่านั้นก็ล้วนแต่รู้จักโอปอล์ ก็ยังชมเลยว่าโอปอล์เป็นคนน่าคบ แล้วที่ได้ยินมานี่มันยังไงกันนะ แล้วทำไมเธอต้องรู้สึกเสียใจลึกๆ ด้วย กับการที่โอปอล์แย่งน้ำไปจากบิว แต่แล้วความคิดก็ต้องหยุดลง เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นร่างสูงที่กำลังจะเดินกลับมาที่โต๊ะแล้ว
เอ่อ พี่ว่าใจเย็นๆ กันก่อนดีมั้ย เพราะว่านู่น เอ่อ คุณปอเดินกลับมาแล้วล่ะ พิมพ์ลักษณ์บอกบิวกับน้ำที่ยังคงหันหน้าไปคนละทาง
อืม พี่พิมพ์ฮะ ที่เมื่อกี้ไอ้คุณปอ บอกจะเลี้ยงมื้อนี้น่ะ บิวว่าก็ดีนะฮะ พี่พิมพ์จะได้ไม่ต้องเสียตังค์ บิวหันหน้ากลับมาสู่โต๊ะอาหาร ส่งผลให้น้ำที่ได้ยินหันหน้ากลับมาที่โต๊ะอาหารด้วยอีกคน
ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่พิมพ์ เดี๋ยวน้ำเลี้ยงเองก็ได้ เพราะว่าน้ำเป็นคนชวนพี่พิมพ์กับปอมา น้ำรีบบอก
แต่พี่ว่า ให้เค๊าเลี้ยงน่ะก็ดีนะ เมื่อกี้อยากมากวนประสาทพี่ทำไม ดีล่ะ จะเอาคืนซะให้เข็ด
โอปอล์เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ ทั้งสามจึงรีบเปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว พร้อมกับพนักงานเสิร์ฟที่กำลังนำอาหารมาวางบนโต๊ะ
ปอ ตัวเองจะสั่งอะไรเพิ่มอีกมั้ย น้ำเอ่ยถามโอปอล์
แต่ที่เห็น ปอว่ามันก็เยอะแล้วนะ
ถ้างั้น เดี๋ยวพี่สั่งเพิ่มดีกว่าน้ำ เพราะว่าไหนๆ มื้อนี้ก็มีเจ้ามือแล้วนี่นา พิมพ์ลักษณ์พูดพร้อมทั้งส่งสายตากวนๆ ให้โอปอล์ มือก็โบกเรียกเด็กเสริฟ
อ้าว ไหงเป็นงั้นล่ะคะคุณพิมพ์ เปลี่ยนใจเร็วซะจริงๆ โอปอล์พูดพลางส่ายหน้าอย่างอารมณ์ดี
สั่งเลยบิว เต็มที่ พิมพ์ลักษณ์บอกบิวแล้วหันไปยังคิ้วให้โอปอล์บ้าง
พิมพ์ลักษณ์สั่งอาหารเพิ่มไปอีก สองสามอย่าง แล้วทั้งสี่จึงจัดการกับอาหารตรงหน้า บิวที่ตอนนี้ยังโกรธน้ำอยู่จึงเอาอกเอาใจพิมพ์ลักษณ์ด้วยการตักนั่นตักนี่ให้ โอปอล์เห็นดังนั้นจึงเอาอกเอาใจน้ำบ้าง ทั้งพิมพ์ลักษณ์และน้ำก็รู้สึกอึดอัดไม่ใช่น้อย จนเมื่อทั้งหมดรู้สึกอิ่มกันแล้ว โอปอล์จัดการเรียกเช็กบิล น้ำและพิมพ์ลักษณ์จึงมองหน้ากันพลางส่งยิ้มให้กันเหมือนเป็นสัญญาณว่า ในที่สุดก็จะจบแล้วกับความอึดอัดตรงนี้
เอ่อ พี่พิมพ์ฮะ เดี๋ยวบิวว่า จะไปนั่งต่อที่ร้านพี่กุ้งน่ะ พี่พิมพ์ไปด้วยกันมั้ยฮะ
เหรอ น่าสนใจนะ พรุ่งนี้วันเสาร์ด้วย พิมพ์ลักษณ์ทำหน้าสนใจ พลางคิดในใจ เธอไม่ได้ไปนั่งที่ร้านเหล้าเพื่อนมาหลายอาทิตย์แล้วนี่น
ใช่ฮะพี่พิมพ์ วันนี้บิวอยากกินเหล้า บิวพูดเสร็จก็ปรายตาไปมองคนข้างๆ
อยากกินเหล้าเหรอบิว ถ้างั้นน้ำไปด้วย น้ำรู้สึกหมั่นไส้บิว
อ้าวก็ไหนว่า น้องนิวไม่สบาย น้ำไม่รีบกลับไปดูแลลูกเหรอไง
ไม่เป็นไรหรอก น้องนิวน่ะ ไปอยู่กับคุณพ่อเค๊ากลับมาวันอาทิตย์นู่นแน่ะ น้ำพูดกลับบิวอย่างเป็นต่อ แถมยังชวนโอปอล์ไปด้วย พิมพ์ลักษณ์กับบิวถึงขั้นเหวอ
หลังจากที่เคลียร์ค่าอาหารหมดแล้ว ทั้งสี่จึงออกจากร้านเดินตรงมาที่ลานจอดรถ
เออ น้ำ ร้านอยู่ตรงไหนเหรอ โอปอล์เอ่ยถามน้ำ
เอาไงดีล่ะ งั้นเดี๋ยวน้ำนั่งรถปอไปดีกว่า พี่พิมพ์นั่งไปกับบิวแล้วกันนะคะ บิวชักสีหน้าทันที ส่วนน้ำไม่กล้ามองหน้าบิว พิมพ์ลักษณ์เกรงว่าทั้งสองจะทะเลาะกันอีกครั้ง จึงอาสานั่งไปกับโอปอล์เอง
เอ่อ พี่ว่าเดี๋ยวพี่นั่งไปกับคุณปอก็ได้ น้ำขับรถของน้ำไปดีกว่านะ
ถ้างั้น ก็เชิญทางนี้ค่ะคุณพิมพ์ลักษณ์ โอปอล์อมยิ้มแล้วเดินนำพิมพ์ลักษณ์ไป
แบบนี้คงสมใจน้ำแล้วสินะ บิวยังคงประชดน้ำต่อไป ก่อนที่จะเดินไปที่รถ น้ำจึงเดินตามไป
รถยุโรปคันหรู กำลังขับตามรถคันเล็ก ไปตามถนนสุขุมวิท ที่ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเวลา 3 ทุ่มแล้ว รถราบนท้องถนนก็ยังคงมีมากอยู่ แล้ววันนี้ก็ยังเป็นคืนวันศุกร์เสียด้วย บ้างก็กำลังรีบขับรถกลับบ้าน บ้างก็กำลังหาที่สถานที่พักผ่อนหย่อนใจยามค่ำคืน
โอปอล์เอื้อมมือไปเปิดวิทยุบนรถ เพื่อทำลายความเงียบ เพราะว่าตั้งแต่ขึ้นรถมาพิมพ์ลักษณ์ยังไม่ปริปากพูดอะไรออกมาซักคำ แถมยังหันหน้ามองแต่ออกไปด้านข้าง โอปอล์จึงเริ่มกวนประสาทอีกครั้ง
คุณ ข้างนอกมันมีอะไรน่าสนใจเหรอ คุณถึงจ้องเอาๆ น่ะ
ได้ผล พิมพ์ลักษณ์หันหน้ากลับมามองโอปอล์ ที่กำลังขับรถอยู่
เปล่า ก็ฉันไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับคุณนี่นา แต่ว่าตอนนี้ฉันคิดว่าจะคุยกับคุณแล้วล่ะ
โอปอล์จึงเหลียวมามองหน้าพิมพ์ลักษณ์แล้วหันกลับไปสนใจกับการขับรถต่อ
แล้วตอนนี้มีเรื่องอะไรอยากคุยกับเราล่ะ
เอ่อ คุณรู้จักกับน้ำมานานหรือยัง
อ๋อ เราเป็นรุ่นน้องน้ำที่มหาลัยน่ะ น้ำไม่ได้บอกคุณเหรอ โอปอล์เลิกคิ้วพลางหันมามองหน้าพิมพ์ลักษณ์
แล้วเอ่อ... เอ่อ... พิมพ์ลักษณ์ได้แต่อึกอักไม่กล้าเอ่ยถามโอปอล์ในสิ่งที่อยากรู้
จะถามอะไรก็ถามเถอะ ถ้ามันไม่เข้าเรื่องส่วนตัวเรามากไป เราก็จะตอบ
แล้วคุณเคยคบกับน้ำเหรอ พิมพ์ลักษณ์กลั้นใจถาม เพราะว่ากลัวโอปอล์จะไม่พอใจ
โธ่เอ๊ย เรื่องนี้เอง ใช่ เราเคยคบกับน้ำ แต่มันก็นานมาแล้วล่ะ โอปอล์ตอบด้วยสีหน้านิ่งๆ
เออ มันคงเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณ ฉันขอโทษละกันที่ละลาบละล้วงถาม พิมพ์ลักษณ์เอ่ยออกมา เมื่อมองเห็นใบหน้านิ่งๆ นั้น
ช่างมันเถอะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว แล้วต้องเลี้ยวเข้าซอยนี้ใช่มั้ย โอปอล์เปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นว่ารถคันเล็กของน้ำเลี้ยวเข้าไปในซอยแล้ว
ใช่ เลยไปอีกนิดนึง ก็ถึงแล้ว พิมพ์ลักษณ์บอกโอปอล์ การสนทนาเป็นอันสิ้นสุดลง เมื่อเธอเห็นว่าโอปอล์ยังคงรักษาความนิ่งอยู่บนใบหน้าเหมือนเดิม
เมื่อทั้งสี่เข้ามาในร้าน จึงหามุมสงบๆ นั่ง พิมพ์ลักษณ์ถามหาเพื่อนของเธอที่เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของร้านทันที แต่เด็กเสริฟบอกว่าวันนี้เพื่อนของเธอไม่เข้ามา บิวจึงจัดการสั่งเครื่องดื่มให้เรียบร้อย พิมพ์ลักษณ์สังเกตเห็นอาการของน้ำและบิว เธอคิดว่าเมื่อกี้ทั้งสองคงจะต้องมีสงครามขนาดย่อมเกิดขึ้นบนรถแน่ๆ เพราะว่าหน้าตาของทั้งคู่ดูปั้นปึ่งใส่กันชอบกล เมื่อสุราและเครื่องผสมทั้งหลายแหล่ถูกลำเลียงมายังโต๊ะ น้ำก็นั่งคุยกับโอปอล์อย่างออกรส โดยที่ไม่สนใจบิว ส่วนบิวเองบิวก็ดื่มเอาๆ ไม่สนใจน้ำเช่นกัน
บิวพี่ว่าค่อยๆ ดื่มก็ได้ จะรีบไปไหนเดี๋ยวก็เมาพอดีหรอก พิมพ์ลักษณ์เอ่ยเตือนบิว
โธ่ พี่พิมพ์ถ้าอยากไม่อยากให้พิมพ์เมา พี่พิมพ์ก็ช่วยบิวกินสิฮะ บิวบอก พลางส่งสายตามาที่พิมพ์ลักษณ์แบบอ้อน ๆ
พิมพ์ลักษณ์มองไปที่โอปอล์และน้ำที่ยังคุยกันอยู่อย่างสนิทสนม แล้วนึกหมั่นไส้โอปอล์ นี่ถ้าวันนี้โอปอล์ไม่มา บิวกับน้ำก็คงไม่ต้องทะเลาะกัน แล้วบิวก็ไม่ต้องกินเหล้าเหมือนน้ำเปล่าอย่างนี้ ว่าแล้วเธอก็ยกแก้วเหล้าขึ้นชนกับบิว
เอ้า บิว ชน พิมพ์ลักษณ์กระดกน้ำสีอำพันจนหมดแก้ว บิวรีบชงแก้วใหม่ให้ทันที
โอปอล์มองพิมพ์ลักษณ์ด้วยความฉงนเล็กน้อย แต่แล้วก็หันหน้ากลับมาคุยกับน้ำเหมือนเดิม
เฮ้อ บิวนะบิว ก็รู้ว่าตัวเองน่ะคอไม่แข็งแล้วยังจะกินเหล้าเยอะอีก พี่พิมพ์อีกคนคึกอะไรของเค๊านะ ถึงได้กินเหล้าเอาซะขนาดนี้ น้ำพูดพลางส่ายหัว
เอาน่าน้ำ พรุ่งนี้ก็วันเสาร์นี่นา คงไม่ได้ไปทำงานกันหรอก พอโอปลอล์พูดจบ พิมพ์ลักษณ์จึงยกแก้วให้โอปอล์
ดื่มหน่อยสิคุณ ชวนมานั่งกินเหล้านะ พิมพ์ลักษณ์ส่งสายตากวนๆ ให้โอปอล์ มีหรือที่โอปอล์จะยอมแพ้ คว้าแก้วเหล้ามาดื่มรวดเดียวหมดแก้ว
หลังจากนั้นทั้งสามคนก็จัดการเหล้าซะหมดขวด แต่ที่ดื่มเยอะน่าจะเป็นบิวกับพิมพ์ลักษณ์ซะมากกว่า ที่ตอนนี้เริ่มพูดจาอ้อแอ้ฟังไม่รู้เรื่องซะแล้ว โอปอล์จึงจัดการเรียกเด็กเสริฟมาเช็กบิล แล้วจึงประคองพิมพ์ลักษณ์ออกมารอน้ำที่พยุงบิวเดินตามออกมา น้ำยังคงบ่นไม่หยุดที่บิวเมาไม่รู้เรื่อง
ปอ เค๊าวานตัวเองไปส่งพี่พิมพ์หน่อยนะ เดี๋ยวเค๊าพาบิวกลับก่อน น้ำพูดพร้อมทั้งพยุงบิวเดินจากไป อย่างหงุดหงิด ส่วนโอปอล์ได้แต่ทำหน้าเหวอ แล้วประคองพิมพ์ลักษณ์เดินไปที่รถของตัวเอง
หลังจากที่โอปอล์จัดการให้พิมพ์ลักษณ์นั่งในรถเรียบร้อย จึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อที่จะโทรถามน้ำ เพราะว่าเมื่อกี้เธอมัวแต่งง ที่จู่ๆ น้ำก็ให้เธอไปส่งผู้หญิงคนนี้ เลยลืมถามไปว่าจะให้ไปส่งที่ไหน
ตู๊ด ตู๊ด ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
เฮ้ย น้ำ ทำไมมาแบตหมดตอนนี้ล่ะเนี่ยแล้วจะรู้มั้ยว่าจะต้องไปส่งยัยนี่ที่ไหน เฮ้อ แบตมือถือก็ใกล้จะหมดแล้วด้วย จะทำไงดีเนี่ย โอปอล์มองไปที่โทรศัพท์มือถือของตัวเองพลันใช้ความคิด แต่แล้วรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้า เธอเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าถือมาจากมือของพิมพ์ลักษณ์แล้วล้วงเข้าไปหยิบโทรศัพท์มือถือของพิมพ์ลักษณ์ออกมา
ขออนุญาต โทรหาพี่สาวคุณหน่อยนะคุณพิมพ์ลักษณ์ พอโอปอล์มองเห็นหน้าจอโทรศัพท์เท่านั้น หน้าเธอหุบยิ้มอย่างรวดเร็ว
โธ่เอ๊ย มาแบตหมดอะไรตอนนี้เนี่ย แต่ว่าเปลี่ยนซิมก็ได้แฮะ ยังมีหวังเรา ว่าแล้วก็จัดการแกะโทรศัพท์ของพิมพ์ลักษณ์ พอโอปอล์จึงหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเพื่อที่จะจัดการเปลี่ยนซิมการ์ด หน้าจอก็ดับวูบ
เฮ้ย อย่าเพิ่งหมดสิ ซวยแล้วเรา จะทำไงดีล่ะนี่ เฮ้อ พาไปที่คอนโดก่อนก็แล้วกัน
โอปอล์จัดการกับโทรศัพท์ของพิมพ์ลักษณ์เรียบร้อยแล้วจึงใส่คืนในกระเป๋า ก่อนที่จะขับรถไปยังคอนโดหรูของตัวเอง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
By : Viswee   Date : 10 Sep 2006 23:37
|