รักครั้งใหม่ หัวใจคือเธอ (6)
รักครั้งใหม่ หัวใจคือเธอ (6)
ร้านอาหารภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง หญิงสาวสวยกำลังสั่งอาหารกับบริกร แต่แล้วเธอก็โบกมือให้หญิงสาวอีกคนที่กำลังเดินตรงรี่เข้ามาหา
พี่ทิพย์คะ ขอโทษทีค่ะ รอนานมั้ยคะเนี่ย โอปอล์รีบนั่งลงตรงข้ามกับทิพย์วิภา
ไม่นานหรอกจ้ะ รถติดเหรอปอ นั่งพักก่อนละกันนะ เดี๋ยวค่อยสั่งอาหาร ท่าทางปอจะเหนื่อยนะเนี่ย อืม ขอมะนาวโซดาแก้วหนึ่งค่ะ ปอเอาอะไรดีจ๊ะ เธอส่งยิ้มให้โอปอล์อย่างเอ็นดู
แหะ แหะ งั้น มะนาวโซดาอีกแก้วละกันค่ะ โอปอล์หันไปบอกบริกร
หิวมั้ยคะปอ นี่เมื่อกี้พี่สั่งไป สองสามอย่างแล้วล่ะ ปออยากทานอะไรเพิ่มก็ดูในเมนูน๊ะจ๊ะ ทิพย์วิภาพูดพร้อมกับส่งเมนูอาหารให้โอปอล์
ไม่เป็นไรค่ะพี่พิทย์ ปอทานอะไรก็ได้ โอปอล์ส่งยิ้มหวานให้ทิพย์วิภา
อืม จ้า ยังคงไม่เรื่องมากเหมือนเดิมนะเรา เออ ว่าแต่ว่าปอเห็นช่าวซุบซิบหรือยังจ๊ะ
ข่าวซุบซิบ โอปอล์เลิกคิ้ว
ก็ เอ่อ ก็วันที่ปอไปงานเปิดร้านเพชรคุณนันทิกากับพี่ไง แล้วพอดี เอ่อ
ทิพย์วิภารู้สึกว่าพูดลำบากเหลือเกิน เธอกลัวโอปอล์จะโกรธ วันนั้นโอปอล์อุตส่าห์ใจดีไปเป็นเพื่อนเธอ แต่กลับกลายเป็นเธอเองที่พาโอปอล์ให้มาตกเป็นหัวข้อสนทนาในสังคมไฮโช ทั้งที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไร เธอน่ะชินซะแล้วกับเรื่องพวกนี้ แต่โอปอล์ล่ะจะรู้สึกยังไง แล้วยิ่งเป็นข่าวเรื่องรักๆ ใคร่ๆ แบบนี้ด้วย โอปอล์เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าที่ดูกังวลของทิพย์วิภาแล้ว จึงส่งรอยยิ้มน้อยๆ กลับไป
พี่ทิพย์คะ จะพูดอะไรก็พูดเถอะค่ะ ฮึ มีเรื่องอะไรเหรอคะ
คือว่านักข่าวน่ะ เขียนแซว เอ่อ เอ่อ ...
ว่าไงคะ โอปอล์ยิ้ม พลางจ้องตาของอีกฝ่าย
ว่าพี่กับปอน่ะ เอ่อ เอ่อ กำลังคบกัน ทิพย์วิภาแทบไม่หายใจเลยทีเดียว เธอเสไปมองทางอื่น
ฮะ ว่าอะไรนะคะ โอปอล์ดูตกใจ แต่แล้วก็หัวเราะออกมา และเพราะเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีนี้เองจึงทำให้ทิพย์วิภาหันกลับมามองคนตรงหน้าอีกครั้ง
ยังจะมาหัวเราะอีก ขำไม่ออกน่ะสิ รู้มั้ยพี่ต้องรับโทรศัพท์ตอบคำถามจากคนนั้นคนนี้วุ่นวายทั้งวันเลย เฮ้อ นี่ดีนะที่แบตมือถือหมดไปแล้ว ไม่งั้นล่ะก็ เฮ้อ หูชาแน่ๆ เลยฉัน ทิพย์พูดพลางส่ายหัว
โธ่! พี่ทิพย์คะ ปอว่าพี่ทิพย์น่าจะชินซะแล้วนะคะ กับข่าวซุบซิบพวกนี้ ก็แหม ไฮโซสาวสวยอย่างพี่ทิพย์น่ะ ปอว่าไปกับใครก็ตกเป็นข่าวด้วยหมดแหล่ะค่า ปอน่าจะดีใจมากกว่านะคะ ที่ได้รับเกียรติเป็นคนรักของพี่ทิพย์ในข่าวซุบซิบพวกนี้ โอปอล์พูดจบแล้วส่งยิ้มหวานให้กับทิพย์วิภา
พูดเกินไปแล้วปอ ทิพย์วิภาพูดอะไรไม่ออก เธอก้มหน้าลงเล็กน้อย เพียงเพราะไม่อยากให้โอปอล์เห็นว่าแก้มของเธอเริ่มมีสีแดงระเรื่อ
ไงคะพี่ทิพย์ เขินเหรอคะ ก้มหน้างุดเชียว เอ๊! หรือว่าเราจะคบกันจริงๆ ให้มันเหมือนกับในข่าวดีคะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า แหม ปอก็รอพี่ทิพย์มาตั้งนาน ถ้ารู้ว่าจะตกเป็นข่าวแบบนี้ วันหลังปอจะไปไหนมาไหนกับพี่ทิพย์บ่อยๆ ดีมั้ยคะเนี่ย
ทิพย์วิภาเงยหน้ามองโอปอล์ พลางทำตาโตใส่
ทะเล้นใหญ่แล้ว ไปอยู่เมืองนอกมาไม่กี่ปี กลายเป็นแบบนี้ไปแล้วเหรอปอ ฮึ
ล้อเล่นค่า แล้วนี่พี่โอ๊คเห็นข่าวหรือยังคะเนี่ย
เอ๊ะ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ยังไม่เห็นหรอกมั้ง เพราะว่าถ้าโอ๊คเห็นก็ต้องโทรมาถามพี่แล้วล่ะ
เสียงโทรศัพท์มือถือของโอปอล์ดังขึ้น โอปอล์หยิบออกมาดู
เอ๊ แต่ปอว่าตอนนี้พี่โอ๊คคงเห็นแล้วมั้งคะ พี่ทิพย์ขา โอปอล์พูดจบแล้วก็ส่งโทรศัพท์มือถือให้ทิพย์วิภาดู ว่าใครเป็นคนที่โทรเข้ามา ทิพย์วิภาพยักหน้าแบบเบื่อๆ
เฮ้อ โอ๊คจะว่ายังไงเนี่ย รีบรับเถอะปอ โอ๊คยิ่งอยากรู้เรื่องอยู่ขืนปอรับช้านะ พี่ว่าโอ๊คต้องวีนแหงๆ
โอปอล์จึงรีบกดรับโทรศัพท์ทันที
ฮัลโหล ว่าไงคะ พี่โอ๊ค มีอะไรให้ปอรับใช้คะ
นี่ไอ้ปอ แกเห็นข่าวแกกับพี่ทิพย์หรือยังยะ
ยังไม่เห็นค่ะ แต่ทราบแล้วค่ะ โอปอล์ตอบโทรศัพท์หน้ายิ้ม
เนี่ย ฉันติดต่อพี่ทิพย์ไม่ได้เลย นี่ปกติมีข่าวกับผู้ชาย ฉันยังเฉยๆ นะยะ แต่พอพี่ทิพย์เป็นข่าวกับแก ฉันว่ามันแปลกๆ ยังไงไม่รู้ว่ะ แล้วนี่แอบไปงานด้วยกันมาเมื่อไหร่เนี่ย ทำม๊าย ฉันถึงไม่รู้เรื่องเลยล่ะ โอ๊คบ่นมาตามสายโทรศัพท์
เออ พี่โอ๊คคะ คือตอนนี้ปออยู่กับพี่ทิพย์ค่ะ พี่โอ๊คจะคุยกับพี่ทิพย์มั้ยคะ โอปอล์รีบส่งโทรศัพท์มือถือให้ทิพย์วิภาทันที
จ้า ไม่มีอะไรหรอกโอ๊ค นักข่าวก็แซวไปเรื่อยเปื่อยแหล่ะ สงสัยวันนี้พี่มาทานข้าวกับปอ คงจะเป็นข่าวอีกรอบล่ะมั้ง หึ หึ หึ จ้า ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ จะคุยกับปอต่อมั้ย ทิพย์วิภาส่งโทรศัพท์มือถือคืนให้โอปอล์
ค่า พี่โอ๊ค ได้ค่า ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ค่ะ สวัสดีค่ะ โอปอล์กดวางโทรศัพท์ บริกรยกอาหารมาเสริฟ พอดี ทั้งสองจึงเปลี่ยนไปสนใจกับอาหารตรงหน้าแทน
เฮ้อ อิ่มจังเลยค่ะพี่ทิพย์ ตั้งแต่ปอกลับมาเนี่ย ปอยังไม่เคยทานอาหารไทยอร่อยแบบนี้เลย นอกจากที่บ้าน
จ้า ก็ของเค๊าอร่อยจริงแหล่ะ ไม่งั้นพี่ก็คงไม่มาทานบ่อยๆ หรอก แล้วนี่ปอไปไหนต่อหรือเปล่าล่ะ พี่ว่าเดี๋ยวพี่จะเข้าไปซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตซักหน่อย ไปด้วยกันมั้ย
โอปอล์พยักหน้า ทั้งคู่จึงเดินเข้าไปในซุปเปอร์มาเก็ตด้วยกัน เวลาดีๆ ที่ได้อยู่กับทิพย์วิภาอย่างนี้มีเหรอ โอปอล์จะยอมพลาด สมัยก่อนตอนที่โอปอล์มาทานข้าวในห้างแบบนี้กับทิพย์วิภา แทบทุกครั้งเธอจะต้องตามมาช่วยทิพย์วิภาเข็นรถเข็น เพราะเวลาอย่างนี้แหล่ะที่จะได้พบเห็นอีกด้านหนึ่งของทิพย์วิภา ที่ไม่ค่อยมีใครจะได้เห็นมากนัก ทิพย์วิภาจะเหมือนเด็กที่กำลังเดินหาของเล่น แล้วหยิบใส่รถเข็น ดูเป็นภาพที่น่ารักที่ยังคงติดอยู่ในใจของโอปอล์เสมอมา
พี่ทิพย์คะ สงสัยข่าวเราคงจะดังมากพอดูเลยนะเนี่ย ปอเห็นคนเค๊ามองปอกับพี่ทิพย์ใหญ่เลย โอปอล์พูดอย่างอารมณ์ดี ทิพย์วิภาจึงเหลียวมองรอบตัวบ้าง แล้วก็ต้องหัวเราะตามโอปอล์อย่างขำๆ
เฮ้อ น่าเบื่อจัง บางทีการมีชื่อเสียงนี่ก็ไม่ดีเลยนะเนี่ย ทิพย์วิภาพูดพลางส่ายหัวเบาๆ
กว่าที่ทั้งคู่จะเลือกซื้อของเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบชั่วโมง โอปอล์เข็นรถเข็นเดินตามทิพย์วิภามาที่ที่จอดรถ
พี่ทิพย์คะ สงสัยของที่พี่ทิพย์ซื้อไปเนี่ยคงทำให้พี่ทิพย์สามารถอยู่แต่ในบ้านโดยไม่ต้องออกไปไหนได้เป็นเดือนเลยมั้งคะ
เกินไปมั้ยปอ ก็พี่ขี้เกียจออกมาซื้อบ่อยๆ นี่นา มีโอกาสก็ซื้อตุนไว้ซะ
โอปอล์จัดการช่วยทิพย์วิภาขนของต่างๆ ลงในที่เก็บของหลังรถ
ปอ จอดรถไว้ตรงไหนล่ะ ทิพย์วิภาปิดฝากระโปรงหลังรถแล้วหันมาถามโอปอล์
ชั้นบนน่ะค่ะ เดี๋ยวปอค่อยขึ้นไปเอาก็ได้ รอส่งพี่ทิพย์ก่อน เดี๋ยวพี่โอ๊คจะหาว่าปอไม่ดูแลพี่ทิพย์
ทิพย์
เสียงเรียกทำให้ทั้งโอปอล์และทิพย์วิภาหันหลังกลับไปมอง ชายหนุ่มหน้าตาดีกำลังเดินเข้ามาหาทั้งคู่ โอปอล์ทำหน้างงเพราะว่าไม่รู้ว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นใคร จึงมองไปที่ทิพย์วิภา ใบหน้าที่มีรอยยิ้มของทิพย์วิภาดูซีดไป โอปอล์เริ่มรู้สึกถึงความไม่ปกติจึงเอื้อมมือไปจับมือทิพย์วิภาไว้เบาๆ ทิพย์วิภามองที่มือแล้วเธอก็บีบมือโอปอล์กลับ
ทิพย์ครับ ผมขอคุยอะไรกับคุณสักครู่ได้มั้ย ชายหนุ่มปรายตามองโอปอล์และพูดกับทิพย์วิภาอย่างอ้อนวอน
เอ่อ ทิพย์ไม่มีอะไรจะพูดกับคุณแล้วค่ะ แม๊ก โอปอล์รู้สึกว่าในขณะนี้ทิพย์วิภากำลังบีบมือของเธอแน่น เธอรับรู้ได้ทันทีว่าผู้ชายคนนี้คือใคร
นะครับ ผมไม่รบกวนเวลาคุณนานหรอก
ปอ รอพี่แป๊บนึงนะ อย่าเพิ่งกลับล่ะ ทิพย์วิภาหันมาพูดกับโอปอล์ แล้วจึงปล่อยมือโอปอล์ เดินไปอีกทางหนึ่ง ชายหนุ่มรีบเดินตามทันที
โอปอล์มองตามคนทั้งคู่อย่างครุ่นคิด แม๊ก ผู้ชายคนนี้สินะ ที่พี่ทิพย์เพิ่งเลิกราไป รู้สึกว่าพี่ทิพย์จะเสียใจมากอยู่เหมือนกัน เธอเคยคุยกับพี่โอ๊คเรื่องผู้ชายคนนี้มาบ้าง จึงได้รู้อะไรพอสมควร เหตุการณ์ที่มีผู้หญิงสองคนยืนด่าทอพี่ทิพย์วันนั้นก็แวบเข้ามาในความคิด คงจะเป็นคนนี้ล่ะสินะ ที่เป็นต้นเหตุให้ผู้หญิงพวกนั้นมารุกรานพี่ทิพย์ได้ โอปอล์ถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วต่อไปจะเป็นยังไงล่ะเนี่ย
ทิพย์วิภาเดินกลับมาที่รถ ชายหนุ่มคนนั้นเดินแยกจากไปตั้งแต่ทั้งคู่คุยกันเสร็จ ใบหน้าสวยของทิพย์วิภาหม่นลงจนโอปอล์อดที่จะสงสารไม่ได้
พี่ทิพย์คะ ไหวมั้ยคะ โอปอล์ถามอย่างห่วงใย พลางยื่นมือมาจับมือทิพย์วิภาไว้ ทิพย์วิภาพยักหน้าเบาๆ พลางส่งยิ้มอย่างเนือยๆ กลับมาให้โอปอล์ เธอรับรู้ถึงกระแสความห่วงใยที่ส่งมาจากมือเรียวที่จับมือเธอไว้ ทิพย์วิภาบีบมือโอปอล์เบาๆ
พี่ไม่เป็นไรหรอกปอ เดี๋ยวก็ดีเอง
แน่ใจน๊า อืม ปอเชื่อค่ะ ว่าพี่ทิพย์ของปอน่ะเก่งเสมอแหล่ะ โอปอล์ส่งยิ้มให้กับเธอ
ก๊อก ก๊อก ทิพย์วิภาลดกระจกรถลง พลางทำหน้าฉงน เมื่อเห็นว่าโอปอล์เคาะกระจกรถเธออยู่
พี่ทิพย์คะ ขับรถดีๆ นะคะ มีอะไรโทรหาปอนะ ยังไงปอก็ยังเป็นน้องสาวของพี่นะ
ทิพย์วิภายิ้มรับ พร้อมทั้งขับรถออกไป โอปอล์เดินไปที่รถของตัวเอง ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนที่จะขับรถออกมาอย่างรวดเร็ว
********************************************************************************************************************
พิมพ์ลักษณ์เดินตรงรี่เข้าไปสอบถามที่ล๊อบบี้ของโรงแรม เพื่อมาพบลูกค้าที่นัดเธอไว้ ณ โรงแรม The Pinnacle Grand แห่งนี้ แต่เนื่องจากพนักงานต้อนรับของโรงแรมไม่สามารถตอบคำถามอะไรได้มากนัก เนื่องจากว่าฝ่ายบริหารของโรงแรมนั้นไม่ได้อยู่ในความดูแลของของพวกเค๊า เธอจึงค่อยๆ เดินไปนั่งที่โซฟาในล๊อบบี้แทน
โอ๊ย แย่แล้วยายพิมพ์ แล้วทำไมหล่อนไม่ Save เบอร์โทรลูกค้าไว้เนี่ย แล้วจะได้งานมั้ย เฮ้อ พิมพ์ลักษณ์ถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด รู้สึกโมโหความสะเพร่าของตัวเอง
โอปอล์ที่กำลังเดินเข้ามาที่ล๊อบบี้ เห็นพิมพ์ลักษณ์นั่งอยู่ที่โซฟา หน้าตาบ่งบอกว่ากำลังอารมณ์ไม่ดีถึงขีดสุด คิ้วเรียวสวยขมวดเข้ากัน โอปอล์รีบหลบทันที สงสัยหาทางไปออฟฟิศเราไม่เจอแหงเลย โอปอล์คิดได้ดังนั้นจึงรีบกดโทรศัพท์มือถือหาเลขาของตัวเอง โอปอล์มองไปที่พิมพ์ลักษณ์เห็นเธอกำลังรับโทรศัพท์ หน้าที่บึ้งตึงอยู่เมื่อครู่นี้ เปลี่ยนเป็นยิ้มหวานซะแล้ว และตอนนี้พิมพ์ลักษณ์กำลังเดินตรงมาทางนี้เพื่อขึ้นลิฟต์ เฮ่ย! โอปอล์รีบหลบไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว พิมพ์ลักษณ์เดินเข้าลิฟต์ไปแล้ว โอปอล์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาแทนที่
สักพักก่อนนะคุณพิมพ์ลักษณ์ เดี๋ยวเราค่อยเจอกัน โอปอล์หัวเราะอยู่ในลำคอ
ฟึบ
โอปอล์สะดุ้งสุดตัวเมื่อมีมือใหญ่มาจับอยู่ที่ไหล่ของตน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มแหยๆ เมื่อหันไปเห็นว่าเป็นใคร จึงเปลี่ยนเป็นกอดแขนเอาใจผู้ที่ที่มายืนข้างเธอแบบไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัวทันที
โธ่! คุณป๋าขา ปอตกใจหมดเลย นี่กะว่าจะสวนแล้วนะเนี่ย
เจ้าปอ มายืนทำอะไรลับๆ ล่อๆ อยู่ตรงนี้ ป๋าเห็นตั้งแต่ปอเดินเข้ามาในล๊อบบี้แล้ว ท่าทางแปลกๆ เป็นอะไรหรือเปล่า คุณปิลันธ์มองหน้าลูกสาวคนโตด้วยความงง
เปล่าค่ะ ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่ว่า คุณแม่ล่ะคะคุณป๋า ไม่ได้อยู่กับคุณป๋าหรอกเหรอ
ก็เห็นว่านัดกับเราไว้ไม่ใช่เหรอ คงจะไปรอที่ห้องทำงานแล้วมั้ง
อ๋อ พอดีวันนี้ปอนัดสถาปนิกที่จะมาออกแบบสวนให้คุณแม่น่ะค่ะ
อืม แล้วเราทำไมไม่รีบขึ้นไปล่ะ คุณปิลันธ์เลิกคิ้วมองลูกสาว
พอดีเดี๋ยวปอต้องออกไปธุระเรื่องร้านต่อน่ะค่ะคุณป๋า แหะ แหะ ว่าแล้วปอรีบไปดีกว่า เดี๋ยวรถติด ไปนะคะคุณป๋า โอปอล์รีบเดินออกไปทันที
เอ้อ เจ้าลูกคนนี้ นับวันยิ่งเพี้ยน คุณปิลันธ์ส่ายหัวแล้ว มองตามโอปอล์ที่เดินออกไป
********************************************************************************************************************
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องทำงานของโอปอล์ ทำให้คุณญาดาเงยหน้าขึ้นมอง พร้อมทั้งสังเกตบุคคลที่กำลังเดินเข้ามาใหม่ นั่นเลขาของลูกสาว แล้วอีกคนคงจะเป็นสถาปนิกที่จะมาจัดสวนให้ล่ะมั้ง
ท่านคะ นี่คุณพิมพ์ลักษณ์ค่ะ สถาปนิกที่คุณปอนัดให้มาเจอท่านค่ะ เสียงเลขาสาวรายงานอย่างนอบน้อม
สวัสดีค่ะ พิมพ์ลักษณ์ยกมือไหว้ผู้สูงวัยกว่า เธอรู้สึกเกร็งไม่น้อย เพราะผู้หญิงตรงหน้าเธอนี้ถึงแม้จะล่วงเลยเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว แต่ก็ยังดูสวยสง่า และดูน่าเกรงขามไม่น้อย แต่ดวงตาเรียวๆ นี่สิ เธอเคยเห็นที่ไหนนะ ทำไมรู้สึกคุ้นจัง
สวัสดีจ้ะ เชิญนั่งสิจ๊ะ คุณญาดารับไหว้ พร้อมทั้งยิ้มให้พิมพ์ลักษณ์อย่างอารมณ์ดี
คุณแนน วันนี้ปอไม่เข้ามาที่นี่ใช่มั้ย เธอหันไปถามเลขาของลูกสาวตัวดี
เห็นคุณปอเธอ โทรมาบอกว่าวันนี้จะไม่เข้ามาค่ะท่าน
อืม งั้นรบกวนช่วยจัดเครื่องดื่มเข้ามาให้ด้วยนะ
เอ๊! ปอ ชื่อเดียวกันเลยนี่นา คงไม่ใช่หรอกมั้ง พิมพ์ลักษณ์คิดในใจ
เออ หนูชื่อพิมพ์ลักษณ์ใช่มั้ย ฉันชื่อญาดานะ คุณญาดาพูด พลางมองพิมพ์ลักษณ์อย่างเอ็นดู
ค่ะ ท่าน
โอ๊ย ไม่ต้องท่านเทิ่นอะไรหรอกหนู เรียกฉันว่าน้าก็ได้ งั้นฉันขอเรียกหนูว่าพิมพ์ละกันนะ
ค่ะ คุณน้า พิมพ์ลักษณ์รู้สึกดีจัง ความอ่อนโยนของผู้หญิงตรงหน้าเธอสามารถสัมผัสได้
ไหน มีรูปด้นไม้อะไรมาให้ดูบ้างล่ะ พอดีสวนที่บ้านของฉันน่ะ มันทรุดโทรมเต็มทนแล้ว อยากได้อะไรใหม่ๆ บ้าง
พิมพ์ลักษณ์จัดแจงหยิบแฟ้มรูปภาพในกระเป๋าใบใหญ่ของเธอ ออกมากางให้คุณญาดาดู พร้อมทั้งอธิบายถึงสรรพคุณของต้นไม้แต่ละชนิด คุณญาดานึกชื่นชมในใจ เธอรู้สึกถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้นัก นึกสงสัยว่าโอปอล์ลูกสาวตัวดีของเธอไปหามาจากไหน แล้วยังทำลับลมคมนัยไม่ยอมมาพบกับพิมพ์ลักษณ์พร้อมเธอ ทั้งที่เป็นคนจัดแจงนัดให้แท้ๆ นี่เธอคงต้องเรียกแม่ลูกสาวตัวดีมาซักถามซะแล้ว
ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าโอปอล์น่ะเป็นยังไง เธอและสามี เลี้ยงลูกทุกคนเหมือนเพื่อน ที่มีอะไรก็คอยบอกคอยปรึกษากันอยู่เสมอ เธอรู้มานานแล้วว่าโอปอล์น่ะชอบผู้หญิงด้วยกัน แรกๆ เธอและสามีก็ตกใจ แต่ก็ไม่ถึงกับรับไม่ได้ ดีที่ทั้งเธอและคุณปิลันธ์เข้าใจในตัวลูก ไม่งั้นโอปอล์ก็คงแย่ เธอและสามีเลือกที่อยากจะให้ลูกมีความสุขมากกว่าจะต้องแคร์กับสังคม ไม่ว่าโอปอล์จะเป็นอย่างไรก็ตาม โอปอล์ไม่เคยทำให้เธอผิดหวัง โอปอล์ตั้งอกตั้งใจเรียนหนังสือ เป็นคนดีและลูกที่ดีเสมอมา ไม่เคยทำให้เธอและคุณปิลันธ์ต้องเสียใจ เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
คุณน้าคะ พิมพ์ลักษณ์สังเกตอาการนิ่งเงียบของญาดา จึงเรียกเบาๆ ด้วยความเกรงใจ
เอ่อ ว่าไงนะจ๊ะ ขอโทษที พอดีน้ามัวคิดอะไรเพลินๆ น่ะ
ไม่เป็นไรค่ะ พิมพ์ลักษณ์ยิ้มตอบอย่างใจเย็น
เอาอย่างนี้ดีกว่า น้าว่าหนูพิมพ์ไปดูสวนที่บ้านน้าก่อนดีกว่ามั้ย แล้วเราค่อยมาเลือกต้นไม้กัน
ก็ได้ค่ะคุณน้า พิมพ์เห็นสถานที่แล้วน่าจะมีไอเดียมากขึ้น
เอาเป็นว่า หนูพิมพ์สะดวกจะไปวันไหนล่ะจ๊ะ
วันมะรืนก็ได้ค่ะคุณน้า เอ่อ พิมพ์ไปวันเสาร์ จะรบกวนวันพักผ่อนของคุณน้าหรือเปล่าคะ พิมพ์ลักษณ์เอ่ยถามด้วยความเกรงใจ
ไม่เลยจ้ะ ดีซะอีก วันเสาร์น้าจะได้พาหนูพิมพ์เดินดูสถานที่ไงคะ ญาดานึกชื่นชมในความเกรงใจของพิมพ์ลักษณ์ เธอรู้สึกเอ็นดูผู้หญิงคนนี้นัก
ได้ค่ะ แล้วคุณน้าจะให้พิมพ์ไปพบตอนกี่โมงดีคะ
แล้วแต่หนูพิมพ์สะดวกก็แล้วกันนะจ๊ะ
ถ้าอย่างนั้น พิมพ์ไปพบคุณน้าตอนสายๆ ละกันนะคะ
จ้า แล้วยังไง เดี๋ยวน้าให้เลขาของลูกสาวน้า แฟกซ์แผนที่ที่บ้านไปให้ละกันนะจ๊ะ
ค่ะคุณน้า ถ้างั้นดี๋ยวพิมพ์ขอตัวกลับก่อนนะคะ
จ้ะ แล้วเจอกันวันเสาร์นะ
พิมพ์ลักษณ์เก็บของเสร็จเรียบร้อย ยกมือไหว้คุณญาดาแล้วจึงเดินออกจากห้องไป
คุณญาดาเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของลูกสาว เห็นรูปถ่ายของโอปอล์ที่วางอยู่บนโต๊ะ รอยยิ้มเล็กปรากฏขึ้น เธอจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรหาลูกสาวตัวดี
ฮัลโหล ค่ะ คุณแม่ โอปอล์รีบรับโทรศัพท์ทันที เมื่อมองเห็นว่าบุคคลที่โทรเข้ามาเป็นใคร
ว่าไงเจ้าลูกสาวตัวดี ทำไมวันนี้ไม่เข้ามาคุยเป็นเพื่อนแม่
ก็ปอเรียนคุณแม่แล้วนี่คะ ว่าวันนี้ปอไม่ว่าง แล้วเป็นยังไงบ้างคะ ถูกใจมั้ย โอปอล์อมยิ้มเมื่อนึกถึงพิมพ์ลักษณ์
อืม มากๆ เลยล่ะ หนูพิมพ์เค๊าดูน่ารัก กิริยามารยาทก็เรียบร้อย แม่ยังเอ็นดูเค๊าเลย
จริงเหรอคะ ยัยนั่นอ่ะนะ โธ่เอ๊ย ทุกทีปากร้ายจะตายค่ะคุณแม่ ถึงแม้โอปอล์จะพูดไปแบบนั้น แต่เจ้าตัวกลับยิ้มกว้างเชียว
ปอ ทำไมไปว่าเค๊าแบบนั้นล่ะ หน้าเกลียดจริงๆ ลูกคนนี้ คุณญาดารีบปรามโอปอล์
ก็มันเรื่องจริงนี่นา สงสัยงานนี้ปอคงตกกระป๋องแล้วแน่ๆ เลย เพราะว่าคุณแม่น่ะไปเอ็นดูสถาปนิกสาวสวยซะแล้ว โอปอล์พูดพลางทำเสียงโอดครวญ
ก็ว่าไปนั่น ลูกชั้น แล้ววันนี้ปอจะกลับไปทานข้าวเย็นกับแม่มั้ยเนี่ย หายหน้าหายตาไปหลายวันแล้วนะ
เอาไว้พรุ่งนี้แล้วกันนะคะคุณแม่ วันนี้ปอนัดกับเพื่อนไว้น่ะค่ะ
จ้า สงสัยแม่ก็คงตกกระป๋องแล้วเหมือนกันล่ะมั้ง เพราะปอเห็นเพื่อนสำคัญกว่า คุณญาดาแสร้งพูดกับโอปอล์อย่างน้อยใจ
โธ่! คุณแม่ขา ไม่ใช่อย่างงั้นค่ะ เอาเป็นว่าวันมะรืน ปอไถ่โทษด้วยการไปเดินช๊อปปิ้งกับคุณแม่ทั้งวันเลยดีมั้ยคะ โอปอล์รีบออดอ้อนมารดาทันที
จ้า แล้วอย่าผิดสัญญาละกัน
ค่ะคุณแม่ ถ้างั้นเดี๋ยวปอขับรถก่อนนะคะ เดี๋ยวปอโทรหาคุณแม่อีกทีแล้วกันนะคะ
จ้า ขับรถดีๆ นะลูก เออ ปอ วันเสาร์น่ะ
ตู๊ด ตู๊ด! โอปอล์วางโทรศัพท์ไปแล้ว เฮ้อ คุณญาดาถอนหายใจพลางส่ายศีรษะ
นี่ยังไม่ได้บอกเลยว่าหนูพิมพ์จะไปที่บ้านวันเสาร์นี้ ปอนะปอ เดี๋ยวแม่ค่อยบอกละกัน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
By : viswee   Date : 21 Aug 2006 01:41
|