ยัยดี้ขี้อ้อน ..กับนายทอมเซอร์กะล่อนสุดกวน....Parts 6
ขอโทษด้วยนะครัฟที่มาลงช้า เพราะว่าไม่มีเวลาเขียนเลย แต่ว่ามาลงให้แล้วนะคราฟ ตอนต่อไปจะมาลงให้เร็วกว่านี้ครัฟ
ยัยดี้ขี้อ้อน ..กับนายทอมเซอร์กะล่อนสุดกวน....Parts 6
FANG...... PART
“มองอะไรอ่ะฟาง เพื่อนก๊อตเอง มันเป็นทอม สนใจเหรอ” ก๊อตแซวเพราะก๊อตไม่รู้หรอกนะว่าเพื่อนมันคนนี้ไม่ได้เป็นหญิงแท้อย่างที่เพื่อนๆ คิด
“อืม” ฟางตอบไปแบบนี้แหล่ะ ก็คนมันชอบนี่ จะให้บอกว่าไง ซันกำลังดื่มน้ำเข้าไปถึงกับแปลงร่างเป็นช้างพ่นน้ำออกจากงวงมาเต็มหน้าก๊อต ถ้าเป็นจังหว่ะที่ก๊อตหัวเราะนะได้ถ่ายทอดทายาทอสูรให้กันแน่เลย
“เฮ้ย แกพูดจริงเหรอฟาง”ซันมองหน้าฟางทำหน้าตกใจยิ่งกว่าไก่ออกลูกเป็นปลาอย่างงั้นแร่ะ
“ มิน่าหล่ะใครมาจีบมันก็ไม่สน ที่แท้เป็นสมาชิกชมรมดนตรีไทยนี่เอง” ไอ้ซันยังคงปากแมวพูดออกมาหน้าตาเฉย โดยไม่กลัวว่าคนแถวนั้นจะได้ยิน แต่ช่างเหอะก็ฟางไม่ได้ชอบผู้ชายนี่นา ไม่แคร์หรอก
“แล้วไง ก็เราไม่ชอบผู้ชายนี่หว่า ทำไมอ่ะ” ก็พูดอย่างที่ตัวเองคิดนี่แหล่ะค่ะ ใครจะว่าอะไรก็ตามใจไม่แคร์สื่อค่ะ มาถึงขนาดนี้แล้วเพื่อนๆ รู้ก็คงไม่มีอะไรเสียหายหรอกมั๊ง ดีซะอีกจะได้ไม่ต้องมายุให้ชอบคนนั้นคนนี้
“อยากเจออ่ะก๊อต น่ารักดี เพื่อนที่ไหนทำไมเราไม่เคยเห็นเลย” นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางอยากจะเจอทอมถึงแม้ว่าจะชอบทอมก็เหอะ แต่ว่าไม่กล้าออกตัวแรงขนาดนี้มาก่อนเลย ที่ผ่านมาทอมผมตั้งก็มีให้เห็นทั่ววิทยาลัย ก็นี่เป็นทอมคนแรกไม่เหมือนทอมคนอื่นๆ
“เพื่อนสมัยเรียน ม.ต้นด้วยกัน ถามจริงแกชอบทอมจริงเหรอ” ก๊อตมองหน้าฟางเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ฟางพูดไป
“อืม ทำไมชอบได้เปล่าหล่ะ แล้วเพื่อนก๊อตมีแฟนยัง เราอยากรู้จักอ่ะ” เอาว่ะ ด้านได้อานอดหล่ะงานนี้ ไม่ต้องอายแล้วหละ รุกก่อนเลยละกัน
“ไม่รู้ดิไม่ได้โทรหามันนานแล้ว ก็ตั้งแต่แยกจากกันมาเรียนนี่แหล่ะ แทบจะไม่ได้ติดต่อกันเลยอ่ะ” ก๊อตทำท่าครุ่นคิด (อย่างกวนเบื้องล่าง) ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“เออ ก๊อตที่พวกเราจะไปเที่ยวกันไง แกก็ชวนคิวไปด้วยสิ ถือว่าทำเพื่อประธานชมรมฉิ่งฉับหน่อยสิ” ซันยังไม่วายปากดี แต่ว่าก็ดีนะถ้าได้เจอเพื่อนก๊อตตอนไปเที่ยวครั้งนี้
“โทรไปหาหน่อยดิ เราอยากได้ยินเสียง นะ น่านะ เดี๋ยวเย็นนี้เลี้ยงข้าว” ฟางรู้ว่าพวกนี้ถ้าเอาของฟรีมาแลกมันยอมอยู่แล้วหล่ะ และก็ได้ผลอย่างที่คาดไว้จริงๆ เมื่อมีเสียงตอบรับจากปลายสายเป็นเสียงห้วนๆ ที่ยังไงก็ยังมีส่วนที่เหมือนผู้หญิงอยู่เหมือนกัน
การสนทนาระหว่างก๊อตกับเพื่อนหัวฟูจบไปแล้ว อย่าให้เจอนะคิวหัวฟู พูดมาได้ว่าจะไม่แลเรา คอยดูนะจะทำให้หลงฟางโงหัวไม่ขึ้นเลย คนอะไรมั่นใจในหัวฟูตัวเองจริงๆ เอ๊ะ!....ว่าแต่ทำไมเขาถึงไม่ได้ตัดผมเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ หล่ะ ทั้งๆ ที่เรียน ม.ปลายไม่ใช่เหรอ ทำไมไว้ผมยาวได้ อย่าปล่อยคำถามมาวิ่งในหัวนานขนาดนี้ฟางเอ๋ย... เดี๋ยวก็นอนไม่หลับกันพอดี ( อันนี้เป็นนิสัยจริงๆ นะเนี่ย อิอิ)
“ก๊อตทำไมเพื่อนก๊อตถึงได้ไว้ผมยาวได้หล่ะ ปกติเขาต้องตัดผมสั้นไม่ใช่เหรอ เรียน ม. ปลายอ่ะ ” ก็ฟางอยากรู้นี่ก็ต้องถามอันนี้เป็นนิสัยของฟางมานานแล้วหล่ะ
“แกนี่มันอยากรู้ทุกเรื่องจริงๆ นะฟาง แกดูผมมันดิ ถ้ามันตัดสั้นแกคิดดูสิว่าสภาพมันจะเป็นยังไง ไอ้คิวน่ะมันผมหยิกมาตั้งแต่เด็กแล้ว มันเคยตัดสั้นแล้วมันฟูจนบังคนที่นั่งข้างหลังมันแล้วมองกระดานไม่เห็น ตอนแรกคุณครูย้ายให้มันนั่งข้างหลัง แต่อนิจจาเสือกสายตาสั้นและไม่อยากใส่แว่น คุณครูก็เลยให้มันไว้ผมยาวแล้วมัดรวบไว้ แค่นี้แหล่ะ” ฮ่า ฮ่า ฮ่า หัวฟูจนบังคนอื่นเขา ตลกดีนะ คนบ้าอะไรหัวฟูแล้วเดือดร้อนชาวบ้าน
พรุ่งนี้ก็ต้องเจอเขาแล้วสินะ ทำไมเราต้องตื่นเต้นด้วยนี่ ยังไม่เคยเห็นหน้าเลยแต่ว่าเขากลับทำให้เราตื่นเต้นได้ เมื่อคืนก็นอนไม่ค่อยหลับเลยอ่ะ ทำไมเราต้องคิดถึงคนหัวฟูด้วยนะ เวลาที่เจอหน้าเขาเราต้องทำตัวยังไงดีหล่ะเนี่ย ...โอ๊ย..เครียดอ่ะ เบอร์คิวถูกเมมเข้าโทรศัพท์ไว้แล้วตั้งแต่วันที่ก๊อตโทรไป หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา (เป็นรอบรอบที่ร้อยเอ็ด เพราะว่าเมื่อกี๊เป็นรอบที่ร้อยไปแล้ว) อยากจะโทรหาคิวจัง แต่ว่าถ้าโทรหาเขาแล้วเราจะไปพูดอะไรหละ ไม่เอาดีกว่า...วางโทรศัพท์ลงแล้ว..โอ๊ย!!!!!!เครียด ไม่คิดดีกว่า
“ฟาง แกเก็บกระเป๋าหรือยัง วันพรุ่งนี้แล้วนะ แล้วนี่แกเป็นอะไรทำหน้าเป็นตูดขนาดนั้นน่ะ” หวายเดินเข้ามาตอนไหนเนี่ย มันเดินเบาหรือว่าเราไม่มีสติว่ะเนี่ย
“กำลังเตรียมตัวอยู่นี่ไง หวายมีอะไรอยากปรึกษาว่ะ” ก็ทำไงได้หล่ะหวายโผล่เข้ามาตอนนี้พอดีนี่
“เรื่องอะไรเหรอ ว่ามาเลย” หวายหยิบโทรศัพท์ฟางขึ้นมาก่อนจะกดดูอะไรก็ไม่รู้ ไม่ได้มีความลับอะไรกับเพื่อนหรอก อยากดูอะไรก็ดูไปเถอะ
“คือ...เอ่อ .แกว่าฉันบ้าป่าวว่ะ ฉันตื่นเต้นว่ะที่จะได้เจอเพื่อนก๊อตอ่ะ” ฟางอึกอักนิดหน่อย ก็คนมันตื่นเต้นอ่ะ ใครไม่เป็นฟางไม่รู้หรอกว่าเวลาที่เราแอบชอบใคร แล้วจะไปเจอเขาอ่ะ มันตื่นเต้นขนาดไหน
“ไอ้หัวฟูอ่ะนะ อย่าบอกนะว่าที่แกนั่งเครียดอยู่นี่เพราะว่าไอ้หัวฟูน่ะ” หวายปล่อยโทรศัพท์ร่วงลงที่นอนก่อนจะเด้งดึ๋งสองทีแล้วนอนแน่นิ่งอยู่อย่างนั้น สายตาจ้องเขม็งมาที่ฟาง ดีนะที่ปล่อยร่วงลงที่นอนไม่งั้นเบอร์คิวหายไปแน่เลยอ่ะ (ไม่ได้ห่วงโทรศัพท์นะเป็นห่วงเบอร์คิว) ฟางได้แต่พยักหน้าหงึก ๆเพราะไม่รู้ว่าเพื่อนคิดอะไรไหมกับการที่เธอเป็นอย่างนี้ หรือที่ใครๆ ก็เรียกว่าดี้ นั่นเอง
“แกจะมาเครียดทำไม เรื่องไม่เป็นเรื่อง” หวายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกรอบ ( มันมาหาฟางหรือว่ามันมาสืบราชการลับนี่หยิบหลายครั้งแล้วนะโทรศัพท์น่ะ)
“ฉันกลัวนี่หว่า เผื่อว่าเขาไม่สนใจฉันจริงๆ ทำไงหล่ะ” ฉันเอนตัวลงนอนกับเตียงสมองยังคงทำงานหนักกับเรื่องของคนแปลกหน้า (ที่หัวฟูๆ คนนั้น) หวายยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ไม่รู้ว่าโทรหาใคร ทำเนียนตลอดแหล่ะรายนี้เพื่อไม่ต้องเสียเงินค่าโทรศัพท์ของตัวเอง
“เฮ้ย! ติดแล้ว คุยดิ” หวายเอาโทรศัพท์มาแนบหูฟาง ยังไม่รู้เลยว่ามันทำอะไรของมันเนี่ย ปลายสายรับแล้ว เฮ้ย คิวนี่หว่าจำเสียงได้ ทำไงดี นับหนี่ง นับสอง นับสาม
“สวัสดีค่ะ คิวหรือเปล่าค่ะ” เสียงสั่นเลยเราทำไมเป็นแบบนี้ไปได้เนี่ย ปลายสายตอบกลับมาแล้วด้วย ( อ๊าย ทำไมหัวใจมันเต้นเร็วงี้อ่ะ)
“เราชื่อแนท เป็นเพื่อนของก๊อต ก๊อตบอกว่าให้โทรมาชวนคิวเอง เราไม่รู้ว่าก๊อตเล่าเรื่องที่เราอยากเจอเธอให้ฟังหรือเปล่านะ แต่ว่าเราอยากให้ไปด้วยจริงๆนะ เราอยากรู้จักเธอ” ให้ตายเหอะ แนทนี่มันเป็นใคร จะบอกชื่อตัวเองก็ไม่กล้า เป็นอะไรไปนี่เรา ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ ปลายสายตอบมาแบบงัวเงีย สงสัยว่าเพิ่งตื่นแน่เลย เราสินอนก็ไม่หลับ เอาว่ะ แค่นี้ก็ยังดี ยังไงวันพรุ่งนี้ก็ต้องเจอ เดี๋ยวเขาก็คงรู้เองแหล่ะว่าอันไหนจริงอันไหนโกหก
วางสายไปแล้วต้องหันมาเล่นงานคนที่มันต่อสายโดยไม่บอกไม่กล่าว ไม่ได้ตั้งตัวเลยเผื่อหัวใจวายตายจะทำไงหล่ะนี่
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เพิ่งเคยเห็นแกเป็นบ้าก็คราวนี้แหล่ะฟาง ว่าแต่แนทนี่มันเป็นใครเหรอ ไม่ยักกะรู้แกเปลี่ยนชื่อแนทแล้วอ่ะ” ดูมันสิ หัวเราะร่วนเลยไม่สนุกด้วยนะว้อย คนตกใจนะเนี่ยไม่รู้หรือไง..... ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก
“จำไว้เลยนะแกเดี๋ยวฉันเอาคืนแกหนักกว่านี้แน่ไอ้เพื่อนบ้า งั้นก็มาช่วยฉันเก็บของก่อนละกันไหนๆ ก็มาแล้ว” สมน้ำหน้าอยากมาแกล้งดีนักต้องโดนใช้ซะให้เข็ด
พอคิดอีกทีฉันก็กล้าเนอะที่คุยกับเขาได้ถึงแม้ว่าจะอึกอักไปหน่อยก็เหอะ แต่ก็ถือว่าตั้งสติได้ดีพอควร นี่ถ้ามาต่อสายให้ฉันคุยกับผู้ชายนะ ฉันเขวี้ยงโทรศัพท์ใส่หัวไอ้หวายไปแล้วหล่ะ....แอบยิ้มในใจลึกๆ
“จะมีใครๆ รัก คนหน้าตาอย่างฉันมีมันธรรมดา” เสียงโทรศัพท์ที่หัวเตียงดังขึ้น ฉันหยิบมาดู ไอ้หวายนั่นเอง มันจะโทรมาทำไมว่ะตั้งแต่เช้าเชียว....เหลือบมองนาฬิกาตีสี่กว่าๆ มันจะตื่นมาปลุกไก่หรือไงว่ะ อ๊ะ! ไหนๆก็ตื่นแล้วคุยกับมันหน่อยสิ ว่ามีอะไรตั้งกะเช้า
“ว่าไง นึกอะไรตื่นมาซะเช้าเชียว”
“แกไม่ตื่นมาเตรียมตัวหน่อยเหรอ หรือว่าจะไปเจอคิวทั้งที่หัวหูฟูกระจายเหรอ อุตส่าห์หวังดี มายืนรอที่หน้าบ้านงั้นกลับแล้วนะ”
‘คิวเหรอ’(O-O) ตาโต....และตามมาด้วยการดีดตัวออกจากเตียงโดยอัตโนมัติเหมือนมีใครเอาสปริงมาติดไว้ที่หลัง
“เฮ้ย อย่าเพิ่งวาง แกอยู่ไหน หน้าบ้านเหรอ เดี๋ยวฉันลงไปเปิดประตูให้นะ” ฉันรีบเอาผ้ามาคลุมไหล่ก่อนจะรีบวิ่งลงบันไดไปหาหวายที่มายืนเป็นคนบ้านอยู่หน้าบ้านตอนตีสี่กว่า เฮ้อ...เหมือนคนบ้าเลยเพื่อนเรา
“ถ้ามาช้ากว่านี้นะ ฉันกลับไปแล้วนะเนี่ย” หวายทิ้งกระเป๋าลงบนที่นอน (ที่ยังไม่ได้เก็บ)
“ก็แกเล่นมาโดยที่ไม่ได้บอกก่อนนี่หว่า ใครจะรู้หล่ะ ถ้าแกโทรมาแล้วฉันปิดเครื่องแกไม่ต้องยืนเป็นคนบ้าที่หน้าบ้านเลยไงว่ะ”
“เหอ เหอ ไม่ยาก ฉันก็แค่เอาก้อนหินขว้างหน้าต่างห้องนอนแก ถ้าแกยังไม่ตื่นก็เขวี้ยงห้องพ่อแกก็ตื่นแล้ว...ทั้งบ้านด้วย” ดูมันสิค่ะ มันเข้าใจหาวิธีการอะไรที่ชาวบ้านชาวช่องเขาจริงๆ ไอ้เรื่องที่ชาวบ้านธรรมดาคิดไม่ได้นี่ต้องปรึกษามันเลยค่ะ
‘วันนี้แล้วสินะที่จะได้เจอคนหัวฟู วันนี้แหล่ะที่จะได้เห็นตัวจริงซะที ไม่รู้ว่าหน้าตาจะเป็นอย่างที่เห็นในรูปหรือเปล่า แต่ว่ะก็ดูแมนไปอีกแบบนะ หน้าใสมากเลย ถ้าเขาไม่แลเราอย่างที่เขาบอกจริงๆ จะทำไงดีหล่ะเนี่ย’ ส่องกระจกดูหน้าตัวเองหันซ้ายแลขวา เฮ้อ! หน้าตาก็ไม่ได้ดูดีเลย แล้วฟันเหยินนี่อีกหล่ะไปดัดก็ยังไม่เข้าที่ดีเลย ยังต้องใส่เหล็กดัดอยู่เลย
ทำไงดีหล่ะเนี่ย....ยิงฟันใส่กระจก...มองดูหน้าตัวเองแล้วได้ถอนหายใจ
“เฮ้ย อาบน้ำให้มันเร็วหน่อยดิว่ะ ไม่ต้องขัดอะไรให้มันมากนักหรอก ฉันยังไม่ได้อาบนะว้อย เห็นเข้าไปตั้งนานแล้วยังไม่ได้ยินเสียงน้ำเลย ทำไรอยู่ว่ะ ไม่ต้องทำหรอกเดี๋ยวเจอคิวก็ให้มันจัดให้สิ” นั่นปะไรไอ้เรื่องแบบนี้ไม่มีใครเกินมันหรอก ฉันส่องกระจกดูหน้าตัวเองว้อย ไม่ได้ทำอะไรอย่างที่แกคิดสักหน่อย
ยังง่วงอยู่เลยแต่ถ้านอนต่อก็ต้องไปเป็นป้าให้คิวเห็น นัดเจอเพื่อน แปดโมงแต่ฉันต้องตื่นมาตั้งแต่ตีสี่ เฮ้อ จะมีอะไรที่บ้ามากไปกว่านี้ไหมเนี่ยในชีวิตนี้ เพื่อผู้ทอมหัวฟูคนเดียวเอง แต่เอาเหอะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แร่ะ ต้องลองสักตั้ง
วันนี้ฟางไม่ค่อยมั่นใจตัวเองยังไงไม่รู้หยิบชุดไหนมาใส่มันก็ดูไม่มั่นใจยังไง ไม่เหมือนทุกๆ วันที่ผ่านมาเลย
“แกนึกบ้าอะไรใส่ชุดนี้ไปเที่ยวทะเลอ่ะ แกเข้าใจอะไรผิดป่ะเนี่ย ไม่ได้พาแกไปเดินแฟชั่น ไปถอดออกเดี๋ยวนี้เลย” หวายออกความเห็นกับชุดที่ฟางเลือก จนสุดท้ายหวายต้องเป็นคนจัดการทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้านม...เอ๊ยผม
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
หากขาดตกบกพร่องประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคร้าฟฟ ติชมได้คร้าฟฟ จะได้นำไปปรับปรุง อารมณ์ดี้ไม่ค่อยออกฮะ เพราะไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไง
By : Olympuzz   Date : 19 Dec 2011 07:59
|