ความหมายของคำว่า "รักได้" กะ "รักเป็น"
"รักได้" ก็เหมือนการขับรถได้ แค่เสียบกุญแจ เข้าเกียร์ เหยียบคันเร่ง
ไม่ต้องสนกฎจราจร อาจเกิดอุบัติเหตุ ตั้งแต่บาดเจ็บ ไปจนถึงเสียชีวิต
แต่ "รักเป็น" ก็เหมือนเรารู้ว่ากฎจราจร มีบังคับอย่างไรบ้าง
จะแซงขวาต้องเปิดไฟเลี้ยวขอทาง จะลงสะพานต้องชะลอความเร็ว
เพื่อให้ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ
เช่นเดียวกับความรัก ถ้าเรารู้ว่าความรักคืออะไร รักอย่างไรให้มีความสุข
รักอย่างไรไม่ให้เป็นพิษ ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง
รักให้เป็น คือ เราต้องพิจารณาว่า รักแบบไหน รักทำไม
แล้วเราจะรักไปในทิศทางไหน สมัยนี้ที่มีปัญหาเพราะรักได้
แต่ไม่มีสมอง ไม่ใช้ปัญญา ใช้แต่ความหลง หลงว่ารัก
หลงว่าดี จนรักทำให้ตาบอด หลับไปกับความฝัน ลมๆ แล้งๆ
แต่กว่าจะมีใครเอาไม้มาเขี่ยปลุก ก็ตื่นสาย น้ำลายยืด เปียกไปครึ่งหมอน
เรามักพูดว่า ความรักไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผล ใช้เพียงอารมณ์
ความรู้สึก และสัญชาตญาณเท่านั้น แต่เพราะอารมณ์ไม่ใช่หรือ
ที่ทำให้เราเลือกผิด ที่ทำให้ต้องมานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่า ที่ทำให้คิดฆ่าตัวตาย
แต่หากเราใช้ปัญญาประกอบ คือ สามารถพิจารณาได้ว่า อะไรดี อะไรควร
เพื่อไม่ให้หลงไปกับรักลวงอย่างเต็มตัวจนกู่ไม่กลับ สุดท้ายแล้ว
ไม่ว่ารักจะเป็นอย่างไร หรือ รักเป็น เป็นอย่างไร ทุกความรักจะต้องมี เมตตา
มีความปรารถนาดีที่จะมอบสิ่งดี ความรู้สึกดี ความหวังดี ให้แก่ผู้ที่เรารัก
ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใคร หรือมีความรักในฐานะใดก็ตาม หากสมหวัง
ความเมตตาในความรักนั้น จะทำให้เรารักษา และดำเนินรักที่เป็นสุข
แต่หากผิดหวัง ความเมตตาที่ได้รัก ก็จะทำให้เรายินดีกับรักอย่างเป็นสุขเช่นกัน
จากหนังสือธรรมะ Delivery
โดย พระมหาสมปอง ตาลปุตโต
By : กานต์คุง   Date : 21 May 2011 19:34
|