เกจ์วัด
เกจ์น้ำมัน
ไม่นานมานี้ ขณะนั่งแท็กซี่ผ่านกลางเมือง ผมเห็นรถเก๋งคันหนึ่งจอดตายกลางถนน มันคงเป็นกรณีรถเสียธรรมดาหากมิใช่เพราะเห็นคนขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างคนหนึ่งกำลังช่วยเจ้าของรถกรอกน้ำมันจากปี๊บใส่ถัง
เห็นชัดว่ารถคันนั้นน้ำมันหมดเกลี้ยงจนตายกลางถนน และคนขับต้องจ้างเด็กมอเตอร์ไซค์ไปซื้อน้ำมันมาเติม!
คนขับแท็กซี่บ่นว่า “มันขับรถภาษาอะไรวะ ปล่อยให้น้ำมันหมดเกลี้ยงขนาดนี้!”
เขาอธิบายว่า เกจ์น้ำมันในรถยนต์ทุกคันมีสัญญาณไฟแดงเตือนล่วงหน้านานพอให้ขับต่อไปได้อีกหลายสิบกิโลเมตร ดังนั้นต่อให้อยู่ห่างไกลจากปั๊มน้ำมันแค่ไหน ถ้าเริ่มไปหาน้ำมันเติมตั้งแต่เห็นสัญญาณเตือน ก็ทันถมไป
กรณีนี้จึงเป็นเรื่องไม่น่าเชื่ออย่างยิ่งที่เจ้าของรถปล่อยปละละเลยจนกลายเป็นปัญหา!
การหาน้ำมันมาเติมรถใจกลางเมืองไม่ใช่เรื่องยาก ทว่าในชีวิตของเรายังมีอีกหลายเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขได้โดยการจ้างเด็กมอเตอร์ไซค์ไปหาน้ำมันมาเติมให้
ที่ไม่น่าเชื่อก็คือ ปัญหาจำนวนมากเกิดขึ้นมาจากปัญหาเล็กน้อย ระดับ ‘จิ๊บๆ’ แต่คนบางคนสามารถปล่อยปละละเลยมันจนบานปลายเป็นปัญหาใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ
บางคนมีหนี้สินเพียงเล็กน้อยก็ปล่อยให้ดอกเบี้ยพอกพูน จนในที่สุดก็หมดตัว
สวิตช์ไฟหลุดหลวม ก็ทิ้งไว้ไม่ทำอะไร กว่าจะรู้ตัว ไฟก็ไหม้บ้านหมดหลังแล้ว ลูกค้าโทร.มาร้องเรียนว่าบริการไม่ดี ก็ไม่ทำอะไร กว่าจะรู้ตัว ลูกค้าก็หายหน้าหมดแล้ว
บางคนมีอาการเจ็บปวดที่บางส่วนของร่างกาย เจ็บหน้าอก เจ็บกระดูก ฯลฯ ก็ปล่อยไปเรื่อยๆ จนเป็นโรคร้ายระยะสุดท้าย
ลูกไม่กลับบ้านก็บอกว่าช่างเถอะ เป็นอิสรภาพของเด็กในสมัยนี้ กว่าจะรู้ตัว ลูกก็กลายเป็นคนติดยาหรือเสียคนไปแล้ว
เราทุกคนมี ‘เกจ์น้ำมัน’ ประจำตัว เกจ์นี้เตือนเราโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นทางกายภาพหรือทางใจ ส่วนจะใช้เกจ์นี้หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เจ้านายเปรยว่าทำงานไม่ดี ก็เป็นเกจ์เตือนว่าอาจถึงเวลาที่เราต้องปรับปรุงตัวเอง ไม่หาความรู้ทักษะเพิ่มเติมด้วยตนเอง ก็กลับเข้าโรงเรียนใหม่อีกรอบ
คู่สมรสทำตัวห่างเหิน ก็เป็นเกจ์เตือนว่าถึงเวลาปรับปรุงชีวิตสมรส จะไปฮันนีมูนรอบที่สองรอบที่สาม ก็ได้เวลาทำแล้ว
เพื่อนๆ ทักว่าโทรม ก็เป็นเกจ์เตือนว่าได้เวลาลดเส้นรอบเอว เลิกอาหารขยะแล้วออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพของตนเองให้ดี
ลูกเริ่มกลับบ้านดึก ก็เป็นเกจ์เตือนว่า อาจต้องให้เวลาอยู่กับลูกมากกว่านี้
ฯลฯ
เกจ์ชีวิตเตือนเราเสมอ ถ้ารู้จักสังเกตและตัดไฟเสียแต่ต้นลม
แต่หากเลือกที่จะละเลย หรือทำเป็นมองไม่เห็นสัญญาณไฟแดงที่กำลังกะพริบอยู่ ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา เมื่อรถยนต์แห่งชีวิตของตนจอดตายกลางถนน และคนผ่านทางเอ่ยว่า “มันขับรถภาษาอะไรวะ ปล่อยให้น้ำมันหมดเกลี้ยงขนาดนี้!”
วิน เลียววาริน
By : dj   Date : 1 Feb 2011 14:11
|