Secret Lover2 รัก (ไม่) ลับ ของสองเรา 4 (คนที่ฟ้าให้มาหรือภาพลวงตาที่ไม่มีจริง)
เป็นไปได้หรือที่ใครสักคนหนึ่งจะอดทนยอมรอคนอีกคนโดยที่ไม่รู้เลยว่าต้องใช้เวลานานเท่าไรในการรอคอยนั้น เขา...สาวหล่อร่างสูงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นทุกครั้งที่อยู่ใกล้บอกกับฉันว่าเขารอและรอฉันมานานเหลือเกิน เป็นไปได้จริงหรือที่คนๆหนึ่งจะมีความรักให้กับคนที่เคยทำร้ายให้เจ็บปวดได้อย่างสนิทใจไม่เหลือร่องรอยของความโกรธเกลียดเอาไว้ ความรัก มันมีอนุภาพถึงขนาดนั้นเชียวหรือ? ความรักลบเลือนความเจ็บปวดได้อย่างนั้นหรือ?
คิดอะไรอยู่วะแก ฉันเห็นแกนั่งเหม่อมาสักพักละนะ นัตตี้เดินมานั่งลงข้างๆฉันพร้อมคำถามนั้นส่วนพายกำลังวุ่นวายอยู่กับการเลือกแบบชุดเพื่อนเจ้าสาวเกินกว่าจะสนใจเพื่อนช่างเพ้ออย่างฉัน
คิดเรื่องชุดนั่นแหละ ว่าไงแกตกลงเอาไงกัน ฉันพยายามเบี่ยงเบนความสนใจทั้งที่น่าจะรู้ว่าไม่มีทางจะทำได้
นอกเรื่องละแก คิดถึงเรื่องเด็กน้อยอยู่หรือไงแกจะไปคิดอะไรมากวะ ใช่สิมันไม่เป็นฉันมันคงไม่เข้าใจหรอกว่าความสับสนน่ะมันซับซ้อนขนาดไหน
ฉันส่งโทรศัพท์ให้เพื่อนรักอ่านข้อความในไลน์ที่ฉันกับเขาคุยกัน โดยปกติฉันก็ไม่เคยมีความลับอะไรกับเพื่อนอยู่แล้วยิ่งเรื่องนี้แล้วเพื่อนๆ ทุกคนของฉันรับรู้หมดทุกอย่างว่าฉันเองก็รู้สึกกับเขาไม่น้อยไปกว่าที่เขารู้สึกกับฉัน แต่มันก็ยังคงเป็นเรื่องซับซ้อนยากเกินที่จะอธิบายเป็นคำพูดได้หมด
แกกล้ามั้ยล่ะแจ๊ส กล้าที่จะเดินออกมามั้ย เวลาพี่ไทม์จับได้เรื่องกิ๊กแกทีไรแกก็หนีปัญหาทุกทีปล่อยให้คนสองคนเคลียร์กันเอง แกอาจจะน้อยใจพี่เค้าแต่แกก็ไม่กล้าเลิกกับพี่เค้าสักที นัตตี้พูดได้แทงใจดำของฉันสุดๆ
ถ้าพี่ไทม์มีคนอื่นฉันจะไม่ลังเลเลยที่จะเลิกกับพี่เค้า แต่นี่พี่เค้าไม่ได้ทำอะไรเลย ข้อเสียของเค้ามีอย่างเดียวคือไม่มีเวลาให้ฉัน
ฉันไม่ได้ยุนะแก ถามหน่อยว่าพี่เค้าไปกับแกได้บ้างมั้ย เวลาแกกินข้าวแกกินข้าวกับใครไม่ต้องทุกมื้อทุกวันก็ได้แต่ปีหนึ่งพี่ไทม์มากินข้าวกับแกได้กี่วันแล้วมันเป็นแบบนี้มากี่ปีแล้ว พอจับได้ว่าแกมีคนอื่นทีนึงถึงจะมาสนใจมาดูแลมาคอยตาม แต่พอเห็นว่าแกเลิกกับคนอื่นแล้วพี่ไทม์ก็ปล่อยแกไม่สนใจแกเหมือนเดิม ฉันเป็นคนนอกฉันก็พูดตามที่ฉันเห็นเท่านั้น นัตตี้พูดต่อยืดยาวแต่คำพูดทุกคำของมันคือความจริง
พวกแกจะไม่มองว่าฉัน...ผิดแปลกจากพวกแกหรอ น้องเค้าเป็นทอมนะเว้ย ทอมหรือง่ายๆ ก็ผู้หญิงเหมือนกัน แกไม่รู้สึกอะไรหรอเวลาที่ฉันจะพาน้องเค้าไปไหนมาไหนกับเรา อีกหนึ่งปัญหาของความคิดอันฟุ้งซ่านของฉันนั่นก็คือเรื่องเพศ
แกเคยได้ยินมั้ย อย่าระบุเพศให้ความรักน่ะ ฉันเคยไปอ่านเจอที่ไหนสักที่แต่ฉันชอบว่ะ ถามว่าถ้าอาร์ตเป็นทอมบ้าง แต่ถ้าฉันรัก ฉันก็พร้อมนะที่จะลอง แกกล้าลองมั้นล่ะแจ๊ส
นั่นสินะฉันกล้าพอไหม? กล้าที่จะตัดสินใจ กล้าที่จะเลือกเส้นทางเดินให้กับตัวเองหรือเปล่า ถ้าพูดถึงควากล้าที่จะก้าวผ่านจุดนั้นในตอนนี้ฉันยังตอบอะไรได้ไม่มาก แค่คำถามง่ายๆ ว่า ฉันรักสาวหล่อคนนั้นหรือเปล่า ฉันยังมองเห็นคำตอบเลือนลางอยู่เลย
ค่ำคืนนี้ไม่รู้ว่าเพื่อนๆของฉันเกิดอารมณ์ไหนถึงได้ชวนเจ้าของร้านอาหารกึ่งผับร่างใหญ่นามว่า พี่ต้อม มานั่งดื่มที่ร้านอื่นแบบนี้ ร้านอาหารกึ่งผับสไตล์การตกแต่งเป็นบ้านโทนโมโนกัน ติดหน้าต่างเป็นกระจกรอบด้านภายในตกแต่งเป็นสไตล์อินดี้เป็นส่วนใหญ่มีมุมเคาน์เตอร์ให้เลือกนั่งหลายโซน แต่โซนที่กลุ่มของฉันเลือกนั่งเป็นโซนโซฟาเพราะมากันหลายคนทั้งสาวๆในกลุ่มของฉันและไหนจะแฟนหนุ่มของแต่ละคนอีกจะมีก็แต่ฉันกับยายพายเท่านั้นแหละที่ไม่มีบอดี้การ์ดติดตามมาด้วย
นึกไงเนี่ยพี่ต้อม เบื่อบรรยากาศร้านตัวเองว่างั้น เพื่อนรักที่ดูเหมือนความคิดจะตรงกับฉันพูดขึ้นหลังจากที่หย่อนก้นลงนั่งได้ไม่นานนัก
เห็นว่าร้านนี้เปิดใหม่แล้วคนก็ติดเยอะอยากรู้ว่ามีอะไรดี เลยชวนกันมานี่ไง พี่ต้อมตอบสายตาสอดส่ายไปมาเหมือนกำลังมองหาอะไรแต่ฉันก็ไม่ได้อยากรู้จนเอ่ยถามออกมาหรอก
ร้านนี้ทอมเยอะเนอะ แกว่ามั้ยแจ๊ส นัตตี้หนึ่งในกลุ่มแกนนำการมาร้านนี้พูดขึ้นบ้างซึ่งคำพูดของเพื่อนสาวก็ทำให้ฉันเริ่มมองดูรอบข้าง นอกจากผู้หญิง ผู้ชายแล้ว ร้านนี้ก็คงจะมีจุดเด่นอยู่ที่ ทอมเยอะ นี่แหละ
เหรอ งั้นมั้ง ฉันเลี่ยงที่จะตอบคำถามนั้น
เสียงกีต้าร์อินโทรขึ้นเพลงทำนองคุ้นหูดังขึ้น เสียงที่เคยสนทนากันภายในกลุ่มของฉันค่อยๆ เงียบลงเรื่อยๆ อีกทั้งสายตาของทุกคนยังจับจ้องไปที่เวทีเตี้ยๆ นั้น ทำให้ฉันที่นั่งหันหลังในกับเวทีทรงเตี้ยนั่นต้องหันหลังไปดูบ้างว่าสิ่งที่ทุกคนสนใจนั้นคืออะไร นักร้องสาวสวยที่ฉันเคยเห็นหน้ามาแล้วหนึ่งครั้งเมื่อตอนที่ฉันตามไปดูซินเล่นดนตรีที่อีกร้านหนึ่งและที่คุ้นตามากที่สุดเจ้าของร่างสูงที่ตอนนี้กำลังตั้งใจเล่นดนตรีท่อนขึ้นเพื่อส่งให้กับนักร้องสาวสวยเปร่งเสียงหวานออกมาตามทำนองเพลง
ถึงกับอึ้งไปเลยแฮะ นัตตี้พูดขึ้นคล้ายอยากจะดึงสติของฉันกลับคืนมา
นี่มันอะไรกัน
แค่อยากให้รู้ว่าน้องเค้าเล่นที่ไหนบ้างนอกจากร้านนั้น เผื่อจะคิดถึง...เสียงนุ่มๆ ของพ่อนักร้อง ทอม นัตตี้เว้นช่วงเหมือนอยากได้เสียงสนับสนุนแต่ทุกคนกลับเงียบกันหมดจนนัตตี้ต้องพูดต่อ ทีตอนชวนมาก็สนับสนุนกันนะ พอเห็นแจ๊สมันโกรธเนี่ยเงียบกันหมด
เออก็ตามนั้นแหละ อยากเห็นแกมีความสุข อะไรที่ทำแล้วมีความสุขก็ทำเถอะแก ปัญหาทุกอย่างมันมีทางออกอยู่แล้วเมื่อถึงเวลาแกก็จะเจอทางออกของปัญหาเอง ไอซ์คือเสียงสนับสนุนแรกของนัตตี้
ขอบใจ แต่ฉันยังไม่แน่ใจว่ะ ยังไม่แน่ใจจริงๆว่าฉันจะไม่ทำให้น้องเค้าเสียใจอีกหรือว่าฉันกล้าพอแล้วที่จะเลิกกับพี่ไทม์
แกต้องลอง นัตตี้กับไอซ์สองเสียงประสานขึ้นมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
แต่ฉันว่า...พายที่ดูเหมือนกำลังจะพูดขัดแต่ก็โดนสองสาวเอามือปิดปากได้เสียก่อน
ฉันนั่งเพลงที่นักร้องสาวสวยร้องเพลงไพเราะของคนเสียงหวานแต่สายตาของฉันเฝ้ามองไปที่คนที่ยืนเล่นกีต้าร์อยู่ต่างหาก ช่วงเวลาที่ฉันกับเขาไม่ได้เจอกันไม่ได้คุยกัน ไม่มีการสื่อสารกันไม่ว่าจะทางใด ฉันรู้สึกเหมือนว่าตัวเองขาดอะไรไป ทั้งความสุขและความสดใสถูกสาวหล่อคนนั้นขโมยไปด้วยในวันที่เราไกลห่างกันอย่างนั้นหรือ แล้วที่ฉันเป็นตอนนั้นมันเป็นเครื่องพิสูจน์ได้หรือเปล่าว่าฉันรู้สึกอย่างไรกันแน่กับสาวหล่อร่างสูงคนนั้น
ไอ้ซินมานั่งด้วยกันดิ ไม่แปลกหากว่าเพื่อนกันอย่างอาร์ตจะชวนซินมานั่งร่วมโต๊ะด้วย แต่ฉันกลับรู้สึกแปลกกับสายตาบางคู่ที่มองตามซินมาด้วย
หวัดดีครับพี่ต้อม พี่ไอซ์ พี่พาย พี่นัตตี้ แจ๊ส มากันได้ไงเนี่ย สังเกตดูว่าคนร่างสูงเรียกทุกคนว่าพี่หมดเลยยกเว้น ฉัน
มาๆนั่งคุยกันก่อนไปไงมาไงถึงมาเล่นร้านนี้ได้วะ แล้วนี่ไม่ร้องเพลงแล้วหรอ อาร์ตถามไถ่สารทุกข์สุขดิบเพื่อนรักทำอย่างกับว่าไม่ค่อยได้ติดต่อกัน
ฟอร์มนะมึงไอ้อาร์ต มึงเนี่ยกูบอกคนแรกเลยว่ากูเล่นร้านไหนบ้าง ฉันยิ้มกับคำพูดตรงๆ ของสาวหล่อคนนั้นที่ตอนนี้เอาตัวเองลงมานั่งอยู่ข้างๆ ฉัน ก็มันมีที่ว่างอยู่ที่เดียวนี่นา
ฮ่าๆ อย่างนี้คนอื่นเค้าก็รู้หมดดิ ว่ากูเป็นตัวต้นคิด มึงนี่ไม่รับมุขกูเล้ย
ไหนๆ ก็มาเกือบจะครบ มาๆ ชนแก้วววว พี่ต้อมหัวโจกในการชนแก้ว ชนมันทุกงาน ชนทุกโอกาส
ความคึกครื้นมาเยือนกลุ่มเราเพิ่มขึ้นทุกขณะไม่ต่างจากเมื่อก่อนครั้งที่เราเคยไปเที่ยวด้วยกัน บ่อยครั้งที่ฉันหันไปเจอกับรอยยิ้มอบอุ่นจากคนข้างกายและไม่น้อยเหมือนกันที่มีความอบอุ่นจากมือหนาคู่นั้นมาสัมผัสที่มือของฉันอย่างแผ่วเบา แม้จะเป็นเพียงการสัมผัสแบบผิวเผินและแผ่วเบาแต่มันก็ทำให้ฉันรับรู้ถึงความอ่อนโยนและความอบอุ่นที่เจ้าของมือหนานั้นมีให้กับฉัน
# # # # #
ห้องอาหารภายในโรงแรมหรูติดแม่น้ำเจ้าพระยาคือสนถานที่ดินเนอร์มื้อแรกระหว่างฉันกับพี่ไทม์แฟนหนุ่มผิวเข้มอย่างคนเอเชียที่คบกันมาเป็นสิบปีหลังจากที่เราสองคนไม่ได้พบกันมาเกือบหกเดือนแล้ว หกเดือนหรือครึ่งปีที่เราไม่ได้เจอหน้ากันเลย ได้ยินเสียงกันเพียงวันละไม่กี่ประโยคหรือบางวันอาจจะไม่ได้ยินเลยก็ได้ แล้วประโยคการสนทนาของเราทั้งสองคนส่วนใหญ่ก็เป็น พี่ไทม์ทานข้าวหรือยังคะ ทานแล้วครับ ดูแลตัวเองดีๆนะครับพี่เป็นห่วง พี่ประชุมอยู่ครับ และต่างๆนาๆที่มีความหมายเหมือนกันว่า เขาไม่เคยมีเวลาว่างสำหรับฉันเลย
พอดีวันนี้มีประชุมที่นี่ พี่เห็นว่าเราไม่ได้ดินเนอร์กันมานานแล้วอีกอย่างพี่คิดถึงแจ๊สมาก พี่ไทม์หยอดคำหวานกับฉันหลังจากที่เราพบกันได้สักพัก
ค่ะ แจ๊สก็คิดถึงพี่ไทม์ แล้ววันนี้หลังจากดินเนอร์เสร็จพี่ไทม์จะไปเที่ยวไปเจอเพื่อนๆ แจ๊สด้วยกันมั้ยคะ ฉันถามไปอย่างนั้นเองไม่ได้คาดหวังกับคำตอบ
พี่คงไม่ได้นะครับ พี่ต้องกลับไปตรวจสอบเอกสารและก็รายละเอียดที่ประชุมไปทั้งหมดของวันนี้ ยังไงแจ๊สไปเที่ยวก็ดูแลตัวเองดีๆนะครับ ถึงแม้จะไม่คาดหวังแต่ก็แอบหวังว่าบางทีเขาอาจจะพอมีเวลาไปนั่งเป็นบอดี้การ์ดให้กับฉันเหมือนแฟนคนอื่นทำบ้างแต่ก็...ช่างมันเถอะ
ค่า แจ๊สดูแลตัวเองดีอยู่แล้วค่ะไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ
ความระยับระยับของแสงไฟที่ส่องกระทบลงสู่พื้นผิวแม่น้ำเจ้าพระยาคือวิวที่ฉันเห็นอยู่ด้านนอกออกจะดูโรแมนติกสำหรับคู่รักที่มาดินเนอร์ใต้แสงเทียน แต่ฉันกลับไปนึกถึงใครบางคน...สาวหล่อร่างสูงใบหน้าเปื้อนยิ้มทุกครั้งที่เจอฉัน หากเปลี่ยนคนที่นั่งตรงข้ามจากชายหนุ่มคนตรงหน้าเป็นสาวหล่อคนนั้นฉันจะยังรู้สึกว่าค่ำคืนนี้มันน่าเบื่อแบบนี้อยู่ไหม นี่ฉันกำลังคิดอะไรอยู่หากใครได้ยินความคิดของฉันเข้าจะหาว่าฉันเป็นผู้หญิงไม่ดีหรือเปล่า
แจ๊สไม่สบายหรือเปล่าครับพี่เห็นเรานั่งเหม่อมาสักพักแล้วนะ หรือว่าข้างนอกนั่นมีอะไร พี่ไทม์คงเห็นสิ่งผิดปรกติของฉันไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ทันขึ้นมาแบบนี้
เปล่าคะ แจ๊สแค่มองวิวน่ะ สวยดีนะคะฉันบ่ายเบี่ยง
หลังจากที่อาหารที่ถูกสั่งไปถูกนำมาเสิร์ฟทั้งฉันและคนตรงหน้าต่างก็สนใจอาหารในจานของตัวเองจนแทบจะไม่ได้คุยอะไรกัน จะมีก็ไถ่ถามถึงเรื่องงานกันบ้างนิดหน่อย งานเป็นไงบ้างครับ ช่วงนี้พี่ยุ่งๆอาจจะไม่ค่อยมีเวลาโทร.หาแจ๊สนะครับ มานั่งดินเนอร์กับฉันก็ยังไม่วายหยิบเอาเรื่องงานมาคุยกับฉันอีกจนกระทั่งสิ้นสุดการดินเนอร์ใต้แสงเทียนของเราสองคนพี่ไทม์ก็ไปส่งฉันที่บ้านเพราะฉันต้องไปเปลี่ยนชุดก่อนที่จะออกไปท่องราตรีกับเพื่อนสาว
พี่รักแจ๊สนะ ถึงพี่จะไม่ค่อยมีเวลาให้แต่พี่ก็รักนะครับ พี่ไทม์พูดกับฉันหลังจากที่รถยนต์ของเขาจอดแน่นิ่งอยู่ที่หน้าบ้านของฉัน
ค่ะ แจ๊สรู้ พี่ไทม์ก็อย่าหักโหมนักนะคะดูแลสุขภาพตัวเองด้วย สิ้นเสียงฉันพี่ไทม์ดึงมือของฉันขึ้นไปบรรจงจูบอย่างแผ่วเบา แจ๊สขึ้นไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะถ้าพายมันมาแล้วเห็นว่าแจ๊สยังไม่ได้ทำอะไรเลยมันจะด่าเอา พี่ไทม์ขับรถดี-ดี นะคะ ฉันดึงมือกลับโดยอัตโนมัติแบบที่ไม่เคยเป็นก่อนจะเอาตัวเองลงจากรถพี่ไทม์แล้วรีบวิ่งเข้าบ้าน
บอกไม่ถูกถึงความรู้สึกตอนที่พี่ไทม์ดึงมือของฉันขึ้นไปจูบว่ามันคืออะไรและทำไมฉันต้องรีบดึงมือตัวเองทั้งที่เราสองคนก็ผ่านอะไรๆด้วยกันมาก็เยอะมากกว่าจูบมือพี่ไทม์ก็เคยทำมาแล้ว ฉันสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงเพลงเรียกเข้าโทรศัพท์ที่ฉันถือเอาไว้ในมือและต้องตกใจยิ่งขึ้นเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฎอยู่บนจอ ZIN*ZIN
ฮัลโหล...ซิน
ซินอยู่หน้าบ้านลงมาหาซินแปปนึงได้มั้ยครับ ปลายสายเสียงขรึมจนฉันรนรานรีบลงไปตามที่เจ้าของเสียงห้าวบอกกับฉัน
เมื่อฉันเปิดประตูหน้าบ้านออกฉันก็รู้สึกได้ถึงแรงดึงที่ต้นแขนของฉันก่อนจะตามมาด้วยความรู้สึกอุ่นที่ริมฝีปากของฉันและกลิ่นแอลกอฮอร์จากลมหายใจของคนตรงหน้าที่เอาริมฝีปากของเขาประกบกับปากฉันเอาไว้แทนที่ฉันจะผลักดันคนตรงหน้าให้ห่างออกไปฉันกลับเผยอริมฝีปากรับการรุกล้ำของเขาอย่างคนลืมตัว
แจ๊สว่าซินคงจะเมามากเกินไปแล้ว เมื่อตั้งสติได้ฉันก็พยายามเอาแรงที่มีอยู่ผลักเขาออกและพูดเพื่อดึงสติของเขากลับมา
ซินไม่ได้เมา เพราะถ้าซินเมาซินคงไม่รอให้พี่เค้ากลับไปแล้วซินถึงจะโทร.ให้แจ๊สลงมาหาซินหรอก คำพูดของเขาทำให้ฉันเผลอคิดไปว่าเขาคงมารอฉันที่หน้าบ้านตั้งแต่พี่ไทม์ยังไม่มาส่งฉันด้วยซ้ำ
ซินเห็น...
เห็นทุกอย่าง เจ็บแต่ก็รัก สิ้นเสียงน้ำตาเม็ดเล็กก็ร่วงลงมาจากดวงตาคู่คม ฉันปาดน้ำตาของเขาด้วยมือของฉันมืออย่างแผ่วเบา
ขอโทษนะ ขอโทษที่ทำร้ายหัวใจของซินแต่แจ๊สเองก็เจ็บไปไม่น้อยกว่าซิน จะว่าแจ๊สบ้าก็ได้ที่ทำอยู่ก็เหมือนทรมานตัวเองแต่ก็ยังทำ แต่วันนี้แจ๊สรู้แล้ว...แจ๊สคิดว่าแจ๊สรู้แล้วว่าแจ๊สรักซินมากแค่ไหน
คนตรงหน้ารั้งฉันเข้ามากอดไว้หลวมๆสัมผัสนี้ทำให้ฉันเข้าใจหัวใจตัวเองว่าเพราะอะไรฉันถึงรู้สึกไม่ดีเลยตอนที่พี่ไทม์จูบมือของฉัน ทำไมฉันต้องคิดถึงเขาสาวหล่อร่างสูงคนนี้ในขณะที่ฉันอยู่กับผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของฉัน ทำไมฉันต้องดื่มต้องเมาทุกวันหลังจากที่ได้ตัดสินใจเลือกพี่ไทม์ครั้งนั้น มันไม่ใช่ความรู้สึกผิดที่ทำให้คนที่รักฉันเสียใจ แต่มันเป็นเพราะความเสียใจที่ฉันไม่กล้าพอที่จะเลือกคนตรงหน้านี้ต่างหาก
ความรักของเธอมันช่างอบอุ่นเบาสบายเมื่อได้สัมผัส
แต่ฉันคือคนที่เคยทำร้ายเธอ ทำให้เธอเสียใจ
เธอจะแน่ใจได้แค่ไหนว่าฉันจะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจอีกครั้ง
By : นายกานต์   Date : 8 Nov 2013 15:35
|