Secret Lover2 รัก (ไม่) ลับ ของสองเรา 1 >ภาพความทรงจำที่ไม่เคยจาง<
รอยยิ้มสดใสกับดวงตากลมโตคู่นั้นยังคงทอดมองมายังผมอย่างอ่อนโยน นานแล้วกับการพบกันของเราสองคนและนับจากครั้งนั้นทางเดินชีวิตของเราทั้งคู่ก็แยกจากกันและไม่เคยมาบรรจบกันอีก แต่เธอจะรู้บ้างไหมนะคนดีของซิน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหนซินก็ไม่เคยลืมแจ๊ส ได้เลยสักวินาที ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ที่ไหนหรืออยู่กับใครคนเดียวในความคิดถึงของซินยังคงเป็นแจ๊สคนเดียวเท่านั้น และไม่เคยเลยสักครั้งที่ซินอยากจะลบเลือนคนดีของซินออกไปจากหัวใจ
แม้ว่าคนที่เข้ามาเติมความสดใสและรอยยิ้มให้กับผมในวันนั้นจะเป็นคนๆเดียวกันกับคนที่สร้างบาดแผลให้กับผมในวันนี้แต่มันก็ไม่ใช่สาระสำคัญที่ผมจะนำมันมาเพื่อที่จะลบเลือนเธอออกไปจากหัวใจหากว่าผมยังอยากจะคิดถึงเธออยู่ ทุกคืนทุกวันที่หมุนเวียนผ่านไปผมยังคงภาวนาให้มีสักวินาทีที่ใจของเราจะตรงกันอีกครั้งหรือถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะขอให้เส้นทางเดินของเราทั้งสองคนกลับมาบรรจบพบกันอีกครั้งแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้
ทุกวันของผมยังคงเดินหน้าต่อไปผมยังคงเล่นดนตรีกลางคืนเป็นนักดนตรีที่มีใบปริญญาติดตัวแต่มันก็เป็นเสมือนกระดาษแผ่นหนึ่งที่ทำให้เรามีทางเลือกในการทำงานมากขึ้นเพียงแค่ตอนนี้ผมยังเลือกที่จะเดินบนเส้นทางนี้อยู่ด้วยความหวังว่าจะได้เจอกับเธออีกครั้งไม่ที่ใดก็ที่หนึ่งแต่ดูเหมือนความหวังของผมดูลิบหรี่ขึ้นทุกขณะเมื่อเพื่อนชายร่วมวงได้แยกย้ายไปตามเส้นทางที่ต่างคนต่างเลือกส่วนตัวผมก็ต้องหาวงใหม่ สถานที่เล่นแห่งใหม่และพบเจอผู้คนหน้าตาแปลกใหม่ บทสรุปของเส้นทางนักดนตรีของผมกลับกลายเป็นวงดนตรีหญิงล้วนที่ผมได้รู้จักผ่านไอ้อาร์ตกับไอ้เวย์สองหนุ่มนักดนตรีที่เคยร่วมวงกัน ส่วนร้านที่เราจะเล่นกันส่วนมากก็จะเป็นร้านที่เปิดเฉพาะกลุ่มผู้หญิงเท่านั้น
แรงสั่นสะเทือนของโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงทำให้ผมหลุดออกจากวงโคจรความคิดตัวเองแล้วหันมาสนใจเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋าแทน พี่ต้อม คือชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ เพียงแค่เห็นชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอก็ทำให้ผมนึกไปถึงเจ้าของร้านที่วงเดิมของผมเคยเล่น ชายหนุ่มร่างใหญ่ใจดีที่มีแฟนสวยและนิสัยดีมากๆ
หวัดดีพี่ วันนี้ลมอะไรหอบให้พี่โทร.มาหาน้องได้เนี่ย ผมส่งเสียงทักทายไปที่ปลายสายอย่างคนคุ้นเคย
เป็นไงบ้างซินสบายดีนะ ได้ยินข่าวว่ามีวงใหม่เล่นร้านไหนวะ พอมีวันว่างไปเล่นร้านพี่บ้างเปล่า พี่ต้อมตอบกลับมายาวเหยียด
วงซินมันเป็นทอมทั้งวงเลยอ่ะพี่ ซินว่ามันไม่ค่อยเวิร์คมั้งพี่
เออ เห็นไอ้เวย์มันบอกพี่ว่าแกจบอินทีเรียมาใช่ป่ะ พี่กำลังจะแต่งบ้านใหม่ว่ะแกช่วยทีดิ อันนี้แกน่าจะโอเคนะ
อ๋อ ซินได้ข่าวมาเหมือนกันว่าพี่ต้อมกำลังจะแต่งงาน
เออ แกอย่าลืมมางานพี่ก็แล้วกัน ไม่มีการ์ดนะเว้ยมาเองแต่อยากให้มาและบังคับให้มาด้วย โอ.เคนะ พี่ต้อมรีบตัดบท ในใจผมดีใจอยู่ลึกๆที่ครั้งนี้อาจจะเป็นโอกาสทำให้ผมได้เจอกับเธอ แต่อีกใจก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่าเธอเองก็ต้องมีคนเคียงข้างไปด้วย
พี่ต้อมวางสายไปแล้วในหัวของผมก็มัวแต่ครุ่นคิดเรื่องที่พี่ต้อมพูดถึงถ้าหากผมต้องไปงานแต่งงานของพี่ต้อมจริงๆ ผมก็จะได้เจอกับเธอและแน่นอนว่าเธอก็คงจะมีใครคนนั้นมาด้วยแต่เพราะความอยากเจอ อยากเห็นหน้าเจ้าของดวงตากลมโตคู่นั้นอีกสักครั้งแม้จะต้องเจ็บปวดสักแค่ไหนผมก็ยอม...
เคยเป็นไหมทุกครั้งที่เราต้องผ่านถนนเส้นไหนสักเส้นที่เราจดจำได้เป็นอย่างดีว่ามันเคยนำพาเราไปเจอกับใครบางคนซึ่งสำคัญกับหัวใจ ต่อให้เวลาผ่านไปนานและไม่ว่าคนๆนั้นจะเคยทำให้เราเจ็บปางตาย แต่ถ้ามีโอกาสที่ได้ผ่านไปเราก็อดไม่ได้ที่จะ มองหา แม้รู้ว่าต่อให้มองหาสักเท่าไรก็ไม่มีวันได้เจอ ผมยังคงมองหาเธอเสมอทุกครั้งที่ได้ผ่านหน้าร้านพี่ต้อมแม้จะเห็นแค่รถผมก็ยังดีใจที่ได้รู้ว่าเธอยังโอเค
แค่ได้รัก...แค่ได้รู้ว่าตัวเราเองรักใคร
ต่อให้คนที่ถูกรักจะไม่รู้ เราก็ยังสุขใจ
= = = = =
เสียงเพลงเบาๆ ตามสไตล์ของแนวดนตรีโฟลคซอง คือเสียงต้อนรับฉันเข้าสู่ร้านพี่ต้อมที่ตอนนี้ทั้งสไตล์ดนตรีออกจะเปลี่ยนแปลงไปนิดหน่อยอีกทั้งวงดนตรีก็ยังมีวงๆหนึ่งที่หายไปจากเวทีเตี้ยๆ นั่นด้วย นับจากการพบครั้งสุดท้ายของฉันกับซินครั้งนั้น เราก็ไม่เคยเจอกันอีกและคงจะไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกเลย ฉันอาจจะเป็นผู้หญิงที่นิสัยไม่ดีที่สุดที่ทำร้ายคนดีๆที่เข้ามาทำให้ชีวิตของฉันดูมีคุณค่ามีความหมายสำหรับใครสักคน ในที่สุดฉันกลับไม่ได้เลือกคนที่มอบคุณค่านั้นให้กับฉัน แต่ฉันเลือก...เลือกที่จะพาตัวเองเข้าสู่เส้นทางเดิมเส้นทางที่แสนจะโดดเดี่ยวและดูเหมือนจะไร้ค่าสิ้นดีกับคนที่ร่วมทางมาด้วยกัน
คิดไรอยู่แก ไอซ์ว่าที่เจ้าสาวและอนาคตเถ้าแก่เนี๊ยะร้านนี้ถามฉันก่อนที่จะทิ้งตัวลงข้างๆ
เปล่า เรื่องงานแต่งแกกับพี่ต้อมเป็นไงบ้างมีไรยุ่งยากบ้างป่ะ ฉันพยายามลากเพื่อนสาวเข้าสู่บทสนทนาในเรื่องงานมงคลของมันที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้าแทนที่จะมาสนใจเรื่องราวของฉัน
ก็โอ ตอนนี้หาคนตกแต่งภายในเรือนหอได้ละ ฉันไม่ค่อยสนใจเรื่องเรือนหอของเพื่อนสักเท่าไหร่จนไอซ์ต้องหันไปคุยกับนัตตี้และพายแทนที่จะมาเซ็งกับมนุษย์ไร้ความรู้สึกอย่างฉัน
ห๊า ใครนะแก เสียงพายกับนัตตี้ที่ดังขึ้นมาอย่างพร้อมเพียงดึงวิญญาณฉันให้กลับมาสนใจเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ด้วยกันทั้งที่ก่อนหน้าฉันแทบจะไม่ได้ฟังด้วยซ้ำว่าไอซ์กำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่
เออ ซินนั่นแหละ ไม่รู้เพราะชื่อของบุคคลที่สามที่แสนคุ้นเคยหรือเพราะอะไรที่ทำให้ฉันได้ยินประโยคนั้นอย่างชัดเจน และเริ่มอยากจะฟังเพื่อนพูดขึ้นมา
มีอะไรกันแก ฉันถามและคำถามของฉันก็ทำให้เพื่อนทุกคนนิ่งเงียบก่อนจะหันมามองหน้าฉัน
อ๋อ ไม่มีไรอ่ะ ก็เรื่องงานแต่งอิไอซ์นั่นแหละ ทำไมแกถึงเพิ่งสนใจยะ ที่ก่อนหน้าไม่เห็นจะสนใจอะไร ขนาดชุดเพื่อนเจ้าสาวแกยังให้พวกฉันคิดกันเองเล้ย พายพูดแขวะฉันทำไมมันจะไม่รู้ว่าฉันกำลังหมายถึงอะไร
พายแกก็เนอะ รู้อยู่ว่าเพื่อนมันหมายถึงอะไรยังจะไป... นัตตี้หันไปดุพายก่อนจะหันมาพูดกับฉันต่อ ก็เรื่องอินทีเรียเรือนหออิไอซ์นั่นแหละ ตอนนี้พี่ต้อมเค้าหาคนมาตกแต่งให้ได้แล้ว
ใครอ่ะ ฉันรีบถามเพราะถ้าจำไม่ผิดสาวหล่อร่างสูงเจ้าของชื่อซินซินเรียนมาทางด้านนี้และตอนนี้ก็น่าจะเรียนจบแล้ว
เด็กเก่าแกนั่นแหละจะเป็นใครไปได้ ตอนนี้เป็นหนุ่มเนื้อหอมเล่นดนตรีอยู่ในผับทอมดี้ว่ะแก เรียนจบมาก็ไม่ยอมทำงานด้านที่เรียนมาไหนว่าชอบนักชอบหนาวะ นัตตี้ตอบคำถามฉันยาวเหยียดก่อนจะถามฉันกลับ
ไม่รู้ดิ ไม่เคยถาม
เกือบปีแล้วที่ฉันไม่เคยได้ข่าวเขาเลยตั้งแต่การเจอกันครั้งสุดท้ายของเราและฉันเองก็ไม่ค่อยได้มานั่งที่ร้านของพี่ต้อมสักเท่าไหร่เพราะพี่ไทม์ที่คอยจิกตัวฉันไปโน่นทีนั่นที หากจะไปเที่ยวกับเพื่อนก็จะมีพี่ไทม์ไปด้วยเสมอและก็แน่นอนล่ะว่าร้านนี้เราแทบจะไม่ค่อยได้มานั่งกันเลย
พอช่วงหลังที่ฉันพอจะได้มานั่งที่ร้านพี่ต้อมอีกทั้งปราศจากผู้คุมอย่างพี่ไทม์ร้านของพี่ต้อมก็เปลี่ยนแปลงไปพอสมควร วงดนตรีที่เคยมีนักร้องสาวหล่อร่างสูงคนนั้นไม่ได้เล่นที่ร้านนี้แล้วและฉันก็ไม่เคยได้ข่าวของเขาอีกเลย แม้แต่เงาของเขาฉันก็ไม่เคยเจอเหมือนกับว่าเขาได้ตายจากฉันไปเสียแล้ว แต่อยู่ๆ วันนี้เขากลับมีตัวตนขึ้นมาอีกครั้งทั้งยังใกล้ตัวฉันเข้ามาทุกขณะ ฉันจะทำหน้าอย่างไรหากวันหนึ่งเราได้พบกันอีกครั้ง เขาจะโกรธจะเกลียดฉันหรือเปล่าที่ได้เคยสร้างรอยแผลให้เขาทั้งที่เขาเองทำแต่สิ่งดี-ดีให้กับฉัน
ไม่แน่นะแก หลังจากงานอิไอซ์อาจจะมีงานฉันต่อเลยก็ได้ นัตตี้ที่เห็นว่ากลุ่มเริ่มเงียบได้ทีพูดเรื่องของตัวเองขึ้นมาบ้าง
อะไรนะ เพิ่งคบกันไม่ถึงสองปีจะแต่งแล้วหรอ พายโวยวายราวกับเพื่อนตัวเองยังเป็นเด็กที่ยังไม่พร้อมจะมีครอบครัว
ก็พร้อม ฉันเองก็แก่แล้วด้วยอีกอย่างแน่ใจมากๆ ว่าอาร์ตเนี่ยแหละพ่อของลูก
อาร์ตดีเนอะทำให้แกมั่นใจได้ขนาดนี้ ไม่เหมือน...คบกันมาเป็นสิบปีละยังไม่เคยคิดจะทำอะไรจริงจังสักที ฉันพาลคิดไปถึงผู้ชายคนหนึ่งที่ตอนนี้น่าจะอยู่หน้าคอมพ์ทำงานแทนการมานั่งเคียงข้างฉันอย่างที่แฟนควรทำ
ทำใจว่ะแจ๊ส พี่เค้าเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ยังไม่ได้คบกับแก แกเองนั่นแหละที่รู้ว่าเค้าเป็นแบบนี้แล้วก็ยังยืนยันว่าจะคบกับเค้า พายพยายามจะปลอบใจฉันแต่ก็นั่นแหละคำปลอบใจของเพื่อนสนิทมันช่างเชือดเฉือนหัวใจฉันดีจริงๆ
เวลาล่วงเลยไปค่อนคืนแล้วแต่ความเมาก็ไม่คืบคลานมาสักทีทั้งที่ฉันพยายามจะกระดกเอาเครื่องดื่มสีอำพันนั้นเข้าปากแก้วแล้วแก้วเล่าหรือร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาเพราะฉันกระหน่ำดื่มขนาดนี้มานานหลายเดือน มันเริ่มขึ้นเมื่อฉันได้รู้แล้วว่าไม่ว่ายังไงพี่ไทม์แฟนหนุ่มของฉันไม่มีทางที่จะหันมาสนใจ ดูแลเอาใจใส่ฉันได้จริงจังนักเพราะเขาเองก็ยังเป็นคนบ้างานอยู่อย่างนั้นและฉันเองก็เป็นที่เลือกเส้นทางนี้ แม้ว่าจะมีเส้นทางดี-ดีที่เข้ามาทำให้ฉันมีคุณค่า
นักร้องสาวหล่อร่างสูงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตทำให้ฉันสับสนเพราะเขาดีกับฉันเหลือเกิน แต่ระหว่างความดีกับความถูกต้องของความรัก ฉันเลือกเอาความถูกต้อง ความถูกต้องที่ใครต่อใครรอบตัวคอยบอกฉันอยู่เสมอว่าฉันต้องคู่กับพี่ไทม์เท่านั้น คนที่แสนดีคนนั้นจึงกลายเป็นคนที่ฉันไม่ได้เลือกและนั่นคือความผิดพลาดที่ฉันก่อมันขึ้นมาเอง หากวันนั้นฉันเลือกเส้นทางนั้น...ที่จะมีสาวหล่อคนนั้นเคียงข้างกัน วันนี้ฉันอาจจะไม่โดดเดี่ยวอย่างนี้ก็ได้ หากฉันมีเครื่องย้อนเวลาได้อีกครั้งฉันจะเลือกทางนั้นไม่ว่าคนอื่นจะมองว่ามันคือสิ่งผิดหรืออะไรก็ตามแต่ ฉันจะไม่ทำให้เขาและฉันต้องเจ็บกับความรักของเราในครั้งนั้น
ความรักทำร้ายใครไม่ได้หรอก
มีแต่เราเองนี่แหละที่ใช้ความรักบังหน้าเพื่อหาเรื่องทำร้ายหัวใจตัวเอง
= = = = =
นานแล้วครับที่ไม่เข้ามาที่นี่ จุดเริ่มต้นของการเขียนเรื่อง
บางทีก็อาจจะนาน เกินกว่าที่ใครในนี้จะรู้จักกัน "นายกานต์" เองครับ
สวัสดี สำหรับเพื่อนใหม่ ที่ยังไม่รู้จักกัน
และสำหรับเพื่อนเก่าๆ ที่ห่างหายกันไป ... กลับมา Say hii กันอีกครั้งนะครับ
คิดถึงที่นี่ คิดถึงใครหลายๆ คนที่นี่ ...
"นายกานต์"
By : นายกานต์   Date : 29 Oct 2013 19:38
|