คนเล่นของ

คำเตือน : กระทู้ไม่เหมาะกับผุ้นิยมข้อความสั้นๆ
โปรดใช้วิจารญาณในการอ่าน


นานๆจะตั้งกระทู้ที เล่าเรื่องเรื่อยเปื่อย
กับเหตุการณ์ที่เจอมาสดๆร้อน เห็นว่าอาจจะมีโยชน์
กับใครได้บ้าง เล่าสู้กันฟังค่ะ

จั่วหัวไว้เหมือนเป็นเรื่อง "ลึกลับ"
มีมูลนิดนึงค่ะ เข้าเรื่องเลยดีกว่า

วันนี้ขณะเดินทางกลับบ้านกำลังเดินเข้าปากซอยที่พัก
ก็ได้เดินสวนกับ ชายหนุ่มคล้ายชาวตะวันออกกลาง
มีหนวดเคราปกคลุมทั่วใบหน้า บุคลิกการแต่งกายดี
ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงแสลคสีดำ รองเท้าหนัง

ขณะเดินสวนหมูได้สบตากับเขาไปแวีบหนึ่ง
ชายคนนั้นก็พูดขึ้นมาทันทีว่า ...."ขอโทษนะครับ" (ภาษาไทยชัดเจน)
หมูเองคิดว่า เขาคงอาจจะถามทางหรือถามอะไรสักอย่าง
ด้วยความปรารถนาดี จึงหยุดฟังเขาต่อ

"สวัสดีครับคุณ ดูจากหน้าตา ลักษณะแล้ว เป็นคนดี
ทำงานเก่ง แต่เก็บเงินไม่เก่งนะ เงินไม่พอใช้ เดือนร้อนเรื่องเงิน
ชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่ตัวเองเดือนร้อน
เป็นคนดี หาเงินเก่ง เก็บเงินไม่เก่ง เพราะดูจากลักษณะแล้ว
มีกรรมเก่า มีเคราะห์ติดตัว"

รีเพลย์ ประโยคด้านบน วนซ้ำอีกครั้ง


นี่คือคำพูดโดยประมาณที่จับใจความได้ของชายคนดังกล่าว
ลักษณะการพูดของเขา จะพูดชัดเจน แต่เร็ว ไม่เปิดจังหวะให้เราได้ขัดหรือแทรก
พูดซ้ำไปซ้ำมา ความหมายเดียวๆกัน เรียกง่ายๆ เหมือนกำลัง "โน้มน้าวหรือเกลี่ยกล่อม"

หมูเองรู้สึกได้แล้วว่า ชายคนนี้ท่าทางไม่น่าไว้ใจอาจเป็นมิจฉาชีพได้
ก็พย๊ายาม...พยายามที่จะหยุด เบรก สต๊อป ก็ไม่มีโอกาส จังหวะและความสามารถที่จะทำได้เลย ได้แต่ยืนนิ่งๆ และพยายาม ตั้งสติให้มั่น ....ฉันรู้ทันแกน๊า จะมาหลอกช้านใช่ม่ะ

จนแล้วจนรอด ชายดังกล่าวก็หยุดพูดเพื่อหายใจสักครู่ เป็นโอกาสเหมาะที่เราจะ...ปลีกตัว


"ขอโทษนะคะ พอดีมีธุระต้องรีบไป" (คิดได้กระทันหัน)

แต่......


ไม่วายที่ชายคนนั้นก็พยายามที่จะยื้อหมูไว้อีก

"เดี๋ยวสิคุณ ไม่สนใจดูดวงเหรอ ดูลักษณะแล้วมีเคราะห์นะ จะช่วยแก้กรรมให้"
(ยังๆ ยังจะหว่านล้อมต่อ)

"นับถือศาสนาอะไรครับ"

หมูก็อืมเอ่อ ด้วยมารยาท แม้ไม่อยากตอบ ไม่อยากสนทนาด้วยหรอก กลัว...
แต่ก็นะ เกรงใจ (ไม่รู้ทำไมสิ)

"นับถือพุทธค่ะ" (ตอบสั้นกระชับไวสุดๆ)

"สนใจดูดวง แก้กรรมมั้ย" (ยังชักชวนต่อ)

"ไม่ค่ะ" (สั้นๆตัดบท)

"งั้นสนใจทำบุญมั้ย" แล้วชายคนนั้นก็หยิบคล้ายๆซองใส่บัตรแต่ในนั้นมีเงินเป็นแบงค์ยี่สิบ
อยู่หลายใบเหมือนกัน พร้อมกับกระดาษอะไรไม่ทราบสองสามใบ

.....

เสียววินาที ไม่รู้อะไรสิงสถิต บันดาลใจ และด้วยอยากตัดความรำคาญ คืออะไรก็ได้
ให้ออกจากสถานการณ์นั้นให้เร็วที่สุด เรียกได้ว่าไม่ทันได้คิด
ล้วงกระเป๋าเป้ หยิบกระเป๋าตังค์ ควักตังค์ให้ชายคนนั้นไปเฉยๆ....ยี่สิบบาท

.....

เมื่อส่งเงินให้เขาไปแล้วก็รีบหันหลังเดินออกมาทันที ไม่อยากหันไปมองอีก...กลัวโดนสิงอีก
แม้เป็นจำนวนเงินไม่มากแต่หลังจากเสียตังค์ให้เขาไปแล้ว คิดว่า

"เราจะให้ตังค์เขาไปทำไมเนี่ย จริงๆเราบอกปัด ไม่ทำบุญค่ะ ก็ได้นิ"

วินาทีนั้น ....บอกตรงๆ คิดไม่ออก คิดไม่ทันจริงๆค่ะ
เข้าข้างตัวเองเพื่อไม่ให้คิดมากว่าเราเจอ "คนเล่นของ" ป่าวว่ะ
เขาพูดอะไรก็เชื่อไปหมด

ทั้งที่ความจริงเสียค่าโง่ไปให้ใครก็ไม่รู้ที่มาคุยด้วยไม่ถึงสามนาทีเพราะความไม่มีสติของตัวเอง
(เล่ายาวเหมือนเหตุการณ์นาน แต่จริงๆมันเป็นเวลาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง)


เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "ถ้ามีสติจะไม่เสียสตางค์"


มาเล่าๆเตือนๆให้ฟังกันค่ะว่าใครเจอเหตุการณ์แบบนี้
มีสติให้มากค่ะ อย่าเป็นแบบหมู เพราะถ้าเขาเป็นมิจฉาชีพจริงๆ
แล้วเราเคลิบเคลิ้มไป อาจเสียหายได้มากกว่า ยี่สิบบาทของหมูนะ

By : m    Date : 20 Jul 2013 14:23       

ความเห็นที่ #1 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123263 )

ตอนพิมพ์ เพลินมากเลยอ่ะ
พอโพสกระทู้เสร็จ โหหหหหหหหหหห ยาวจริงอ่ะ

ขออภัยหากกระทู้นี้เป็นการรบกวน

By : m    Date : 20 Jul 2013 14:25   

ความเห็นที่ #2 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123264 )

เป็นเพราะคุณเป็นคนขึ้เกรงใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ความเกรงใจนี่แระ

ทำให้ไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องเสียน้ำใจ ตัวกลมก็เคยเจอ บ่อยเลยช่วงนี้

ตอนนี้เลยกลายเป็นคนแล้งน้ำใจไปเสียแล้ว ด้วยคนพวกนี้ ที่มาทำแบบนี้

By : เวลา    Date : 20 Jul 2013 14:33   

ความเห็นที่ #3 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123265 )

น่ากลัวอะ ออกมาแนวเหมือนสะกดจิตด้วยคำพูดซ้ำๆ
พอเราไม่เคลิ้มตามภวังค์ ก็ใช้วิธีอื่น
แต่ถ้าเปนเรา ก็คงยอมควัก 20 เพื่อจะออกจากตรงนั้น
กลัวจะเสียเยอะกว่านี้อะ

By : Myself    Date : 20 Jul 2013 14:35   

ความเห็นที่ #4 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123266 )

#2

ใช่ค่ะ คุณตัวกลม
กลุ่มคนพวกนี้เขาจับประเด็นนิสัย "ขี้เกรงใจ"
ของคนไทยได้ เลยใช้วิธีการแบบนี้

บางทีก็เป็นแบบ คนแก่มาขอเงิน กินข้าว ค่ารถกลับบ้าน
อืม...สงสาร แต่บางคนเขาทำเป็นอาชีพ นึกแล้วมันก็น่าเจ็บใจ
เหมือนกันนะคะ เอาความสงสารเขาเรามาเป็นเครื่องมือแบบนี้
คนเราเห็นแก่ตัว แล้วน้ำใจกันมากขึ้นส่วนหนึ่งเพราะประมาณนี้หรือเปล่าเน๊อะ


ปล. คุณตัวกลมโดนไปเยอะมั้ยเนี่ย

By : m    Date : 20 Jul 2013 14:39   

ความเห็นที่ #5 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123267 )

#4

หมูก็คิดแบบคุณMyself นะคะ กลัวว่าจะเสียมากกว่านี้
ตอนคุยก็พยายามระวังตัว อยู่ห่างๆ เคยได้ยินประเภท
ป้ายยาหรือสารที่ทำให้เรามึนงง แล้วบริเวณนั้นก็ไม่ค่อยมีคนเท่าไรด้วย

ปล. เวลาปกติมันมีสติ แต่เจอเหตุการณ์จริง สติกระเจิงทุกทีสิเนี่ย
ระมัดระวังกันหน่อยนะคะ สังคมสมัยนี้

By : m    Date : 20 Jul 2013 14:42   

ความเห็นที่ #6 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123268 )

ตัวกลมโดนคนแก่ขอตังค์ค่ารถกลับบ้าน เจอเค้าแถวๆท่ารถใกล้ตลาด

ให้ไปสองร้อยแล้วเดินไปจ่ายตลาด กลับออกมาไม่ทันได้ดู คนแก่คนนั้น

เข้ามาขอตัวกลมอีกรอบ บอกแบบเดียวกับที่บอกครั้งแรก

ตัวกลมก็เลยมองชัดๆอีกที แล้วบอกเค้าไปว่า พึ่งให้ไปสองร้อยจำไม่ได้

แล้วหรือ แล้วก็เดินออกไปยืนมองไกลๆ ถึงได้รู้ว่าโดนหลอกขอตังค์

ส่วนเรื่องพวกแขกเคยถูกถามเรื่องดูดวง แต่ปฏิเสธแล้วรีบเดินหนีเพราะ

กลัวคนพวกนี้มากๆคะ คนเราแล้งน้ำใจกันเพราะสิ่งที่ให้ไปมันย้อนกลับ

มาทำร้ายตัวเองให้เจ็บปวดคะคุณหมู

By : เวลา    Date : 20 Jul 2013 14:48   

ความเห็นที่ #7 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123271 )

#6

คนแก่ขอเงินนี่เจอบ่อยค่ะ

บางทีเจอคนละสถานที่แต่ "คนเดียวกันเลย"
อ้าว ยายๆ ทำไมยังไม่กลับบ้านสักที
(บอกว่าขอเงินค่ารถกลับต่างจังหวัด มาหาลูกที่ กทม.แล้วไม่เจอ)


เรื่องแขกชวนดูดวงยังไม่เคยเจอ ไม่เคยได้ยิน
แต่คุณตัวกลมเคยเจอแบบนี้แสดงว่าเขาทำกันเป็นขบวนการ
หรือมีทำนองนี้อยู่เยอะ เห้ออออ ไม่รู้จะว่าอย่างไรกับบุุคคคลกล่มนี้ดีนะ

ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้เอามีดมาจี้ บังคับเอาเงินจากเราหรอกนะ
แต่มันก็เหมือน "ปล้น" กันชัดๆอ่ะ

"ปล้นโดยไม่ต้องใช้กำลัง"


ปล. แจกอมยิ้มให้คุณตัวกลมกับคุณMyself ก่อนดีกว่า
ในฐานะที่อ่านกระทู้ของหมูได้จบ

By : m    Date : 20 Jul 2013 15:01   

ความเห็นที่ #8 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123272 )

จิงๆ คะ เด๋วนี้น่ากลัวเยอะ มีทุกรูปแบบ
เรายิ่งมึนๆ เบลอๆ อยู่ด้วย
ขอบคุณ k.หมูที่ออกมาแชร์นะคะ

ว่าแต่ อมยิ้ม ไม่มีวางยา ใช่ป่าวคะ

By : Myself    Date : 20 Jul 2013 15:05   

ความเห็นที่ #9 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123274 )

#8

เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยเจอกับเหตุการณ์ทำนองนี้
ใครโชคดีไม่เสียหายมาก ก็ดีไปค่ะ ได้บทเรียนกันไป
แต่...มิจฉาชีพก็เก่งค่ะ ขยั๊นนน...ขยัน ฉลาดอีกตะหาก
คิดว่าวิธีการใหม่ สร้างสถานการณ์ต่างๆ มาหลอกเราได้อีกเรื่อยๆ
น่าจะจับพวกนี้ไปทำงานครีเอทีฟนะคะ คงรุ่งและมีประโยชน์



ปล.หมูไม่ใช้วิธีละมุนละม่อมแบบนั้นหรอกค่ะ
ถ้าทำจริง "ดักตีหัว...ลากเข้าห้อง" เลยไม่เปลืองอมยิ้มด้วย

By : m    Date : 20 Jul 2013 15:10   

ความเห็นที่ #10 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123275 )

มาตอบให้ล่ะกัน พอดีว่าเปนจิตวิทยาปนะยุกต์อยู่ ศึกษาตำราทางด้านนี้มา

ทั้งหมดใช้หลักการง่ายๆครับ โมติเวทและโจมตีจิตใจ

คือจับจุดเอาจากคนเราโดยดูจากลักษณะพื้นฐาน แล้วจี้ไปยังที่จุดเดิมๆของคนๆนั้นซ้ำๆกัน

ยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ ถ้าผมคุยกับ คุณหมูแล้วจับทางได้ใจความว่า คุณหมอชอบทอมที่พูดเพราะพูดค่ะ ผมก้อจะโจมตีคุณหมูด้วยการพูดจาเพราะๆแบบนี้ตลอดเวลา สักพักนึงคุณหมูก้อคงใจอ่อนเอง

การพูดจาลักษณะที่เร็วรึรัว เป้าหมายของเขาคือตั้งใจทำให้เราตั้งตัวไม่ติดจับอะไรได้ไม่ละเอียดไม่มีเวลาไตร่ตรอง เหมือนกับเวลาใครมาเร่งเราว่าเร็วๆๆสิ ขอตั้งหน่อยต้องจ่าย แล้วเราก้อรับควักเงินให้เขาทันทีแบบไม่ทันถามเขากลับอะไรล่ะ สาเหตุเพียงเพราะเขาเร่งเราว่าเร่งด่วนเร็วๆนะ

พอจะเข้าใจรึยังครับ ในสิ่งที่ผมอธิบาย ทางแก้ไม่ใช่แค่้การมีสติอย่างเดียวนะครับ แต่ว่า เริ่มต้นคือถ้าเห็นใครทำท่าปรี่เข้ามาแบบนี้ คุณควรจะชิงเดินหนีเลย เพราะลักษณะของคนประเภทนี้มิจฉาชีพประเภทนี้คือ จะเล็งเหยื่อแล้วเดินตรงเข้ามารึทำทีเข้ามาหาเลยแบบว่ามีการคัดเลือกเป้าหมายไว้แล้ว

By : ยอดชายนายแม่โขง    Date : 20 Jul 2013 15:12   

ความเห็นที่ #11 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123277 )

การโจมตีจิตใจ คือการดูลักษณะพื้นฐานของคนครับ ว่าคนนั้นมีจุดไหน เรื่องไหนที่แบบว่าละเอียดอ่อนต่อความรู้สึก

ยกตัวอย่าง ถ้าผมจีบบี แล้วอยากได้บีเปนเมียมาก แล้วผมรู้ว่า จุดของบี คือบีเปนคนที่รักครอบครัวแคร์ครอบครัวมาก ผมก้อจะโจมตีในตรงนี้โดยการพูดถึงเรื่องดีๆีในการเอาใจใส่ครอบครัวของผม แสดงออกว่ารักครอบครัวให้บีเห็น และพยามทำอะไรก้อตามแต่ที่วกสุดท้ายลงมาให้ได้ว่า ผมเปนคนรักครอบครัวเหมือนบี

อีกสักพักไม่เกิน3-วัน7วัน ผมได้เปนแฟนบีแน่นอน

By : ยอดชายนายแม่โขง    Date : 20 Jul 2013 15:18   

ความเห็นที่ #12 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123278 )

#10-11

ขอบคุณ คุณแม่โขงที่มาแนะนำความรู้และหลักการรับมือเบื้องต้นนะคะ
ฝากให้เพื่อนๆด้วยค่ะ จะได้เอาไว้ระมัดระวังตัวระวังใจ ป้องกันเงินในกระเป๋ากัน^^

นี่แสดงหน้าโหงเฮงหมูดูเป็นคนเชื่อคนง่ายละมั้งเนี่ย แขกคนนี้ถึงได้เลือก
หมูเป็น "เหยื่ิอ" ของเขา แต่...เขาคาดเดาผิดไปอย่างหนึ่งค่ะ
คิดว่าหมูมีตังค์(เยอะ) อาจจะประมาณการจากรูปร่างนะ (ดูมีอันจะกิน)555
ที่ไหนได้ ในกระเป่าตังค์มีแต่แบ๊งค์ยี่สิบ ถ้ามีแบงค์ห้าร้อย
สงสัยหมูคงควักให้เขาไปแล้วละ (ไม่รู้ว่ามีสติหรือความงกมันรุนแรงกว่า)


ปล. ว่าแต่หลักการนี้นำไปใช้เป็นวิธีป้องกันการ "ล่อลวง" จากสาวๆ
ได้ป่าวค่ะเนี่ย หนุ่มๆจะได้จำไว้ป้องกันตัว

By : m    Date : 20 Jul 2013 15:37   

ความเห็นที่ #13 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123279 )

ใช่ครับ เป็นการใช้หลักจิตวิทยา
ใช้วิธีสังเกตจากบุคลิกภายนอก ซึ่งบุคลิกภายนอก จะส่อความเป็นตัวตนของเราครับ
เพื่อที่จะเข้าถึง เรียกร้องความสนใจ จู่โจมเรา
นี่ดีนะครับ ที่คุณหมูไหวตัว ไม่ยอมดูดวง ไม่งั้น เสียอีกเยอะเลยครับ
พวกนี้หากินกับจุดอ่อนของคนจิตใจดีครับ และส่วนมาก คนที่ตกเป็นเหยื่อ ก็เป็นคนจิตใจดีครับ...

By : amp    Date : 20 Jul 2013 15:38   

ความเห็นที่ #14 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123283 )

#13

พอได้อ่านความเห็นของคุณamp

อืม อย่างน้อยหมูคงจะลดความโกรธตาแขกคนนี้ไปบ้างเล็กน้อย
เพราะ....เขาคิดว่าเราเป็น "คนจิตใจดี" อ่ะ ยวนๆไป 555 ล้อเล่นนะคะ

จริงอย่างคุณamp วิเคราะห์ละคะ
แต่ที่หมูเจอ หมูคาดว่า เขาน่าจะ เดินไปตามซอย ถนนเรื่อยๆ
แล้วเจอเหยื่อที่ดู (ไม่ทันคน) แล้วก็ประชิดตัว เริ่มปฏิบัติการ
ก็แล้วแต่ว่าจะเจอเหยื่อยเคลิ้มมาก เคลิ้มน้อย

เคลิ้มมาก (ประกอบกับช่วงนั้น เขาอาจมีเรื่องทุกข์ใจอยู่)
ก็ดูดวง เสียค่าสะเดาะเคราะห์กันไปตามเรื่องตามราว

เคลิ้มน้อย (แบบหมู) ก็เสียเงิน...ทำบุญ (แล้วแต่จิตสั่งมานะ ไม่ใช่ ศรัทธา)

เพราะสังเกตุซองใส่กระเป๋า(ที่เล่า) ว่ามีแบ๊งค์ยี่สิบอยู่หลายใบ
อาจจะเป็นของเหยื่อคนก่อนหน้าหมู

ยังไงก็ระมัดระวังด้วยเช่นกันนะคะ

By : m    Date : 20 Jul 2013 15:46   

ความเห็นที่ #15 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123284 )

พี่เราเคยเจอ กลับบ้านมาเล่าให้ฟังว่าเจอแขกมาทักให้ดูดวง ลักษณะคล้ายๆที่คุณหมูบอกเลย
มันคงจะจริงเหมือนกับความเห็นของเพื่อนๆว่า คนไทยขี้เกรงใจ ใจอ่อน เป็นเมืองพุทธด้วย มิจฉาชีพพวกนี้เลยหากินได้ง่าย

พี่เราโดนทักแล้วบังเอิญมันก็ฟังดูคล้ายๆใกล้เคียงจะตรง ก็เลยดูดวงด้วยเลย นิสัยผู้หญิงด้วยอ่ะเนาะ เสียไป 1 ร้อย...

พี่กลับห้องมา search google ใหญ่เลย 555 ปรากฏว่า มีคนโดนแบบนี้เยอะเหมือนกัน บางคนถึงกับขนาดให้ตอนดูแล้วยังไม่พอ กลับไปโอนตังค์มาให้อีก เพื่อแก้เคราะห์ แก้กรรมอะไรไม่รู้... เหยื่อบางรายที่เป็นผู้หญิงอาจไม่เสียแค่เงิน เสียตัวด้วย

ฟังๆพี่เล่าแล้วก็จริงอย่างที่คุณหมูเล่า พวกนี้จิตวิทยาสูงมาก พูดเก่งมาก โน้มน้าวคนได้เก่งมาก น่าแปลกใจ ว่าถ้าไปใช้ความสามารถนี้ไปหางานดีๆทำ อาจเจริญก้าวหน้าได้มาก

เห้อ สังคมนี้อยู่ยาก น่ากลัวจริงๆ
ระวังตัวกันด้วยเด้อสาวๆ

By : bluediary    Date : 20 Jul 2013 15:55   

ความเห็นที่ #16 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123290 )

#15

ดีนะคะที่พี่สาวคุณbluediary เสียแค่เงินไม่เท่าไร ถือว่าซื้อประสบการณ์ไปค่ะ
เรื่องแบบนี้ ใครเจอกับตัวเอง ก็คงจะเข้าใจว่าสถานการณ์นั้นมันมึน งง จริงๆ

มิน่าละ เขาว่ากันว่าพวกคนแขก มีแฟนสวย มีสาวเยอะ
เกลี่ยกล่อมได้เก่งแบบนี้นี่เอง อ้าว นอกเรื่องไปเฉยเลย

หมูว่าถ้าใครเจอเหตุการณ์อะไรทำนองนี้แล้วมาบอกต่อกัน
ให้รู้ เหมือนพวกรายการ นาทีฉุกเฉิน อะไรแบบนั้นก็ดีนะคะ
คนที่ได้ดู ยังไม่เคยเจอกับตัว ก็อาจจะได้รู้ล่วงหน้า ได้ระมัดระวังกันบ้าง
อย่างน้อย วิธีการเดิมก็จะใช้ไม่ได้ผล เมื่อคนรู้เท่าทัน

ปล. นี่ก็ว่าจะติดต่อ พี่สอ. กับน้องไบร์ท ไปแฉแล้วนะคะเนี่ย

By : m    Date : 20 Jul 2013 16:03   

ความเห็นที่ #17 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123292 )

.
.เจอประจำเลยอะ แบบนี้ เดี๋ยวเป็นคนแก่บอกหลงทางไม่มีค่ารถกลับบ้าน

เดี๋ยวมาเป็นพระ ขอบิณฑบาตรตอน เกือบทุ่มอะ เซ็งเหมือนกัน

พระบ้าบอที่ไหนมาตอนจะทุ่ม แถมหนวดเคราเฟิ้ม ตัวเหม็น ที่สำคัญถือดอกไม่มาด้วย ดอกพุทธรักษา..หากินง่ายๆเนาะ

ส่วนลักษณะออกแนวดูดวงอะ แก้มเสียไปตั้ง399..ก็ไม่รู้ว่าหลงกลได้ไง วัีนนั้นในกระเป๋ามีแค่นั้นด้วย กลัวมาก ปกติก็ไม่เคยให้ใครเข้าใกล้ประชิดตัวนะ พวกนี้มารสังคมแท้ๆ

แชร์ด้วยนะคะ จขกท

By : ยูริ    Date : 20 Jul 2013 16:11   

ความเห็นที่ #18 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123296 )

#16

ใช่แล้วค่ะ ที่เสียไปแล้วเล็กๆน้อยๆก็ไม่เป็นไรหรอก เราได้ประสบการณ์มาสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง

เราก็เคยออกบ่อย เห็นคนแก่ๆอ่ะไม่ได้เลย อย่าเผลอไปมองตาเด็ดขาด...ไม่รุนะ เวลาเห็นแล้วนึกถึงยาย นึกถึงแม่ที่บ้าน ทำไมคนแก่ขอทานพวกนี้ถึงได้โชคร้ายจัง แก่แล้วยังต้องมาลำบาก...เอ่อ ดราม่าอ่ะ 555
ขอยกคำสอนและข้อเตือนใจของพระพุทธด้านล่าง

พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า เราจะมีเมตตาอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องมีปัญญาคิดวิเคราะห์ด้วย ถ้าเราจริงใจกับใครเราก็ต้องรู้ว่าเขาจริงใจกับเราหรือไม่ ปัญญาของเราจะเป็นเครื่องนำทางให้เราเห็นความเป็นจริงถูกต้อง

ปล. แขกมีแฟนสวยจริงหรอๆ? เออ แต่ก็ท่าจะจริงเนอะ 555

By : bluediary    Date : 20 Jul 2013 16:21   

ความเห็นที่ #19 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123297 )

#17

น้องแก้มคงดูลักษณะแล้วมีฐานะกว่าพี่นะ เสียไปตั้งเป็นร้อย
แต่ยังดีกว่าเสียอย่างอื่นด้วย คิดแบบชาวพุทธเน๊อะ ^^

แล้วส่วนใหญ่ เหยื่อจะเป็นผู้หญิงนะ หลายที่เข้ามาตอบในกระทู้
หรือคนรู้จักที่เจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ คงเพราะผู้หญิง ค่อนข้างจะ
มีจิตใจ อ่อนไหว อ่อนโยน โน้มน้าวง่าย

(กรณีเครื่องสำอางค์ ตัวขาวยาลดความอ้วนเนี่ยเข้าข่าย
หลอกลวงกับสาวๆด้วยเปล่าเนี่ย) 555


นี่ละคะ คนไทย นิสัยชาวพุทธ ช่างมัน ช่างเถอะ คิดว่าซวยไป
ทำให้กลุ่มคนพวกนี้ยังทำอยู่ได้ ผู้เสียหายไม่ไปแจ้งความดำเนินการทางกฎหมาย
ด้วยเหตุ เสียเวลา เงินแค่นี้เอง ปล่อยไปเถอะ

ทั้งที่ความจริงแล้ว หมูว่า ถ้าเรื่องแบบนี้มันมีเยอะขนาดนี้
ทางตำรวจน่าจะช่วยดำเนินการได้ ปรามปราม จับกุม สอดส่องดูแลได้บ้าง


ปล. โชคดีตรงที่หมูเองเป็นคนไม่ค่อยชอบดูดวงเท่าไร ไม่เชื่อ เลยรอดตัว

399!!! เห้อออ ยังกะไปกินบุฟเฟต์

By : m    Date : 20 Jul 2013 16:25   

ความเห็นที่ #20 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123299 )

#18

คนส่วนใหญ่คงคิดเหมือนคุณBluediary
เห็นคนแก่แล้วก็นึกถึง แม่ นึกถึงยายที่บ้าน

อีกเรื่องเมื่อวานเช่นกันค่ะ แต่ว่าไม่เข้าข่ายหลอกลวง
หมูไปรับคุณหมอกหน้าปากซอย ตอนนั้นสี่ทุ่มกว่าแล้ว
เจอคุณยายอายุน่าจะประมาณเจ็ดสิบได้แล้ว ยังนั่งขายขนมอยู่เลย

พลันสายตาคุณยายเห็นหมูก็เรียก "ซื้อขนมป้าหน่อยลูก อร่อยนะ"

คิดในใจ ป่านนี้แล้วคุณยายยังไม่ได้กลับบ้านพักผ่อนเลย
อยากช่วยอุดหนุนคุณยายสักหน่อย ไม่ได้เป็นประเภท มาล่อลวงขอเงินดื้อๆ
นี่คุณยายทำอาชีพสุจริต แต่...ไม่มีตังค์เลยซักบาทในกระเป๋า (ไม่ได้พกกระเป๋ามา)
ได้แต่ทำตาปริบๆ

แต่พอคุณหมอกมาก็อุดหนุนขนมคุณยายไปหนึ่งห่อ ส่งเงินให้ คุณยายกำลังจะยื่น
เงินทอนค่าขนมให้ คุณหมอกรีบบอก...ไม่เป็นไรค่ะ
คุณยายขอบใจและยกมือไหว้คุณหมอกอีกด้วย

แชร์กันอีกเรื่องค่ะ เป็นเรื่องราวดีๆ บางว่า "คนดี"
คิดทำอาชีพสุจริต ก็ยังมีอยู่ค่ะ แม้ว่าจะอายุมาก
ไม่มีเรี่ยวแรงแต่ไม่คิดจะหลอกลวงใคร

By : m    Date : 20 Jul 2013 16:36   

ความเห็นที่ #21 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123300 )

#20

เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมจริงๆค่า เราเชื่อว่าคนเราทำอะไรก็ได้อย่างนั้น
บางทียายอาจจะเหนื่อย แต่ก็อาจจะมีความสุข ความภูมิใจในชีวิตก็ได้
ต่างจากพวกหลอกลวงชาวบ้าน ไม่รู้ว่าจิตใจจะสงบบ้างรึเปล่านะคะ

By : bluediary    Date : 20 Jul 2013 16:46   

ความเห็นที่ #22 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123301 )

มาเพิ่มเติม อย่างหนังสือของ ไบรอัน เทรซี่ กูรูของโลกที่ขายได้แม้แต่อุจจาระยังสอน

ในบทนึงไบรอัน สอนว่า คือ ถเาจะขายบ้านใช่ไหม แล้วพาลูกค้าไปชมบ้าน แล้วลูกค้าเกิดชอบต้นไ้ม้ที่ปลูกไว้หน้าบ้านมาก ทำไงก้อได้ให้พนักงานขายเซลคนนี้สามารถพูดโยงไปได้ว่า ไม่ว่าคุณจะอยู่มุมไหนของบ้านเปิดหน้าต่างบานไหน คุณก้อยังสัมผัสมองเห็นได้ถึงต้นไม้ต้นนั้น แล้วรับรองว่าปิดการขายได้แน่ๆๆ

อย่างเรื่องคุณหมูเข่นกัน คนเรามีความเชื่อเรื่องดวงและอยากพ้นทุกข์ชีวิตดีขึ้้นจะมากรึน้อยเปนจุดศูนย์กลางกันทั้งนั้นแบบไม่จำเปนต้องจำกัดศาสนา ตรงนี้ไงครับคือเค้าเอาเปนจุดที่ว่าใ้มาพูดตีคุณหมูชงแต่เรื่องดวงซ้ำๆการแก้กรรมผสมกับการดูลักษณะคุณหมูแล้วพยามใส่คำพูดให้น่าเชื่อถิือ เพื่อคุณหมูจะไ้ด้เกิดความรู้สึกเปนพื้นฐานว่าแม่น แล้วก้อพูดเร็วๆรัวๆผสมกันไปหมดโจมตีทางความคิดจิตใจให้ตั้งรับมือไม่ทัน กระบวนการการไตร่ตรองขาด สุดท้ายก้อจบลงที่การจ่ายเงิน แต่ถ้าคุณหมูนิ่งกว่านี้ คุณจะไม่จ่ายเงินเลยสักบ้าน แต่ที่คุณจ่ายเงินเพาะคุณโดนโจมตีจิตใจจนคิดว่าการจ่ายเงินคือการพาตัวเองให้พ้นสถานการณ์นี้ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เชื่อในเรื่องที่เล่าก้อตามแต่คุณรู้สึกว่าการจ่ายเงินเพื่อพ้นสถานการณ์ึคือทางออกไปแล้ว เพราะว่ากระบวนความคิดและหการไตรตรองของคุณหมูเสียไปชั่วขณะ เพราะว่าเจอพูดเร็วพูดรัวรกอย่างต่อเนื่อง

วันนี้เปิดเลคเชอร์จิตวิทยาฉบับย่อ ถ้าไม่เชื่อ ลองเอาทดลองดูนะครับ ไปพูดกับใครเร็วๆรัวๆอย่างต่อเนื่องสัก5นาที ดูซิว่าเขาจะมึนงงทำอะไรไม่ถูกไหม

By : ยอดชายนายแม่โขง    Date : 20 Jul 2013 16:52   

ความเห็นที่ #23 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123302 )

#21

คนทำดีเราต้องสนับสนุนค่ะ

นึกถึงอีกเรื่องนึงไม่ได้
คุณตาขายขนม

"ช่วยตาซื้อขนมหน่อย เหลือห่อสุดท้ายละ ตาจะได้กลับบ้าน"

ซื้อเสร็จเดินไปสักพัก วนกลับมาที่เดิม เจอถาดคุณตายังมีขนมวางอยู่อีกหนึ่งห่อ
พร้อมกับประโยคเดิมกับคนใหม่

"ช่วยตาซื้อขนมหน่อย เหลือห่อสุดท้ายละ ตาจะได้กลับบ้าน"

มองแล้วยิ้มขำๆมากกว่าค่ะ เรื่องนี้
คุณตานี่สุดยอดเทคนิคการตลาดขั้นเทพเลยค่ะ

ปล. เมื่อกี้เม้าท์เพลิน จะบอกคุณBlueฯ ว่าชอบมากเลยค่ะ

"เราจะมีเมตตาอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องมีปัญญาคิดวิเคราะห์ด้วย"

พุทธองค์ ไม่ได้สอนให้เราแล้งน้ำใจ แต่ให้ไตร่ตรอง "ให้กับคนที่ควรให้"

สาธุ สาธุ

By : m    Date : 20 Jul 2013 16:59   

ความเห็นที่ #24 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123320 )

มองผ่านกระทู้ไปหลายรอบ แล้ว แต่ไม่ได้เปิดอ่าน
วันนี้ว่างๆเลยอ่าน.. เจอประโยคแรก คำเตือนไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบอ่านอะไรสั้นๆ ก็กะว่า จะไม่อ่าน..
พอดีตาไวเลยแอบอ่าน ประโยคถัดมาแบะถัดมา
ในที่สุดอ่านจบ
ค้นพบว่า
เฮ้ย อ่านได้ ยังไม่ตาย ....


คำเตือน พยายามเดินหนีเลยคะถ้าเจอ พยายามอย่าล้วงควักกระเป๋าตัง ถ้าให้ดี พกตัง เศษ ไว้ในกระเป๋า และดีที่สุด เดินทำหูทวนลม เลยน่าจะปลอดภัยที่สุด น่ากลัวนะ ดีที่เขาไม่มียาป้ายอะ ไม่งั้นป่านนี้ จขกท คง นั่งตาลอย. หาทางกลับไม่ถุกแน่

ปล..Take care นัอง เน้อะ

By : ร    Date : 20 Jul 2013 17:58   

ความเห็นที่ #25 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123377 )

@Bluediary, Yuri & Moo ขอบคุณนะคะที่มาช่วยแชร์ ปสก ทำให้ทันเหตุการณ์กันมากขึ้น
หลักการณ์ทุกคนรู้และพูดได้ทั้งนั้นว่าต้องยังงัย แต่เจอของจริงบางทีก็คิดไม่ทันถมไปค่ะ 55
คนพวกนี้มีกรรม เกิดมาเป็นมิจฉาชีพ ไม่มีทางเลือกค่ะ ... เป็นกรรมของเค้า
เข้าใจเลยว่าทำไมคุณหมูยอมจ่ายเงิน บางทีคิดว่า 20 บาท ตัดรำคาญ
บางคนก็คิดว่า ก็ได้ดูหมอแลกกัน .. แล้วแต่คนจะคิดในตอนนั้น

เราก็เคยเจอนะคะ สมัยเรียนมหาลัย นานมากล่ะคะ 55
มีหมอดูมาเปิดซุ้ม คนเดินผ่านไปมากก็เรียกมาดูหมอด้วยคำพูดชวนเชื่อ
เราเดินผ่านไป เค้าทักเราด้วยคำพูดที่ว่า "กำลังมีเคราะห์ ดวงตกมากถึงชีวิต"
ตอนนั้นกำลังอารมณ์ไม่ดีพอดี ได้ยินแบบนี้เลยหันไปมอง และตอบไปว่า "หมออยากลงไปดิ้นใช่มั๊ย ปากถึงได้หมาแบบนี้" แล้วโทรบอกที่บ้าน หมอก็เลยหุบปากเงียบๆ .. สมัยนั้นยังเด็ก ใจร้อนค่ะ 55

แต่เราคิดว่า คนส่วนใหญ่ใจดีค่ะ มีน้ำใจกับคนที่เค้าลำบากกว่าเรา
ช่วยคนด้วยจิตเมตตาดีทั้งนั้นค่ะ "ทำอะไร ก็ได้อย่างนั้น" สิ่งดีจะมาหาเราเอง
คุณหมูเลยเสียเงินแค่ 20 เองงัย ^^

By : Cindii    Date : 20 Jul 2013 21:11   

ความเห็นที่ #26 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5123502 )

เบื่อพวกที่ชอบหากินแบบนี้จังค่ะ...เดี๋ยวนี้ต้องระวังเพราะมันมีมาหลายรูปแบบ ไว้ใจคนยากถ้าเป็นไปได้พยายามอย่าคุยกับคนแปลกหน้านะคะ เมื่อก่อนหมอดูพวกนี้ชอบมาตื้อลูกค้าอามบ่อยๆ มีสารพัดของเล่นมาโชว์ อย่างเช่นตัดเชือกแล้วเสกให้มาติดกันใหม่อารายเงี๊ยะ อามเองก้เคยโดนค่ะไม่เสียตังค์แต่มันเสียเวลา เลยไปปรึกษาตำรวจบังเอิญว่ามีหมายจับคนๆนี้อยู่พอดี แต่เหมือนมันจะรู้ตัว ไม่โผล่หน้ามาให้เห็นอีกเลย

By : อาม    Date : 21 Jul 2013 11:27   

ความเห็นที่ #27 / 2553 ( เป็นต้นไป ) ( 5125630 )

เดี่ยวนี้กระทู้ที่ตั้งในบอร์ดแปลกๆ ทำไมไม่เห็นคอมเม้นต์
เลยมาตอบช้าหน่อย อีกอย่าง ดูอีกหน้า มีเม้นคุณซินดี้
แต่มาหน้านี่ ไม่มี อ้าว กรรม

ขอบคุณความห่วงใยถุงใหญ่ๆ ค่ะคุณรัน
เช่นกันนะคะ ระมัดระวังตัวเองด้วยเหมือนกัน
ชอบป้ำ เป๋อๆ อยู่บ่อยๆไม่ใช่เหรอ ตัวเองอ่ะ


คุณซินดี โหดมากอ่ะ
แสดงว่าเป็นคนใจเด็ด ใจร้อนนะเนี่ย
กล้าได้ กล้าเสีย นี่ไม่กลัว พ่อหมอเขาแค้นจะเสกหนังควายเข้าท้องเหรอค่ะ 555
ร่วมด้วยช่วยกัน ค่ะ มีเรื่องดีก็แบ่งปัน มีเรื่องร้ายก็เตือนกันไว้ จะได้ไม่
ตกเป็นเหยื่อค่ะ ^^


คุณอามเล่าแล้วนึกถึงพวกที่เป็นโชว์ ขายเครื่องราง สิ่งศักดิ์
แบบ อับดุล อะไรทำนองนั้นเลยค่ะ หมูเองก็เคยไปยืนดู
นะคะ อยากรู้ว่าเขาจะมีวิธีการ "หลอกล่อ" เอาเงินในกระเป๋าจากคน
ที่มาดูได้ยังไง สุดท้าย ก็มีคนยอมจ่ายเงินให้จนได้
คงด้วยความเชื่อส่วนตัวของแต่ละคนด้วยมั้งค่ะ เขาไม่ได้ปล้น ไม่ได้หลอก
แค่...โน้มน้าว เน๊อะ

ปล. แต่หมูไม่เสียตังค์กับอะไรแบบนี้นะคะ ไม่ค่อยเชื่อและเสียดายด้วย

By : m    Date : 27 Jul 2013 12:42