DVD UP 2 U




แจ้งลบกระทู้ หมายเลข : 122056

 หัวเรื่อง : รักครั้งใหม่ หัวใจคือเธอ [2]

 ข้อความ :

รักครั้งใหม่ หัวใจคือเธอ (2)

“พิมพ์ พิมพ์” เสียงเรียกทำให้คนที่ถูกเรียกหลุดออกจาภวังค์

“ยังไง ใจลอยไปถึงไหนแล้วเนี่ย แล้วทำไมนั่งหน้าตาบอกบุญไม่รับอย่างนั้นล่ะจ๊ะ”

“พี่พาย เสร็จธุระแล้วเหรอคะ” พิมพ์ลักษณ์หันมาตอบพี่สาว

“เสร็จแล้วล่ะจ้ะ แล้วเป็นไงวันนี้ไหนเล่าให้พี่ฟังหน่อยซิ ว่าเพราะอะไร ถึงทำให้น้องสาวคนสวยของพี่ถึงกับคิ้วผูกโบว์แบบนี้จ๊ะ” พายพูดกับน้องสาวด้วยรอยยิ้มละไม พร้อมทั้งเอื้อมมือไปจับที่หัวคิ้วของพิมพ์ลักษณ์

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พิมพ์คงนอนน้อยไปหน่อยก็เลยหงุดหงิด แล้วเมื่อตอนบ่ายก็ไปเจอคนบ้ามาก็เท่านั้นเอง” พิมพ์ลักษณ์ตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่กลับมาอีกครั้ง

“ฮะ” พายทำหน้างงๆ พิมพ์ลักษณ์จึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พี่สาวฟัง

“คิดดูสิพี่พายเดินชนพิมพ์ก็ไม่ขอโทษ แล้วยังมาว่าพิมพ์อีก”

“แหม! พิมพ์ เค๊าก็อุตส่าห์เก็บกระเป๋าสตางค์มาคืนให้เราแล้วนี่ ยังจะไปว่าเค๊าอีก”

“โธ่! พี่พายคะ พิมพ์ก็ให้เงินเป็นค่าตอบแทนความมีน้ำใจของเค๊าไปแล้วไง แล้วยังโดนว่าอีก มันน่าโมโหมั้ยล่ะ” พิมพ์ลักษณ์นึกไปถึงใบหน้าของหญิงสาวตัวสูงเมื่อตอนที่เธอยื่นเงินให้

“โธ่! ยายพิมพ์ก็เราไม่บอกเค๊านี่นาจู่ๆ ก็ยื่นเงินให้เค๊าหน้าตาเฉย คนเราไม่เหมือนกันหรอกนะ เป็นพี่ พี่ก็คงโกรธ” พายตอบพลางอมยิ้ม

“โธ่! พี่พาย ใครจะไปรู้ล่ะคะ ก็พิมพ์นึกไม่ออกนี่นาว่าต้องทำไง”

“เออ วันหลังก็ดูตาม้าตาเรือก่อนที่จะไปยื่นเงินให้ใครต่อใครเค๊าแบบนี้นะ บางคนน่ะ เค๊าอาจจะคิดว่าเราไปดูถูกเค๊าก็ได้”

“ค่ะ พี่พาย ก็พิมพ์นึกไม่ถึงนี่นาว่าจะมีคนมีน้ำใจหลงเหลืออยู่” เสียงของเธอเริ่มอ่อยๆ
ไป หน้าตาบ่งบอกถึงความสำนึกผิด

“เอาเถอะ พี่ว่าเรากลับบ้านกันดีกว่า วันนี้พิมพ์ต้องอยู่ทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่นะ เห็นท่านบ่นว่าคิดถึง ก็เราน่ะมัวแต่หมกตัวอยู่ที่คอนโดเป็นอาทิตย์ๆ” พายต่อว่าน้องสาว

“ค่า พี่พาย” พิมพ์ลักษณ์รีบทำน้ำเสียงออดอ้อน

****************************************************************************************************


“ปี๊น ปี๊น”

เสียงแตรรถเป็นสัญญาณบอกให้คนข้างในเปิดประตูบ้านให้รถยุโรปคันหรูได้เข้าไปในบริเวณอันกว้างใหญ่ไพศาลริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีบ้านหลังงามตั้งอยู่ โอปอล์รีบขับรถเข้าไปจอดในโรงจอดรถ

“นี่เจ้าปอ คงกลับมาแล้วล่ะมั้งคุณ” เสียงคุณปิลันธ์ ชายหนุ่มเจ้าของบ้านหลังใหญ่แห่งนี้ ที่ยังคงความหล่อเหลาแม้ว่าอายุจะล่วงเลยเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว หันไปบอกกับภรรยา พร้อมกับที่โอปอล์ก้าวเข้ามาภายในห้องนั่งเล่นส่วนตัวของเจ้าของบ้าน

“ไงเจ้าปอ ไปเที่ยวที่ไหนมาล่ะ วันนี้ป๋าก็นึกว่าจะอยู่ทานข้าวกลางวันกับป๋าที่โรงแรมซะอีก”

“โธ่! คุณป๋าขา ก็วันนี้สากับตั้มนัดปอไปทานข้าวด้วยนี่คะ” โอปอล์พูดพลางเดินไปนั่งแล้วกอดแขนมารดาไว้

“แล้ว สองคนนั้นเป็นยังไงบ้างล่ะลูก แม่ไม่เจอตั้งนานแล้ว คราวหน้าก็ชวนมาทานข้าวที่บ้านเราสิ” คุณญาดา บอกกับลูกสาวอย่างอารมณ์ดี

“ค่ะ ไว้ปอจะชวนมานะคะ ถ้างั้นปอขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะคุณแม่ คุณป๋า เหนื่อยจัง ” โอปอล์พูดพลางบิดขี้เกียจ

“จ้าลูก เออ! นี่ปอ ลูกพอจะรู้จักใครที่จัดสวนได้มั้ย แม่ว่าสวนหลังบ้านเราชักจะโทรมๆ แล้วล่ะ แม่อยากจะทำใหม่น่ะ”

“เดี๋ยวปอลองถามเพื่อนให้นะคะแม่”

“ปอ พรุ่งนี้มีประชุมผู้ถือหุ้นนะลูก อย่าลืมล่ะ “ คุณปิลันธ์เตือนลูกสาว

“ค่า คุณป๋า ราตรีสวัสดิ์นะคะคุณป๋า คุณแม่” โอปอล์หอมแก้มคุณญาดา แล้วจึงเดินไปห้อมแก้มคุณปิลันธ์ อย่างอ้อนๆ

ไม่ว่าจะนานเท่าไหร่ ในสายตาของท่านทั้งสองก็ยังมองว่าโอปอล์เป็นเด็กตัวเล็กๆ อยู่ดี ทั้งที่ตอนนี้โอปอล์อายุ 27 แล้วก็ตาม ในความรู้สึกของคนเป็นพ่อกับแม่ ยังไงก็ยังคงมีความรักความห่วงใยให้ลูกเสมอ

****************************************************************************************************


“คุณปอคะ คุณปอ วันนี้คุณปอมีประชุมตอน 11 โมงเช้านะคะ แล้วตอนเที่ยงต้องทานอาหารกลางวันกับท่านประธาน แล้ว 6 โมงเย็นวันนี้คุณปอมีนัดไปงานเปิดร้านอาหารของคุณมัทธนา นะคะ” เสียงเลขาสาวรายงานโอปอล์เมื่อเธอกำลังจะเดินเข้าห้องทำงาน

“ขอบคุณนะคะ” โอปอล์ตอบพลางส่งยิ้มหวานไปให้เลขาสาว แล้วจึงเดินเข้าห้องทำงานที่ตั้งอยู่บนโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว ที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของคุณปิลันธ์ บิดาของเธอ

ในฐานะลูกสาวคนโต เธอจึงต้องก้าวเข้ามารับหน้าที่บริหารกิจการโรงแรม แต่เธอก็ยังคงทำงานที่เธอรักควบคู่ไปด้วย ซึ่งบิดามารดาของเธอก็มิได้ว่าอะไร กลับสนับสนุนเสียด้วยซ้ำไป ซึ่งก็ทำให้โอปอล์นึกดีใจอยู่เสมอเพราะตั้งแต่เล็กจนโตไม่ว่าเธอจะทำอะไรบิดามารดาของเธอไม่เคยที่จะขัดใจ หรือบังคับในสิ่งที่ตัวเธอไม่ชอบหรือไม่อยากทำเลยสักครั้ง

ยังไม่ทันที่โอปอล์จะหย่อนตัวลงนั่งทำงาน เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น

“สวัสดีค่ะ” โอปอล์รีบรับโทรศัพท์เมื่อเบอร์ที่โทรเข้ามานั้นไม่คุ้นซะเลย

“หวัดดีปอ นี่พี่โอ๊คนะยะ กว่าจะหาเบอร์เราเจอเนี่ยเหนื่อยชะมัดเลย” ปลายสายบ่นเล็กน้อย

“ค่ะ พี่โอ๊ค สบายดีหรือเปล่าคะ ขอโทษทีที่ปอไม่ได้ไปเจอพี่โอ๊คเลย “

“จ้า แม่คู๊ณ ยังจำพี่ได้ก็ดีใจแล้วล่ะย่ะ พี่สบายดีจ้ะ ได้ยินเสียงปอแบบนี้ พี่คิดว่าปอก็คงสบายดีใช่มั้ย”

“โธ่พี่โอ๊คขา อย่าประชดปอสิคะ เนี่ยตั้งแต่ปอกลับมาก็มัวแต่ยุ่งๆ อย่าโกรธปอเลยนะคะ” โอปอล์อ้อนอย่างอารมณ์ดี

“จ้า พี่เคยโกรธปอมั้ยล่ะ เออ! ว่าแต่ว่า พี่มีงานให้ปอช่วยนิดหน่อยน่ะ แต่พี่มีค่าขนมให้นะจ๊ะ”

“แหม! ยังไม่ทันเจอหน้าก็ให้ช่วยงานเลยนะคะ เอางี้ดีกว่าค่ะ พรุ่งนี้ปอโทรไปหาพี่โอ๊คละกัน พี่โอ๊คใช้เบอร์นี้ใช่มั้ยคะ ตอนนี้ปอขอเตรียมเอกสารเข้าประชุมก่อนนะค๊า”

“โอเคจ้า อย่าลืมนะ “ ปลายสายส่งเสียงอ้อนๆมา การสนทนาจึงเป็นอันยุติลง
โอปอล์วางโทรศัพท์แล้วยังคงอมยิ้ม เมื่อนึกถึงพี่ชายใจหญิงที่แสนดีอีกคน ที่ไม่ได้เจอะเจอกันมาแสนนานหลังจากที่โอปอล์ไปเรียนต่อที่อเมริกาถึง 5 ปีเต็ม



“ตายแล้ว!!! 5 โมงเย็นแล้วเหรอเนี่ย” โอปอล์บ่นกับตัวเองหลังจากยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู นี่เธอทำงานเพลินจนเกือบลืมไปว่าเย็นนี้เธอมีนัด “เฮ้ย! ยังไม่ซื้อของขวัญให้ยิมเลยนี่นา วันนี้เปิดร้านวันแรกด้วย” โอปอล์รีบหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องทำงานทันที

***************************************************************************************************


“เออ เอาร้านนี้แล้วกัน ไม่มีเวลาแล้วนะโอปอล์” โอปอล์บอกกับตัวเองแล้วรีบจอดรถ พลางมองป้ายชื่อร้านดอกไม้ “พิมพ์ฟ้า” ที่บรรยายสรรพคุณอยู่

“เอ๊ะ! รับจัดสวนด้วย เอาไว้ต้องแวะมาคุยซักหน่อยแล้ว” โอปอล์นึกในใจ



“สวัสดีค่ะ” เสียงเจ้าของร้านต้อนรับ เมื่อได้ยินเสียงโมบายที่หน้าประตูสั่นเวลามีลูกค้าเข้าร้าน

โอปอล์คิดในใจ ”ร้านนี้จัดร้านได้สวยทีเดียวแฮะ”

“เออ มีดอกคาร์เนชั่นมั้ยคะ” โอปอล์ถามเจ้าของเสียงที่กำลังจัดดอกไม้ในตู้เย็น เมื่อเธอหันมาจึงทำหน้าแปลกใจแล้วเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มดีใจอย่างรวดเร็ว

“ปอ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” พายรีบเดินเข้ามาคุยด้วย

“กลับมาได้เดือนกว่าแล้วล่ะค่ะ พี่พายสบายดีมั้ยคะ” โอปอล์เห็นสีหน้าของพายสลดไปแล้วก็กลับมายิ้มแย้มอย่างรวดเร็วจึงเปลี่ยนเรื่องพูด

“นี่ร้านของพี่พายเหรอคะเนี่ย”

“ร้านของน้องสาวพี่น่ะจ้ะ ที่พี่เคยเอารูปให้ปอดูไง จำได้มั้ย พี่มาช่วยดูแลน่ะ”

“อ๋อ คนนั้นนั่นเอง” โอปอล์ตอบ แต่ในหัวสมองกำลังนึก คนไหนน๊อน้องสาวของรุ่นพี่เธอ จำได้แค่ว่าพี่พายมีน้องสาวคนหนึ่งนี่นา แต่ไม่ยักกะจำหน้าตาได้แฮะ

“ปอจะเอาดอกอะไรดีล่ะ เดี๋ยวพี่จัดการให้”

“ขอคาร์เนชั่นสีขาวละกันค่ะ แล้วก็รบกวนพี่พายรีบนิดนึงนะคะ พอดีว่าปอต้องไปงานเปิดร้านอาหารของเพื่อนน่ะค่ะ นี่ 5 โมงกว่าแล้ว งานเริ่ม 6 โมง ปอกลัวไปไม่ทัน เดี๋ยวโดนเพื่อนด่าแย่เลย” โอปอล์บอกเสียงอ่อย อย่างเกรงใจ

“จ้า ได้จ้า รอแป๊บนึงนะ เดินดูดอกไม้ไปก่อนนะจ๊ะ” พายเดินไปหยิบดอกไม้ โอปอล์จึงถือโอกาสเดินชมภายในร้าน

ขณะนั้นพิมพ์ลักษณ์เดินเข้ามาพอดี แต่เธอก็ไม่ได้สนใจโอปอล์ เท่าใดนัก คิดว่าคงจะเป็นลูกค้า

“ร้านสวยนะคะ พี่พาย” โอปอล์พูดพลางชื่นชมกับดอกไม้นานาชนิดที่จัดให้เหมาะสมกลมกลืนกันกับร้านอย่างลงตัว การตกแต่งร้านก็ดูน่ารัก มองแล้วทำให้ผู้ที่ได้เข้ามาสัมผัสอดยิ้มชื่นชมไม่ได้

“จ้า ยกความดีความชอบให้น้องสาวตัวดีของพี่น่ะแหล่ะ”

“นินทาอะไรพิมพ์คะพี่พาย” พิมพ์เดินไปช่วยพี่สาวถือดอกไม้
โอปอล์ได้ยินเสียงหยอกล้อของสองพี่น้อง พลางคิดในใจ เสียงคุ้นๆ แฮะ

“ปอ มานี่เร็ว พี่จะแนะนำน้องสาวให้รู้จัก” พายเรียกโอปอล์ เธอจึงหันกลับไปหา

“อ้าว!!! คุณ” โอปอล์ตกใจเมื่อเห็นหน้าหญิงสาวร่างบาง

“คุณ” พิมพ์ลักษณ์ก็ตกใจไม่แพ้กัน

“อ้าว! นี่รู้จักกันแล้วเหรอ” พายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงงงๆ

“ยังหรอกค่ะพี่พาย เพียงแต่แค่เคยเจอกันน่ะค่ะ เอ่อ...เอ่อ อุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะค่ะ” โอปอล์ที่เรียกสติกลับมาได้ก่อน รีบชิงพูด

“พิมพ์ อย่าบอกนะว่าคนที่พิมพ์เล่าให้พี่ฟังเมื่อวาน ก็คือปอ”

“ใช่ค่ะ” พิมพ์ลักษณ์ตอบพี่สาว พร้อมกับเชิ่ดหน้าใส่คนตรงหน้า

“โธ่เอ๊ย!! คนกันเองทั้งนั้น พี่จะแนะนำให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ ปอนี่น้องสาวพี่ชื่อพิมพ์ลักษณ์จ้ะ แล้วนี่ก็โอปอล์รุ่นน้องพี่ที่อเมริกานะยายพิมพ์”

“อ๋อ คนนี้นี่เอง ที่พี่พายเคยเล่าให้ฟังบ่อยๆ ว่าสวย แล้วก็ใจดี แต่ปอว่าไม่น่าจะใช่นะคะ” โอปอล์พูดพลางส่งรอยยิ้มยียวนให้หญิงสาว

“ทำไม ไม่ใช่ แล้วจะทำไม” พิมพ์ลักษณ์ตอบออกไป ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ความหงุดหงิดถึงได้เข้ามาแทนที่ ทั้งที่เมื่อกี้เธอเพิ่งอารมณ์ดีนี่นา

“พอ พอแล้วทั้งคู่น่ะแหล่ะ ปอเดี๋ยวก็ไปไม่มันงานหรอก แล้วยายพิมพ์ก็ไปจัดดอกไม้ได้แล้ว” พายรีบปรามเมื่อเห็นว่าทั้งสองทำท่าจะทะเลาะกันต่อ

“จัดช่อแบบไหนคะพี่พาย” พิมพ์เลือกถามพี่สาวแทนที่จะถามคนกวนโมโหตรงหน้า

“เอายังไงดีล่ะ ปอชอบแบบไหนเป็นพิเศษรึเปล่า”

“เอายังไงก็ได้ค่ะ ปอไม่เรื่องมาก ปอชอบดอกคาร์เนชั่นสีขาว ปอว่าจัดยังไงก็สวยค่ะ” โอปอล์ตอบ แต่ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงรีบบอกต่อ

“เอาเป็นว่าจัดยังไงก็ได้ แต่ปอขอเป็นราคาช่อละ 2,000 ละกันค่ะ” โอปอล์ส่งยิ้มยั่วยวนให้พิมพ์ลักษณ์อีกครั้ง

“นี่คุณ” พิมพ์ลักษณ์หน้าตึงเมื่อนึกถึงเรื่องที่เธอยื่นเงิน 2,000 ให้หญิงสาวร่างสูงคนนี้ ที่เก็บกระเป๋าสตางค์มาคืนให้เธอ ทำให้เธอพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ก้มหน้าก้มตาจัดดอกไม้อย่างขัดใจ

“ได้เลยจ้ะ รับรองคุ้มค่าเงินแน่ พิมพ์จัดให้สุดฝีมือไปเลยนะ”


โอปอล์ยังคงส่งยิ้มกวนๆ ให้กับพิมพ์ลักษณ์ ที่ยังหน้าตาบึ้งตึงอยู่ พลางพินิจพิจารณา ผู้หญิงคนนี้สวยดีเหมือนกันนะ ใบหน้ารูปไข่ ตาโต ขนตาเป็นแพระยับ จมูกโด่งปลายเชิดรั้น ริมฝีปากเรียวบาง ผมที่รวบเป็นมวย มีปอยผมตกลงมาคลอเคลียใบหน้า ทำให้ใบหน้าของผู้หญิงรูปร่างเล็กคนนี้ ดูสวยหวานยิ่งขึ้น พิมพ์ลักษณ์ที่จัดดอกไม้อยู่หันมาเห็นรอยยิ้มของโอปอล์หน้าตาของเธอจึงยิ่งบึ้งตึงเข้าไปอีก เธอแอบบ่นในใจ
คนบ้า ทำไมยิ้มอยู่ได้ หน้าตากวนประสาทชะมัด แล้วทำไมยายคนร่างสูงนี้ถึงได้ชอบดอกคาร์เนชั่นสีขาวเหมือนกับอิงด้วยนะ เมื่อคิดถึงคนรักของเธอ รอยยิ้มใสๆ ก็ปรากฏขึ้นมานั่นทำให้โอปอล์มองเธออย่างงงๆ โอปอล์เผลอคิดในใจ ‘ผู้หญิงอะไรแปลกจัง ! เมื่อกี้ยังทำหน้าดุอยู่เลย แต่ไหงตอนนี้ยิ้มซะแล้ว เฮ้อ แล้วจะต้องไปสนใจเค๊าทำไมเนี่ย’ พิมพ์ลักษณ์เหลือบสังเกตใบหน้าของอีกฝ่าย ที่อยู่ดีๆ ก็เหมือนมีเครื่องหมายคำถามอันเบ้อเร่อแปะอยู่บนใบหน้า เอ๊ะ! จะว่าไปแล้วโอปอล์ก็เป็นผู้หญิงที่หน้าตาดูดีคนหนึ่ง ไม่สิ เข้าขั้นสวยเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าตัดรอยยิ้มที่กวนประสาทออกไปก็คงจะดีไม่น้อย รูปร่างสูง ผิวขาว โครงหน้าเรียวยาวรับกับเครื่องประกอบบนใบหน้าทั้งหมด คิ้วเข้ม ตาเรียว จมูกโด่ง ริมฝีปากชมพูที่อวบอิ่มได้รูป ผมยาวสีดำสยายถึงกลางหลัง เอ๊ะ! ทำไม คนๆ นี้ถึงได้มีลักษณะคล้ายๆ อิงฟ้าคนรักของเธอนักนะ


“เสร็จแล้วคุณ” พิมพ์ลักษณ์ยื่นคาร์เนชั่นสีขาวที่จัดช่อสวยให้โอปอล์ พร้อมด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดน้อยลง

“โอ้โห ไม่น่าเชื่อว่าคุณจะจัดดอกไม้ได้ สวยขนาดนี้นะเนี่ย” โอปอล์ยังคงยั่วหญิงสาวต่อ

“นี่จะรีบไปไม่ใช่เหรอ จ่ายเงินแล้วก็ไปสิ” พิมพ์ลักษณ์บอกด้วยน้ำเสียงกวนๆ

“พิมพ์ ทำไมพูดจาไม่น่ารักแบบนั้นล่ะ” พายรีบปรามน้องสาว

“ช่างเถอะค่ะ ปอไปก่อนนะคะพี่พาย แล้วว่างๆ ปอจะแวะมาหาใหม่” โอปอล์จ่ายเงินพร้อมกับถือช่อดอกไม้

“ขอบคุณนะคะคุณพิมพ์ยักษ์ เอ๊ย พิมพ์ลักษณ์ สำหรับดอกไม้ช่อสวย” พูดจบโอปอล์ก็รีบเดินออกจากร้านไปทันที

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เห็นมั้ยยายพิมพ์มัวแต่ไปตีหน้ายักษ์ใส่เค๊า เค๊าก็เลยแซวกลับเรียกพิมพ์ยักษ์เลย” พายแซวน้องสาว พิมพ์ลักษณ์ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะคู่กรณีเธอวิ่งฉิวไปแล้ว จึงได้แต่ยืนฮึดฮัดอยู่คนเดียว

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


By : viswee    / 14 Jul 2006 13:43

 เหตุผลที่แจ้งลบ :  

 ชื่อผู้แจ้งลบกระทู้ :




www.narak.com | ทอมดี้น่ารัก | บ้านทอมดี้ | น่ารักบอร์ด | ecard.narak.com | IRC Sever | Thai IRC | ห้องคุยสด

งาน หางาน งานราชการ งานรัฐวิสาหกิจ งานสถานศึกษา งานบริษัท หวย | ตรวจหวย สถิติหวย ตรวจสลาก

เกม เกมส์



Code by Moha