Happy 1800 DVD




ลบกระทู้ หมายเลข : 467564

 หัวเรื่อง : Secret Lover รักลับๆเราสองคน Part.3

 ข้อความ :





มาต่อให้แล้วนะคร้าบบ



     คืนวันศุกร์แห่งชาติเวียนมาบรรจบอีกครั้งนับจากวันแรกที่ฉันได้เจอกับ “สาวหล่อ” ร่างสูงที่เหมือนผู้ชายจนฉันแยกแยะไม่ออก หนึ่งอาทิตย์กับการปรากฏตัวของเขา หนึ่งอาทิตย์ที่ทำให้ฉันกลับกลายเป็นคน “ติด” โทรศัพท์อีกครั้งหลังจากที่เลิกติดไปเพราะมันไม่มีอะไรน่าสนใจและก็เพราะคนนั้นที่เข้ามาใส่ความน่าสนใจให้กับโทรศัพท์ของฉันจนทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะหยิบมันขึ้นมาเปิดโน่นเปิดนี่วันละหลายๆรอบ และไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ฉันผิดหวัง

=ซิน ซิน=


//วันนี้ไปร้านพี่ต้อมรึเปล่าฮะ
//เงียบ เงียบ เงียบ
//ไม่ว่างตอบ?? ไม่อยากตอบ??
//เจอกันที่ร้านพี่ต้อมแล้วกันนะฮะ
//ไม่ต้องทำตัวสวย ไม่ต้องแต่งตัวสวย ไม่ต้องน่ารักมากนะครับ
//แค่นี้ซินก็ใจละลาย...แทบจะตายอยู่บนเวทีเกือบทุกวัน

      ฉันไล่สายตาไปตามข้อความแล้วข้อความเล่าที่เด็กน้อยส่งมาหาฉัน นานแล้วที่ฉันไม่เคยรู้สึกร้อนวูบตามใบหน้า หัวใจเต้นแรงแค่ได้เห็นข้อความจากใครบางคนและเฝ้ารอการมาของข้อความเหล่านั้นอย่างใจจดใจจ่อแต่คิดว่าตัวเองคงเก็บอาการอยู่เพราะน้อยครั้งที่ฉันจะตอบข้อความเหล่านั้นกลับไป และครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ฉันทำได้แค่ไล่สายตามอง อ่าน และยิ้มก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมเหมือนกับหลายครั้งก่อน เรื่องอะไรจะตอบให้ได้ใจล่ะ

     "เป็นอะไรของแกวะแจ๊ส ตั้งแต่เดินเข้าร้านชั้นมาเนี่ยฉันเห็นแกยิ้มจนปากจะฉีกถึงรูหู" อย่างน้อยก็มีคนหนึ่งที่มองเห็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของฉันและคนๆนั้นก็คือพาย

     "คนมีความสุข ทำไมจะยิ้มไม่ได้ยะ"

     "มีความสุขแบบนี้ แสดงว่ากำลังมีเด็กใหม่ใช่มะแก"

     "บ้าและยัยพาย คิดบ้างไรบ้างว่าเพื่อนจะมีความสุขเพราะตัวเองน่ะ" ฉันแกล้งตอบ

     "เออ ถ้าเป็นได้แบบนั้นก็ดีว่าแต่แกชินแล้วอ่ะดิ ที่พี่ไทม์เป็นแบบนี้น่ะเมื่อก่อนนะเวลาที่พี่ไทม์บ้างานมากๆแกก็จะหาเรื่องมีกิ๊กอยู่ตลอด" พายยังคงซักฉันต่อทั้งที่ตัวเองก็ยังก้มหน้างุดๆเคลียร์บัญชีร้าน

     "มั้ง" คำตอบของฉันไม่สร้างความแปลกใจให้กับเพื่อนรัก เพราะเจ้าตัวยังคงสนใจสิ่งที่อยู่ในสายตามากกว่าเสียงพูดของฉันในเมื่อมีเพื่อนอยู่ด้วยแต่มันไม่สนใจฉันหันไปสนใจโทรศัพท์มันก็คงไม่แปลก

=ซิน ซิน=


// ยังเงียบ...ซินไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วนะคร้าบ

ไม่ต้องหล่อ น่ารัก มากนะคะ \\

พฤติกรรมเลียนแบบ :”)\\


//มาเลียนแบบกันแบบนี้ คนอ่านคิดเยอะนะคร้าบ

คิดเยอะอะไรคะ เด็กน้อย \\

//กะกะ ก็...คิดว่ามีใจ 555

ตลกมั้ยเนี่ย ป่ะป่ะ ไปอาบน้ำแต่งตัวไปร้านได้แล้ว \\

เดี๋ยวไปทำงานสาย แล้วเจอกันที่ร้านนะคะ \\


// คร้าบผม ย้ำนะคับ ไม่ต้องน่ารัก...

     "พาย! แจ๊สมันเป็นอะไรของมันอ่ะ นั่งยิ้มกับโทรศัพท์" ฉันไม่รู้ตัวสักนิดว่าตัวเองกำลังฉีกยิ้มอยู่กับโทรศัพท์ถ้าหากเสียงแปร๋นๆของนัตตี้ไม่ดังขึ้นมา

     "ไม่รู้ ช่วงนี้เห็นมันอย่างนี้บ่อยมาก...พี่ไทม์คุยกับแกหรอแจ๊ส พี่ไทม์ยอมเล่นวอทแอปแล้วหรอ ทีเฟชฯล่ะปล่อยให้ร้าง แกว่างๆบอกพี่ไทม์ไปเช็ดฝุ่นที่บ้านหน่อยนะ" พายตอบนัตตี้ก่อนจะหันมายิงคำถามใส่ฉันพร้อมกับสารพันคำพูดที่มาจากยัยพาย

     "ฉันว่ามันไม่ได้แชทกับพี่ไทม์ว่ะ"จากคำพูดนี้ที่หลุดมาจากปากนัตตี้ทำให้ฉันมองมันใหม่จากที่เมื่อก่อนฉันคิดว่ามันคงจะเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องชาวบ้านแต่วันนี้มันทำให้ฉันได้รู้ว่ามันเนี่ยจอมสังเกตเลยล่ะ

     "เฮ้ย จริงเปล่าว่ะแจ๊สที่นัตมันพูดอ่ะ"

     "อะไรๆ เดี๋ยวออกมาตอบไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ถ้าพี่ไทม์โทร.มาก็รับให้ด้วยนะแก"ฉันเลี่ยงที่จะตอบคำถามแล้วหนีเข้าห้องน้ำและเหมือนเดิมกับการทิ้งกระเป๋าพร้อมสรรพสิ่งในกระเป๋าเอาไว้กับเพื่อน

     "แจ๊สซี่ แมสเสจ..." นัตตี้ที่ส่งเสียงมาให้ได้ยินว่ามีแมสเสจ คงเป็นพี่ไทม์เหมือนเดิมเพราะรายนั้นถ้าไม่โทร.ก็ส่งแมสเสจทำอยู่สองอย่าง

     "พี่ไทม์มั้ง อ่านให้ฟังหน่อยดิยังออกไปไม่ได้"

     "มาที่ร้านเร็วๆนะครับ...อยากเห็นหน้า คิดถึง" เจ้าของเสียงอ่านเน้นเสียงหนักตรงคำว่าคิดถึง...แถมเนื้อหาข้อความยังส่งมาบอกให้ไปที่ร้านเร็วๆแบบนี้คงจะไม่ใช่พี่ไทม์แล้วล่ะ หรือว่าพี่ไทม์จะเซอร์ไพรส์อะไรฉัน

     "แกช่วยถามพี่ไทม์ให้ทีดิว่าร้านไหน อะไร ยังไง งง" ฉันตะโกนกลับไปทั้งยังส่องกระจกสำรวจความงามบนใบหน้า

     "เออ...ฉันว่าแกออกมาดูเองดีกว่า" ได้ยินนัตตี้ตอบกลับมาแค่นี้ฉันก็พอจะรู้ว่าคงไม่ใช่พี่ไทม์แน่ๆ เพราะถ้าหากเป็นพี่ไทม์มันจะทำในทันทีเพียงแค่สิ้นเสียงของฉัน

     "ไหน" ฉันยื่นมือรอรับโทรศัพท์ของฉันที่อยู่กับนัตตี้

      มาที่ร้านเร็วๆนะครับ...อยากเห็นหน้า คิดถึง
ZinZin

     ฉันอยากจะเอาโทรศัพท์ฟาดหัวตัวเองให้แตกกันไปเลยหรือไม่ก็ต้องเอาสลบพอฟื้นขึ้นมาก็แกล้งทำเป็นความจำเสื่อมยังดีที่เป็นนัตตี้ที่ฉันบอกให้มันเปิดอ่านข้อความนั้น ถ้าหากเป็นพายเรื่องคงยาวกว่านี้ฉันอาจจะโดนซักจนขาวสะอาดหมดจด นัตตี้กับพายเป็นเพื่อนที่สนิทกับฉันแต่พายจะสนิทกับฉันมากกว่าและกล้าที่ขัดขวางในเรื่องที่ฉันทำไม่ได้ ส่วนนัตตี้...ถ้าเรื่องไหนที่ฉันทำแล้วมีความสุขมันก็จะสนับสนุนให้ฉันทำได้อย่างเต็มที่

     "มีอะไรอยากจะสารภาพมั้ยคะคุณเพื่อน" "เร็วๆก่อนที่พายมันจะเดินเข้ามา"

     "แล้วแกมีอะไรอยากจะถามมั้ยคะ"

     "อะไร ยังไง ที่ไหน เมื่อไหร่ แล้วก็ถึงไหน"


     สิ้นเสียงคำถามของนัตตี้ฉันก็เริ่มต้นเล่าเรื่องระหว่างฉันกับซินให้เพื่อนรักฟังโดยไม่ละเอียด เพราะขืนเล่าละเอียดถึงวันที่ฉันเจอกับเขาในวันที่พวกมันกลับกันไปแล้วด้วยล่ะก็มีหวังว่ามันคงจะคิดลึกว่าฉันกับน้องนักร้องเขี้ยวเสน่ห์ไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว

     "ฉันไม่ห้ามแล้วก็จะไม่บอกพายมันด้วย แต่ถ้าแกอยากจะบอกแกก็บอกเองฉันไม่ยุ่ง ฉันยุ่งก็แค่เรื่องที่ฉันรับรู้ งั้นที่แกยิ้มกับวอทแอปก็เพราะเด็กคนนั้นใช่มะ"

     "..."ฉันพยักหน้าแทนคำตอบ

     "เฮ้อ ทอมนะแก...ทอม มันไม่เหมือนผู้ชายนะ ตั้งแต่แกมีแฟนมาก็เป็นพี่ไทม์ มีกิ๊กกี่คนก็มีแต่ผู้ชาย อารมณ์ทอมกับผู้ชายมันไม่เหมือนกันนะแก บางทีทอมอาจจะทำให้แกแค่หวั่นไหวแต่อย่าลืมว่าแกมีพี่ไทม์ผู้ชายคนที่แกเคยคิดว่าจะเป็นคนเดียวที่แกจะแต่งงานด้วย"

     "รู้แล้วน่า ก็แค่ขำๆเห็นเด็กมันมาเวิ่นเว้อใส่ ก็รู้สึกดีประมาณว่าทำไมเวลาฉันหายไปหรือว่าเงียบๆไปพี่ไทม์ไม่ค่อยใส่ใจไม่เห็นจะเคยถามอะไร แต่เด็กนั่นแค่วันนี้ฉันกินข้าวอะไร กินข้าวหรือยัง ไปกินข้าวกับใคร งานเยอะมั้ย เค้าก็สนใจฉันดีอ่ะมันก็ต้องมีวูบๆวาบๆมั่งดิแก หรือว่าแกไม่เป็น"

     "เออ ก็เป็น...แต่ของฉันเป็นกับผู้ชายไงมันก็เลยเหมือนจะปกติอีกอย่างตอนนี้ฉันโสด จะทำอะไรจะไปเที่ยวที่ไหนกับใครหรือว่ารู้สึกพิเศษกับใครสักคนมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่ของแก.."

     "คุยไรกัน มีเรื่องอะไรที่ฉันยังไม่รู้แล้วต้องรู้ป่ะ"พายพูดแทรกขึ้นมาทำให้นัตตี้เงียบ

     "อ๋อ ก็เรื่องที่นัตมันกิ๊กอยู่กับน้องอาร์ตไง"

     ฉันมองหน้านัตตี้ก่อนที่คนตรงข้ามจะพยักหน้ารับและเริ่มพูดเข้าเรื่องของตัวเองจะว่าไปมันก็จริงของเพื่อนที่ตอนนี้สำหรับฉันมันอาจจะเป็นแค่ความหวั่นไหวหรือจะเพราะอะไรก็แล้วแต่ที่กำลังทำให้ฉันอ่อนแอมากๆในเรื่องของหัวใจ แล้วคนๆนั้นก็เดินเข้ามา ค่อยๆแทรกตัวเข้ามาภายในหัวใจของฉัน...แต่ฉันจะยอมให้เขาเข้ามาได้จริงๆน่ะหรอ?

==


     "แจ๊สถึงร้านพี่ต้อมแล้วค่า" ฉันกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์

     "ยังไงก็อย่าดื่มมากนะครับพี่เป็นห่วงแจ๊สนะ" พี่ไทม์พร่ำพูดด้วยประโยคเดิมๆของทุกๆวันที่ฉันมาเที่ยว

     "ค่า รับทราบค่าคุณพ่อ ถ้าขับไม่ไหวจะหาหนุ่มๆให้ไปส่งนะเจ้าคะ" แกล้งยั่วประสาทคนที่ปลายสาย ทั้งๆที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่า รายนั้นน่ะ...ไม่แสดงอาการหึงเป็นพายุเทอร์นาโดแน่ๆ

     "เอาอีกแล้วนะแจ๊ส พี่ไม่ใช่ไม่ห่วง ไม่หวงแจ๊สนะครับแต่งานพี่เยอะแจ๊สเข้าใจพี่นะครับ"

     "พี่ไทม์ก็ซีเรียสไปได้แจ๊สพูดเล่นค่ะ แจ๊สเข้าร้านแล้วนะคะกลับถึงบ้านแล้วจะโทร.รายงานตัวเจ้าค่ะ"

     "พี่ว่าแจ๊สร่าเริงมากกว่าปกตินะช่วงนี้ มีใครอีกหรือเปล่าครับ" อยู่ๆที่ไทม์ก็พูดในเรื่องที่ฉันไม่คาดคิดขึ้นมาแบบนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกว่า มีเซนท์นะ ปกติเห็นมีแต่ผู้หญิงที่เซนท์แรง

     "ถ้าสมมตินะคะ สมมติว่ามีล่ะคะ"

     "ก็เหมือนกับที่พี่เคยบอกแจ๊สตลอดแหละมั้งครับ ว่าถ้าแจ๊สมีใครแจ๊สอยากจะลองไปคบคนนั้นดูก่อนพี่ก็ไม่ว่า...แต่ถ้าไม่เวิร์คก็กลับมา" ไม่น่าถามให้เจ็บที่หัวใจตัวเองเลยจริงๆ

     "ตอบแบบนี้อีกแล้ว ไม่รักกันแล้วอ่ะดิ"

     "รักนะ พี่รักแจ๊สมากแต่ก็อยากให้แจ๊สไปเรียนรู้ด้วยตัวเองไงว่าที่พี่พูดบ่อยๆกับแจ๊สน่ะมันจริงมั้ย อยากจะรู้ว่าจะหวานกันได้ตลอดมั้ย รักกับหลงมันคล้ายกันนะแจ๊สแต่มันไม่เหมือนกันหรอกมันต่างกันมากเลยด้วยซ้ำ" พี่ไทม์ตอบกลับมาด้วยประโยคยาวเหยียดและนั่นก็ย้ำชัดความคิดของฉัน ชีวิตคือการเรียนรู้ นั่นเอง

     "รู้แล้วค่า แจ๊สจะไปมีใครล่ะคะ ก็มีพี่ไทม์คนเดียวนั่นแหละ"

     "งั้นเที่ยวให้สนุกนะครับ พี่เคลียร์งานต่อละถ้ากลับถึงบ้านแล้วโทร.บอกพี่บ้างนะครับพี่เป็นห่วง"


      เมื่อได้พบเธอคนนี้ เพิ่งจะรู้สิ่งใดที่ขาดหาย คือคำว่ารักคำเดียวที่ใจต้องการ หนึ่งเดียวและทุกอย่างแค่ได้รักเธอนั้นคือที่สุด... ฉันได้รับการต้อนรับตั้งแต่เริ่มก้าวเท้าเข้ามาภายในร้านด้วยเสียงทุ้มนุ่มของนักร้องสาวหล่อที่นั่งร้องเพลงหลับตาพริ้มอยู่บนเวทีกับเพลงรักเพราะๆที่แค่ฟังผ่านๆฉันก็รู้แล้วว่า ใคร คือความหมายของเพลงๆนั้น

     "เอาจริงๆนะแจ๊ส ตกลงว่าถึงไหนกันแล้วยะ ดูน้องเค้าเยอะๆยังไงกับแกก็ไม่รู้ดูเพลงแต่ละเพลงที่น้องเค้าร้องดิ"คนที่รู้เรื่องเพียงคนเดียวอย่างนัตตี้อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามแค่ได้ยินคนๆนั้นร้องเพลง รัก

     "ถึงไหนอะไรล่ะ ก็ไม่มีอะไรน้องเค้าก็แค่ร้องเพลงทำงานของเค้าเท่านั้นแหละ แกน่ะมันช่างประติดประต่อเรื่องราว"ฉันแสร้งตอบก่อนจะหันหน้าขึ้นมองคนที่ยังคงหลับตาพริ้มพร้อมกับร้องเพลงรัก

     "ดี ให้มันได้อย่างนี้สิเพื่อนฉาน"” ฉันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่เพื่อนรักพูดทั้งยังคงมองไปยังเวที

     หลังจากที่เล่นเพลงสุดท้ายจบและคนทั้งสามเคลียร์ของบนเวทีของตัวเองเรียบร้อย คนทั้งสามก็เอาตัวเองลงมานั่งที่โต๊ะของฉันและเพื่อนสาวโดยที่นัตตี้บอกฉันกับพายเอาไว้ก่อนแล้วว่าจะชวนทั้งหมดนั่นลงมานั่งด้วยกัน อาร์ตยังคงนั่งเคียงข้างนัตตี้เพื่อนของฉัน ส่วนฉันก็นั่งติดกับยัยพายและคนข้างๆฉันอีกข้างก็คือเขาคุณนักร้องสาวหล่อถัดไปก็คือเพื่อนร่วมวงของเขาที่ออกจะกลัวและเกรงใจแฟนเป็นที่สุด

     "มึงจะไปไหนวะไอ้เวย์"อาร์ตที่เห็นเพื่อนลุกขึ้นยืนก็เลยส่งเสียงถาม

     "แฟนกูมีเรื่องนิดหน่อยว่ะ กูยืมรถมึงหน่อยนะซิน"คนที่ชื่อเวย์ตอบอาร์ตแล้วหันมาพูดกับซินที่นั่งอยู่ข้างๆฉัน ฉันเห็นคนข้างๆฉันส่งกุญแจรถตัวเองให้เพื่อนไปโดยไม่พูดอะไรเลย

     "มันเป็นอย่างนี้ประจำแหละ ไม่ได้ไม่ดีอะไรก็ซิน"คนข้างๆฉันพูดเบาๆอย่างกับต้องการให้ฉันได้ยินเพียงคนเดียว

     "แล้วจะกลับยังไง"ฉันถามกลับไปเสียงเบาไม่ต่างกัน

     "ถ้าไอ้อาร์ตไม่ได้ไปไหนคงให้มันไปส่ง...แต่ถ้ามันจะไปไหนต่อก็แท็กซี่"

     เครื่องดื่มสีอำพันถูกส่งเข้าไปทางปากและไหลต่อไปเรื่อยๆตามเส้นทางประจำของมันทำให้อุณหภูมิภายในร่างกายร้อนระอุขึ้นอย่างที่ควบคุมเอาไว้ไม่ได้ คนที่เคยนั่งห่างกันเป็นคืบก็เริ่มขยับเข้ามาใกล้จนเหลือพื้นที่ว่างระหว่างเราสองคนไม่ถึงคืบ ฉันหันไปมองพายที่นั่งอยู่ด้านข้างก็เห็นว่ารายนั้นน่ะเมาจนแทบจะไม่รู้เรื่องส่วนอีกสาวอย่างนัตตี้ก็กำลังนัวเนียอยู่กับชายหนุ่มร่างสูงที่ชื่อว่าอาร์ตแต่ที่เห็นไม่ค่อยจะดื่มเลยก็คือคนข้างๆฉันอีกฝั่ง ซินซิน

     "กลับกันยังไงพวกแก"ไอซ์เพื่อนสาวอีกคนในกลุ่มที่มันไม่ค่อยจะนั่งกับเพื่อนเพราะต้องไปนั่งเฝ้าผู้ชายของมันเริ่มต้นพูดขึ้นทันทีที่เห็นสภาพของเพื่อนแต่ละคน

     "เดี๋ยวอาร์ตจะปายส่งช้าน พวกแกม้ายต้องเป็นห่วง"คนดู เหมือน เมาอย่างนัตตี้พูดขึ้นทันที ฉันรู้ว่าที่มันกำลังทำตัวเมาอยู่เนี่ยเพราะอยากให้น้องอาร์ตไปส่ง

     "แล้วแกอ่ะแจ๊ส"ไอซ์หันมาถามฉันบ้าง

     "ฉันกลับได้ เดี๋ยวแวะไปส่งพายที่บ้านมันก่อนถ้าไม่ไหวก็นอนบ้านมันถ้าไหวก็กลับบ้านตัวเอง"ฉันพยายามทำตัวไม่เมาเอาให้เนียนที่สุดเพราะกลัวว่าไอซ์จะเป็นห่วง

     "ให้ซินไปส่งพี่พายกับพี่แจ๊สมั้ยฮะ" ไม่รู้ว่าเด็กน้อยยังยืนอยู่ตรงนั้นเลยแม้แต่นิดเดียวถ้าหากเขาไม่เปล่งเสียงทุ้มๆนั่นออกมา

     "เออ ดีเหมือนกันฉันแอบมองเห็น ไอ้ซินมันไม่ได้กินเลย ฉันไม่ไว้ใจแกว่ะแจ๊สให้ซินมันไปส่งแล้วกัน"ไอซ์พูดยาวเหยียดพร้อมยัดเยียดเด็กน้อยให้ขับรถไปส่งฉันและพายอีก

     ตลอดเส้นทางเริ่มต้นจากร้านพี่ต้อมจนถึงบ้านของเพื่อนพายที่สติมันหลุดออกจากร่างสิ้นสติไปแล้วที่เบาะด้านหลัง ฉันจึงเป็นคนบอกทางให้สาวหล่อที่นั่งประจำอยู่ด้านหลังพวกมาลัยทำหน้าที่เป็นพลขับ อาสาขับรถไปส่งเพื่อนรักของฉันให้ถึงบ้านไม่พอเมื่อไปถึงบ้านยัยพายแล้วเขายังต้องแบกเอาร่างเล็กๆของเพื่อนรักฉันเข้าไปส่งถึงในตัวบ้านก่อนที่พี่ชายของยัยพายจะลงมาหามเอาน้องสาวตัวเองขึ้นห้อง

     "ไหวเปล่า วัยรุ่น"” คนที่นั่งเงียบมาตลอดตอนที่มียัยพายนอนแหม็บอยู่ที่เบาะหลังเริ่มส่งเสียงหลังจากที่รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวออกจากบ้านเพื่อนรักของฉันเพียงไม่นาน

     "รุ่นนี้ไม่ไหวแล้ว อยากจะอ้วกอ่ะ"ฉันตอบตามตรง ทั้งมึนทั้งคลื่นไส้ ทั้งอยากจะเอาของที่อยู่ในกระเพาะออกมาให้หมด

     ไม่รอช้าแค่ได้ยินว่าฉันอยากจะอาเจียนเอาของเสียในกระเพาะออกมาเท่านั้นแหละพลขับสาวหล่อที่แสนหล่อของฉันก็บังคับรถเลี้ยวเข้าไปภายในปั๊มน้ำมันก่อนจะจอดรถตรงหน้าร้านสะดวกซื้อ และทิ้งฉันเอาไว้ภายในรถส่วนตัวเองก็รีบเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ก่อนจะออกมาพร้อมกับถุงบรรจุอะไรสักอย่างในมือ

     "ไม่เอาผ้าเย็น เดี๋ยวหน้าเป็นสิว"ฉันตอบไปทั้งที่เห็นผ้าเย็นเพียงเลือนลางเท่านั้น

     "ไม่ได้เอามาเช็ดหน้าให้หรอกน่า เช็ดแขน เช็ดมือ ลดความร้อนในร่างกายก่อน แล้วก็นี่"เขาม้วนปากถุงหูหิ้วที่ได้มา "เผื่ออยากจะอ้วก"

     "ถุงหน้าตาแบบนี้ คุ้นหน้ามากๆ แหวะ แหวะ แหวะ"แค่ได้เห็นถุงหูหิ้วคุ้นตาที่ฉันรับรู้ได้ว่ามันรองรับทุกสิ่งอย่างในกระเพาะฉันได้เท่านั้นไอ้อะไรที่อยากจะออกมามันก็ได้ออกมาสมใจอยาก

     สาวหล่อร่างสูงส่งน้ำให้กับฉันหลังจากที่ฉันถ่ายเทของเสียภายในร่างกายให้ลงสู่ถุงหูหิ้วของร้านสะดวกซื้อเรียบร้อย พร้อมกับรับถุงหูหิ้วนั้นไปทิ้งลงถังขยะอย่างที่ไม่มีท่าทางว่าจะรังเกียจแม้แต่นิดเดียว แล้วเดินกลับมานั่งลงตรงหน้าของฉันที่ยังคงนั่งอยู่บนเบาะนั่งข้างคนขับและหันหน้าตัวเองออกมานอกรถที่เปิดประตูเอาไว้

     "ดีขึ้นมั้ย"เขาถามสายตาคู่นั้นที่มันบอกฉันว่าเขาแสนจะเป็นห่วงฉันเหลือเกิน

     "ดีขึ้นแล้วล่ะ ให้พี่ไปส่งซินที่คอนโดก็ได้นะ จะได้ไม่ต้องนั่งแท็กซี่กลับ...แค่นี้พี่ก็เกรงใจ"

     "ไม่ต้องเกรงใจซินหรอกให้ซินได้ไปส่งพี่แจ๊สให้ถึงบ้านเถอะ พี่แจ๊สไปส่งซินแล้วขับรถกลับเองยิ่งทำให้ซินเป็นห่วงแต่ถ้าไปส่งแล้วไม่กลับแต่ค้างที่คอนโดซินเนี่ยน่าคิด"พูดจบก็ทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่ฉันก่อนที่แววตาคู่นั้นจะเปลี่ยนเป็นการแสดงออกมาให้ฉันรู้ว่าเขาแค่พูดเล่น

     ยิ่งได้เห็นแววตาที่แสนจะมุ่งมั่นของเด็กน้อยก็ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันรู้สึกอบอุ่นเหลือเกินที่มีใครสักคนมาคอยเป็นห่วงฉันจึงไม่ปฏิเสธที่เด็กน้อยจะอาสาพาฉันไปส่งที่บ้าน แค่ได้สัมผัสกับความเย็นที่ถูกส่งมาจากแอร์คอนดิชันเนอร์ภายในรถหนังตาของฉันก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ งีบสักงีบคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้งอย่างน้อยฉันก็บอกทางให้กับพลขับสาวหล่อไปเรียบร้อยแล้วนี่

     "พี่แจ๊ส พี่แจ๊ส... ถึงบ้านแล้วฮะ"ทั้งเสียงทุ้มของคนข้างกายกับแรงเขย่าที่มันอาจจะไม่มากแต่ก็ทำให้ฉันรู้สึกตัว

     "ขอบใจนะ"ฉันพูดกับเจ้าของเสียงปลุกก่อนที่จะขยับตัวแต่ดันติดเข็มขัดนิรภัย ทั้งเอ๋อทั้งเซ่อร์จริงๆ แต่ก่อนที่ฉันจะได้ใช้มือตัวเองปลดล็อคกลับกลายเป็นสาวหล่อร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆที่เอื้อมมือมาทำหน้าที่แทนมือของฉัน ใบหน้าของเราสองคนใกล้กันไม่ถึงคืบจนฉันสัมผัสได้ถึงไออุ่นๆที่ถูกส่งออกมาจากสาวหล่อร่างสูง

     ดวงตาของเราสองคนประสานกันอย่างไม่ตั้งใจจนฉันมองเห็นอะไรบางอย่างในแววตานั้น ทั้งความอบอุ่น ความห่วงใยและอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย ก่อนที่ริมฝีปากของคนตรงหน้าจะเริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้จนสัมผัสเบาๆที่ริมฝีปากของฉัน ฉันหลับตาพริ้มรับสัมผัสนั้นมันช่างเบาบางชวนให้ล่องลอยไปแต่ก่อนที่เขาจะได้รุกล้ำเข้าไปฉันก็รีบดึงสติตัวเองกลับมาเสียก่อน

     "เอ่อ...พี่ว่า พี่ให้ซินขับรถพี่กลับไปก็ได้นะวันนี้ แล้วพรุ่งนี้ถ้าตื่นแล้วเราก็โทร.มาหาพี่แล้วกัน"

     "จะ จะดีหรอฮะ"

     "อืม ดีแล้วล่ะ"พูดจบฉันก็เอาตัวเองลงมาจากรถ เพื่อที่คนมาส่งจะได้ขับรถของฉันกลับ และฉันจะได้ไม่ต้อง เป็นห่วง เขามากนัก

     "เอาเป็นว่า พรุ่งนี้ถ้าพี่แจ๊สตื่นแล้วโทร.มาหาซินดีกว่าแล้วซินจะขับรถมาคืนให้นะฮะ"

     "อืม ขับรถดีๆล่ะแล้วก็...ถ้าถึงคอนโดแล้วโทร.มาบอกกันบ้างก็ดี จะได้ไม่เป็นห่วงมาก"พูดจบฉันก็รีบพาตัวเองเข้าบ้านโดยที่ไม่รอฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่อหรือเปล่า

     สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ฉันจะเรียกมันว่าอะไรดี มันคือความรู้สึกที่แสนพิเศษเมื่อได้จ้องมองเข้าไปให้ดวงตาคู่นั้น ความรู้สึกอบอุ่นที่แล่นเข้าสู่หัวใจเมื่อได้รับสัมผัสนั้น ความอ่อนโยน ความห่วงใย ที่ฉันโหยหามันอยู่ที่ตรงนั้น อยู่ที่คนๆนั้นเกือบจะทั้งหมดหากไม่ติดเพียงอย่างเดียวที่ว่า เขาไม่ใช่ผู้ชาย


--มันคงเป็นความเปลี่ยวเหงาและอ่อนไหว ที่ทำให้จิตใจล่องลอยไปโดยยากต่อการควบคุม "ในวันที่เราใกล้ชิดกัน"--







End Part



==หายไปสักพัก ไม่รู้ว่าคนอ่านจะเยอะขึ้น
พร้อมๆกับกำลังใจที่มากขึ้นด้วยนะครับ
เอาตอนที่ 3 มาให้ได้อ่านกัน
ในที่สุด แจ๊สซี่ของเราก็ใจอ่อนลงมานิสนึง
เนี่ยแหละน๊า ที่เค้าว่า
รักแท้แพ้ใกล้ชิด...
แต่มันจะดำเนินไปอย่างนี้ได้อีกนานแค่ไหน
ยังไงก็ต้องติดตามกันต่อไปนะคร้าบ ==

By : นายกานต์    / 7 Feb 2012 11:52

 Password ของผู้ตั้งกระทู้ :



แจ้งลบกระทู้ ( กรณีไม่ได้เป็นเจ้าของกระทู้ )   ถ้าไม่ได้เป็นเจ้าของกระทู้ ให้ Click ที่นี่ เพื่อแจ้งลบ




www.narak.com | ทอมดี้น่ารัก | บ้านทอมดี้ | น่ารักบอร์ด | ecard.narak.com | IRC Sever | Thai IRC | ห้องคุยสด

งาน หางาน งานราชการ งานรัฐวิสาหกิจ งานสถานศึกษา งานบริษัท หวย | ตรวจหวย สถิติหวย ตรวจสลาก

เกม เกมส์



Code by Moha