Happy 1800 DVD




ลบกระทู้ หมายเลข : 121517

 หัวเรื่อง : รักครั้งใหม่ หัวใจคือเธอ (1)

 ข้อความ :

รักครั้งใหม่ หัวใจคือเธอ (1)

แสงสีทองทาบทอขอบฟ้า บ่งบอกว่ารุ่งอรุณของวันใหม่ได้มาถึงแล้ว ร่างผอมบางนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิมริมระเบียงห้องนอน ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน มีเพียงควันบุหรี่ที่ลอยอ้อยอิ่งจากปลายนิ้วเล็กๆ ตั้งแต่ท้องฟ้ามืดมิดจวบจนกระทั่งแสงอาทิตย์แรกของวันมาทักทาย

"เฮ้อ เช้าแล้วสินะ" เธอกล่าวพึมพำกับตัวเอง พร้อมทั้งค่อยๆ ยกมืออีกข้างที่ไม่ได้คีบบุหรี่ขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่เริ่มไหลริน ความคิดในใจตอนนี้บ่งบอกว่าเธอกำลังคิดถึงใครคนหนึ่งมากเหลือเกิน

"อิงคะ รอพิมพ์นะคะ เดี๋ยวพิมพ์จะไปหา" เสียงพูดเหมือนละเมอฝันของหญิงสาวคล้ายกับว่ากำลังจะบอกใครคนนั้น คนที่หัวใจร่ำร้องเรียกหาอยู่ตลอดเวลา

เธอกลับเข้าไปในห้องนอนก่อนที่จะเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่อีกด้านหนึ่งของห้องนอนกว้างนั้น พิมพ์ลักษณ์ ปล่อยให้น้ำเย็นค่อยๆ ไหลผ่านร่างกายที่เปลือยเปล่าเพื่อขับไล่ความอ่อนล้าจากการที่เธอไม่ได้นอนมาทั้งคืน เธอปล่อยความคิดให้ล่องลอยไป วันนี้คือวันสำคัญของใครคนหนึ่ง และเธอตั้งใจที่จะไปหาเขาแต่เช้า รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้น แต่ในแววตากลับดูเศร้าเหลือเกิน

เสียงโทรศัพท์ดังกังวานขึ้น ทำให้หญิงสาวหลุดออกจากภวังค์

"เฮ้อ ใครนะโทรมาเช้าขนาดนี้" เธอนึกในใจ แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังคงปล่อยให้เสียงโทรศัพท์ดังต่อไป พิมพ์ลักษณ์หลับตาลงพร้อมกับเงยหน้าขึ้นรับสายน้ำเย็นที่ให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำไปสักพักก่อน



เมื่อจัดการกับธุระในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเดินออกจากห้องน้ำมาหยิบเจ้าโทรศัพท์เครื่องจิ๋วขึ้นมากดดู เมื่อเห็นชื่อผู้ที่โทรเข้ามา รอยยิ้มบางก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอีกหน

"สวัสดีตอนเช้าค่ะ พี่พาย" เธอกรอกเสียงหวานลงไป

"จ๊ะพิมพ์ นี่พี่โทรมาปลุกพิมพ์ตั้งแต่เช้าหรือเปล่าเนี่ย"

"เปล่าค่ะ พิมพ์ตื่นแล้วค่ะ แล้วก็กำลังจะออกไปใส่บาตร" เสียงเธอขรึมลงเล็กน้อย

"ต๊าย ตายจริง วันนี้น้องสาวฉันนึกอะไรขึ้นมาเนี่ย จะลุกไปใส่บาตรแต่เช้า วันเกิดพิมพ์เหรอ ไม่ใช่นี่นา" เสียงนั้นบ่งบอกถึงความงุนงงเล็กน้อย

"ไม่ใช่หรอกค่ะ วันนี้..." พิมพ์ลักษณ์หน้าหมองลงไป ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง

"วันเกิดอิงน่ะค่ะ"

"อุ๊ย! พิมพ์เป็นอะไรหรือเปล่า พี่ขอโทษ" เสียงปลายสายตกใจเป็นอย่างมาก

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่พาย พิมพ์ชินซะแล้วล่ะค่ะ ว่าแต่ว่าพี่พายมีอะไรหรือเปล่าคะ ถึงได้โทรมาหาพิมพ์แต่เช้าแบบนี้" น้ำเสียงเธอกลับมาเป็นปกติเช่นเดิม

"คือว่าพี่จะโทรถามพิมพ์น่ะ ว่าวันนี้พิมพ์จะเข้าร้านกี่โมง พอดีบ่ายนี้พี่มีธุระนิดหน่อยน่ะสิ"

"ยังไม่รู้เหมือนกันค่ะ พิมพ์กะว่าจะแวะไปหาอิงก่อนน่ะค่ะ"

"อือ... งั้นเหรอ ไม่เป็นไร ถ้าอย่างนั้นให้เด็กมันดูแลร้านไปก่อนละกัน" เสียงนั้นบ่งบอกว่าเธอยังไม่อยากรบกวนน้องสาวตอนนี้

"..."

"พิมพ์ เป็นไรหรือเปล่าน่ะ ให้พี่ไปเป็นเพื่อนมั้ย"

"ไม่เป็นไรค่ะพี่พาย งั้นแค่นี้นะคะ" พิมพ์ลักษณ์กดวางโทรศัพท์ แล้วหลับตาลง

นี่ครบรอบวันเกิดของอิงฟ้าอีกปีแล้วเหรอเนี่ย เวลามันช่างผ่านไปเร็วเสียจริง แล้วนี่ก็ตั้ง 6 ปีแล้วสินะ ทำไมเธอยังคงเก็บความรู้สึกทุกอย่างไว้เหมือนเดิม พิมพ์ลักษณ์สะบัดหัวพยายามไล่ความคิดนี้ออกไป แล้วรีบแต่งตัว




หลังจากที่พิมพ์ลักษณ์ใส่บาตรเรียบร้อยแล้ว เธอขับรถไปแถบชานเมือง เข้ามาในวัดๆ หนึ่งที่มาอาณาบริเวณกว้างขวางและมีต้นไม้สูงใหญ่ให้ร่มเงามากมาย เธอเดินไปหยุดอยู่หน้าโกฐ พร้อมทั้งวางช่อดอกคาร์เนชั่นสีขาวที่เธอเป็นคนจัดเอง ไว้หน้าโกฐนั้น

"สุขสันต์วันเกิดค่ะอิง" มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ เธอค่อยๆ เอื้อมมือไปลูบโกฐ และมองหน้ารูปถ่ายนั้น น้ำใสๆ เริ่มคลอเคลียอยู่ในเบ้าตา

"สัญญากับอิงนะคะ ว่าพิมพ์จะไม่ร้องไห้อีก นะคะคนดี" เสียงนี้ยังก้องอยู่ในโสตประสาทของพิมพ์ลักษณ์เสมอ

เธอยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา พร้อมทั้งเอื้อมมือกลับไปลูบที่รูปนั้นเบาๆ เธอหลับตาลง เหมือนกำลังส่งความรู้สึกให้คนๆ นั้นรู้ "อิงคะ พิมพ์ยังรักอิงอยู่เหมือนเดิมนะคะ พิมพ์คิดถึงอิงเสมอ ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ปี แต่พิมพ์ก็จะรัก รักอิงตลอดไปนะคะ" เธอลืมตาขึ้นมามองที่รูปอีกครั้ง

"อิงคะ แล้วพิมพ์จะมาเยี่ยมอิงใหม่นะคะ"

**************************************************


ภายในรถยนต์ตระกูลยุโรปคันหรู เสียงเพลงคลอเบาๆ จากวิทยุ คนขับกำลังนั่งฮัมเพลงตามอย่างสบายอารมณ์ พลันเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น มือเรียวยาวเอื้อมออกไปเบาเสียงเพลง

“ฮัลโหล” เสียงใสกรอกลงไป

“นี่ปอ แกอยู่ไหนแล้วเนี่ย ฉันมารอแกตั้งเกือบชั่วโมงแล้วนะ”

โอปอล์รีบเอาโทรศัพท์ออกจากหู เมื่อได้ยินเสียงเพื่อนสนิทตะโกนตอบกลับมาอย่างหงุดหงิด

“เอ้อ ฉันรู้แล้ว แต่แกก็รู้นี่นาว่าการจราจรในกรุงเทพเนี่ยมันเป็นยังไง นี่ฉันก็รีบแล้วนะ อย่าบ่นไปเลยน่า แล้วเจ้าตั้มล่ะถึงหรือยังล่ะน่ะ ”

“ก็ยังไม่ถึงน่ะสิ นี่มันจะบ่ายโมงอยู่แล้ว ฉันหิวจนไส้จะขาดแล้วนะแก”

“แหม เจ้าตั้มก็ยังไม่ถึงเลย รออีกนิดนึงนะจ๊ะ คุณเพื่อน แล้วก็หยุดบ่นเป็นยายแก่ได้แล้ว”

“เออ ไม่ต้องมาพูดดี รีบมาแล้วกัน”

“ค๊า แล้วเดี๋ยวเจอกัน” โอปอล์อมยิ้ม เมื่อนึกถึงเพื่อนสนิทที่เธอพึ่งวางสายไป กี่ปีก็ไม่เคยเปลี่ยนจริงๆ สา ผู้หญิงตัวเล็กที่ชอบพูดจาเสียงดัง และเจ้าอารมณ์อย่าบอกใคร แถมยังแสนงอนอีกด้วย เพื่อนทุกคนต่างรู้และเข้าใจ จึงไม่เคยถือสาเจ้าหล่อนเลย กลับจะชอบหยอกเย้าให้หล่อนงอนอีกด้วยซ้ำไป



เมื่อรถจอดสนิทในลานจอดรถ โอปอล์รีบพาร่างสูงของตัวเองเพื่อรีบเข้าไปยังร้านอาหารที่นัดกับเพื่อนไว้ ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังห้างหนึ่ง เธอมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ พลางนึกในใจว่า ต้องโดนเพื่อนซี้ด่าเละแน่ๆ เพราะหลังจากที่เธอรับโทรศัพท์ นี่ก็เป็นเวลานานพอสมควร กว่าที่เธอจะฝ่าการจราจรอันติดขัดมาได้ โอปอล์รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตั้งใจว่าเธอจะโทรบอกเพื่อนว่าเธอมาถึงแล้ว และในวินาทีนั้นเอง

“โอ๊ย” สองเสียงดังขึ้นพร้อมกัน

โอปอล์พบว่าตัวเองนอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้น และบนตัวเธอยังมีร่างเล็กๆ อีกร่างทับอยู่

“นี่คุณ เดินดูตาม้าตาเรือซะบ้างสิ” หญิงสาวร่างเล็ก พยายามจะลุกขึ้นยืน

“คุณนั่นแหล่ะ ...” โอปอล์หยุดพูดเมื่อสายตาของเธอปะทะกลับตาคมๆ คู่นี้ พลางคิดในใจ ผู้หญิงคนนี้สวยแฮะ

“แล้วช่วยเอามือของคุณออกจากเอวของฉันด้วย” หล่อนพูดออกมาอย่างหงุดหงิด โอปอล์มองมือของตนที่ตอนนี้จับอยู่ที่เอวของหล่อน แล้วรีบชักมือออก

“นี่คุณ แล้วไม่คิดจะช่วยฉันเก็บของเลยหรือไง” หญิงสาวส่งสายตาคมๆ มาที่โอปอล์อีกครั้งหลังจากที่เธอลุกขึ้นยืน พลางก้มลงเก็บของที่กองอยู่ที่พื้น

“เออ ช่วยเก็บก็ได้ เดินมาชนเราแล้วยังจะให้เราช่วยเก็บของอีก” โอปอล์ก้มลงเก็บของให้หล่อนยื่นให้หล่อน เมื่อสาวร่างเล็กได้ของครบแล้ว จึงรีบเดินจากไป

“นี่ คุณ คุณ ขอบคุณสักคำน่ะมีมั้ย” โอปอล์รีบพูด หล่อนหันหน้ากลับมาอีกครั้ง ก็พบสายตากวนๆของโอปอล์เข้า

“แล้วที่คุณเดินชนฉันนี่ล่ะ มีมั้ยคำว่าขอโทษน่ะ” หล่อนกระชากเสียงกลับ

“พูดดีๆ นะคุณ คุณนั่นแหล่ะที่เดินมาชนชั้น” โอปอล์กำลังจะเถียงต่อ แต่โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาซะก่อน

“ฮัลโหล เออ ฉันถึงแล้ว มีอุบัติเหตุนิดหน่อย เดี๋ยวฉันเล่าให้ฟัง” โอปอล์วางโทรศัพท์ พอหันกลับมาก็ไม่เห็นหล่อนเสียแล้ว พลันสายตาก็เหลือบไปเห็น วัตถุสีดำที่วางอยู่บนพื้น โอปอล์รีบเก็บขึ้นมาดู

“เอ๊ะ ของใครหว่า” เธอเปิดดูข้างใน

“ของแม่คนเมื่อตะกี๊นี่นา” โอปอล์รีบมองหา แล้วก็พบว่าหล่อนกำลังจะก้าวขึ้นรถ


“คุณ คุณ” โอปอล์เคาะกระจกรถ ท่าทางเหนื่อยหอบ กระจกรถค่อยเลื่อนลงมา หล่อนส่งสายตาไม่พอใจมาที่โอปอล์

“ทำไม มีอะไรอีกล่ะ” หญิงสาวถามเสียงกวนๆ

“เฮ้อ เฮ้อ คือคุณทำกระเป๋าสตางค์ตกไว้น่ะ” หล่อนทำหน้างง โอปอล์จึงยื่นของที่อยู่ในมือให้หล่อน

“ขอบใจ” หล่อนตอบ

“เออ นึกว่าจะไม่ได้ยินจากคุณซะแล้ว” โอปอล์พูดพลางยิ้ม

“นี่คุณ สำหรับที่คุณเก็บกระเป๋าสตางค์มาคืนฉัน” หล่อนเปิดกระเป๋าสตางค์ พลางหยิบธนบัตรสีเทา 2 ใบ ยื่นให้โอปอล์ โอปอล์หุบยิ้ม ขณะนี้เธอกำลังโกรธ แล้วเธอก็โพล่งกลับไป

“คุณ ฉันเก็บมาให้ เพราะว่าฉันมีน้ำใจ รู้จักมั้ยคำว่าน้ำใจน่ะ เงินของคุณน่ะเก็บไว้เถอะ ฉันไม่ต้องการ หน้าตาคุณก็ดูดี และท่าทางคุณก็ดูมีการศึกษา ทำไมคุณถึง...” โอปอล์เงียบไปพลางหรี่ตามองหล่อน ก็พบว่าหล่อนกำลังตกใจ

“ ถึงอะไร” หล่อนถามกลับ ท่าทางยังดูตกใจอยู่กับท่าทางและคำพูดของโอปอล์

“ช่างมันเถอะ” โอปอล์พูดจบก็เดินจากไป

“เออ ไม่เอาก็อย่าเอา” หล่อนมองตามร่างสูงที่เดินจากไป แล้วก็รีบขับรถออกไป

**************************************************


ภายในร้านอาหารญี่ปุ่น โอปอล์หยุดยืนที่หน้าร้าน กำลังมองหากลุ่มเพื่อนๆของเธอ

“ปอ ทางนี้” เธอมองเห็นเพื่อนซี้ของเธอกำลังพูด แล้วโบกเรียก โอปอล์เดินมาถึงโต๊ะพร้อมด้วยหน้าตาที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่

“นี่แก เป็นอะไรไปยะ หน้าตาบึ้งตึงนี่น่ะ หน้าจะเป็นพวกฉันมากกว่านะ เพราะว่าแกมาช้ามาก” ตั้ม ผู้ชายหัวใจหญิง เพื่อนสนิทอีกคนของโอปอล์พูดทัก

“นั่งก่อนปอ แล้วแกเกิดอุบัติเหตุอะไร ไหนเล่าให้ฟังหน่อยซิ” สา เพื่อนสาวอีกคนบอกกับโอปอล์

“เปล่าหรอก เมื่อกี้แค่เจอคนนิสัยแย่ๆ มาคนหนึ่งน่ะ คนอะไรไม่รู้หน้าตาก็สวยดีหรอก แต่.... เฮ้อ...” โอปอล์ถอนหายใจ

“เล่ามาให้หมดสิยะ เล่าแค่นี้แล้วพวกฉันจะรู้เรื่องมั้ยเนี่ย” สาบ่นใส่โอปอล์

“เออ ขอฉันสั่งอาหารก่อนได้มั้ย ฉันหิวว่ะ แหะๆ” โอปอล์หันไปสั่งอาหาร แล้วจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนฟัง


“ฮ่า ฮ่า ฮ่า โธ่เอ๊ย นึกว่าอะไร เรื่องแค่นี้เอง แกจะไปเก็บมาเป็นอารมณ์ทำไมวะปอ” สาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

“โธ่ แกก็ฉันโมโหนี่หว่า ตั้งแต่เกิดมาพ่อแม่ฉันก็สอนให้ช่วยเหลือคนอื่น ฉันเป็นคนไทยนะ คนไทยน่ะมีน้ำใจ แต่เฮ้อ!!! ทำม๊ายสังคมสมัยนี้มันแปลกๆ อะไรก็ต้องเงิน เงิน เงิน อย่างเดียวหรือไง”

“เงิน เงิน เงิน พวกเราบูชา” ตั้มร้องเพลงยั่วเพื่อน

“พอแล้วนังตั้ม ไม่เห็นเหรอว่าปอมันหน้าบูดแล้ว” สาหัวเราะ พลางบอกให้ตั้มหยุดร้อง

“เออ กินกันเถอะ พวกหล่อนบ่นว่าหิวไม่ใช่เหรอ แล้วก็พูดกันอยู่ได้”

“นี่แก ฉันหิ้วท้องรอแกอยู่น่ะแหล่ะ” สาแขวะกลับตั้ม

“โอ๊ย นี่หล่อนกัดอยู่ได้ ฉันเร็วแล้วนะเนี่ย”

“ย่ะ มาเร็วครั้งนี้ แต่ทุกทีแกก็ก็สายเสมอไม่ใช่เหรอยะ” สากัดต่อ

โอปอล์หัวเราะ เมื่อเพื่อนทั้งสองยังคงกัดกันต่อไป นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่เธอไม่ได้เจอเสียนาน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

By : viswee    / 12 Jul 2006 10:01

 Password ของผู้ตั้งกระทู้ :



แจ้งลบกระทู้ ( กรณีไม่ได้เป็นเจ้าของกระทู้ )   ถ้าไม่ได้เป็นเจ้าของกระทู้ ให้ Click ที่นี่ เพื่อแจ้งลบ




www.narak.com | ทอมดี้น่ารัก | บ้านทอมดี้ | น่ารักบอร์ด | ecard.narak.com | IRC Sever | Thai IRC | ห้องคุยสด

งาน หางาน งานราชการ งานรัฐวิสาหกิจ งานสถานศึกษา งานบริษัท หวย | ตรวจหวย สถิติหวย ตรวจสลาก

เกม เกมส์



Code by Moha